ทรรศนะ บอล 4 เซียน -Viral Listrik di Sejumlah Wilayah Bekasi Padam

วันนี้ (7 ต.ค.2565) ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ลดธงครึ่งเสา 1 วัน ตามคำสั่งของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อเป็นการแสดงความเสียใจและไว้อาลัยต่อผู้เสียชีวิตและผู้สูญเสียในเหตุการณ์ฆาตกรรม
วันนี้ (18 ม.ค.2567) กรณีมีข่าว นายปัญญา หรือ ลุงเปี๊ยก ถูกกล่าวหาว่าลงมือฆ่าป้าบัวผันต่อมาถูกปล่อยต
การควบคุมผู้กระทำความผิดโดยใช้เครื่องมือระบบอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Monitoring) หรือ กำไลอีเอ็ม เป็นมาตรการหนึ่งในการปฏิบัติต่อผู้กระทำความผิดแทนการใช้เรือนจำ ซึ่งได้ถูกคิดค้นขึ้นในช่วงทศวรรษ 1960-1970 โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อลดจำนวนผู้ต้องขังในเรือนจำเป็นสำคัญ จากกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ปัจจุบันอายุ 74 ปี ซึ่งพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจ และขณะนี้เข้าเกณฑ์พักโทษเป็นกรณีพิเศษ เนื่องจากเป็นผู้ต้องขังอาวุโสและเจ็บป่วยเรื้อรัง โดยครบกำหนด 180 วัน ในวันที่ 18 ก.พ.67 โดยไม่ต้องใส่กำไล EM และจะเข้าสู่กระบวนการคุมประพฤติ เป็นเวลา 6 เดือน ก่อนที่จะพ้นโทษ ในช่วงเดือน ส.ค.67 อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่สำนักงานศาลยุติธรรมเริ่มประกาศใช้เมื่อวันที่ 1 มี.ค.2561 เพื่อการติดตามตัวหรือจำกัดการเดินทางของผู้ต้องหา หรือทรรศนะ บอล 4 เซียน จำเลยที่ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว เนื่องจากปัจจุบันกระบวนการยุติธรรมของไทยได้มีการนำ กำไลอีเอ็ม มาใช้ใน ขั้นตอนของการปล่อยตัวชั่วคราว แล้ว โดยศาลเป็นผู้มีอำนาจในการปล่อยตัวชั่วคราว จะใช้ดุลพินิจ เพื่อใช้เป็นมาตรการในการยับยั้งการหลบหนีของจำเลย ปัจจุบันศาลได้สั่งใช้ กำไลอีเอ็ม กับจำเลยควบคู่กับการคุมความประพฤติซึ่งโดยปกติใช้ในฐานความผิดต่างๆ กัน เช่น คดีเสพยาเสพติดฯ พ.ร.บ.อาวุธปืน ฯ คดีลักทรัพย์ ขับรถประมาท เป็นต้น ส่วนเงื่อนไขและระยะเวลาในการใช้เครื่องมือก็แตกต่างกัน ทั้งการห้ามออกนอกที่พักอาศัยตามกำหนดระยะเวลา การห้ามเข้าเขตพื้นที่กำหนด การจำกัดความเร็วในคดีขับรถประมาท ฯลฯ ซึ่งมีความหลากหลายกันในแต่ละศาล หากพบว่าสายรัดกำไลอีเอ็มถูกทำลาย ขาดการติดต่อเนื่องจากไม่ได้ชาร์จแบตเตอรี่ ขาดการติดต่อเนื่องจากอยู่ในพื้นที่อับสัญญาณ หรือเข้าออกนอกพื้นที่กำหนดตามคำสั่งศาล ศูนย์ควบคุมติดตามการปล่อยตัวชั่วคราวฯ จะรายงานพฤติการณ์ให้ศาล เพื่อพิจารณาดำเนินการ และศาลมีอำนาจสั่งบังคับตามสัญญาประกันหรือตามที่ศาลเห็นสมควร เช่น อาจสั่งงดการบังคับตามสัญญาประกันหรือลดจำนวนเงิน โดยคำนึงถึงความพยายามของผู้ประกันในการติดตามตัวผู้ต้องหาหรือจำเลย กรณีที่ผู้ต้องหาหรือจำเลยมีเหตุต้องเข้ารับการรักษาพยาบาลและกำไลอีเอ็มอาจรบกวนหรือส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติงานของแพทย์ โดยปกติแล้วผู้ต้องหาหรือจำเลยที่ได้รับการปล่อยชั่วคราวที่มีการใช้กำไลอีเอ็ม จะไม่สามารถเดินทางโดยเครื่องบินได้ เนื่องจากกำไลอีเอ็มเป็นอุปกรณ์ที่มีลักษณะการทำงานคล้ายกับอุปกรณ์สื่อสาร เช่น วิทยุ โทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อระบบการบินได้ อย่างไรก็ตามหากผู้ต้องหาหรือจำเลยมีเหตุจำเป็นที่ต้องเดินทางโดยเครื่องบิน ให้ดำเนินการดังต่อไปนี้ การถอดอุปกรณ์กำไลอีเอ็มตามที่กำหนดในกฎกระทรวงการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หรืออุปกรณ์อื่นใดในการติดตามตัวผู้ถูกคุมความประพฤติตามเงื่อนไขที่ศาลหรือเจ้าพนักงาน ผู้มีอำนาจสั่ง พ.ศ.2560 ข้อ 4 มี 3 กรณี คือ ส่วนการถอดกำไลอีเอ็มตามที่กำหนดในกฎกระทรวงฯ ข้อ 5 (เหตุฉุกเฉิน) มี 2 กรณี คือ ทั้งนี้การถอดกำไลอีเอ็มตามกฎกระทรวงฯ ข้อ 4 และข้อ 5 (เหตุฉุกเฉิน) มีความแตกต่างกัน กล่าวคือ การถอดอุกำไลอีเอ็มตามกฎกระทรวงฯ ข้อ 4 จะต้องครบกำหนดระยะเวลาตามเงื่อนไขการคุมความประพฤติหรือมีคำสั่งจากศาลหรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจก่อน ส่วนการถอดกำไลอีเอ็มตามกฎกระทรวงฯ ข้อ 5 เมื่อมีเหตุฉุกเฉิน ไม่อาจรอให้ครบกำหนดระยะเวลาตามเงื่อนไขการคุมความประพฤติหรือมีคำสั่งจากศาลหรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจดังกล่าว และพนักงานคุมประพฤติต้องดำเนินการโดยมิชักช้า และรายงานผู้อำนวยการสำนักงานคุมประพฤติทราบทันทีเพื่อรายงานศาลหรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจเพื่อมีคำสั่งต่อไปโดยเร็ว สำหรับนายทักษิณ ชินวัตร ถือว่าเป็นผู้ได้รับการพักโทษกรณีมีเหตุพิเศษฯ เนื่องจากสูงอายุ มีอายุ 74 ปี และเจ็บป่วย คณะกรรมการพิจารณาพักการลงโทษ อาจมีมติหรือความเห็นจะไม่ติดกำไล EM เพราะต้องคำนึงถึงปัญหาเรื่องสุขภาพและอัตราความเสี่ยงน้อยที่จะไปก่อเหตุกระทำผิดซ้ำได้ อ่านข่าวเพิ่ม : "จันทร์ส่องหล้า" บ้านตระกูลชิน-รับแขกสำคัญ สู่ที่พักโทษ "ทักษิณ" "อุ๊งอิ๊ง" ยังไม่รู้ "ทักษิณ" ออกวันไหน 18 หรือ 22 ก.พ.รอหมอสรุป ที่มา : สำนักงานกิจการยุติธรรม, สำนักส่งเสริมงานตุลาการศาลยุติธรรม, กองอำนวยการบังคับใช้กฎหมายเพื่อการคุมประพฤติ กรมคุมประพฤติ
การควบคุมผู้กระทำความผิดโดยใช้เครื่องมือระบบอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Monitoring) หรือ กำไลอีเอ็ม เป็นมาตรการหนึ่งในการปฏิบัติต่อผู้กระทำความผิดแทนการใช้เรือนจำ ซึ่งได้ถูกคิดค้นขึ้นในช่วงทศวรรษ 1960-