UID: 28497

วันนี้ (20 ต.ค.) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. ลงนามข้อตกลงความร่วมมือกับ กองทุนเพื่อความเสมอภ

หลังจากราคาหมูแพงขึ้น คนบางกลุ่มหันไปบริโภคโปรตีนทางเลือกอื่นทดแทนอย่าง "เนื้อปลา" โดยที่ จ.พิมาย จ.

วันนี้ (20 ต.ค.) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. ลงนามข้อตกลงความร่วมมือกับ กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ขับเคลื่อนการแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาใน กทม. โดยเฉพาะกลุ่มเด็กยากจนและยากจนพิเศษ เพื่อให้ได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพ และสูงที่สุดเท่าที่ต้องการ ผู้ว่าฯ กทม. ระบุว่า ที่ผ่านมา กทม.ได้คัดกรองเด็กยากจนและยากจนพิเศษในโรงเรียนสังกัด กทม. และได้ฐานข้อมูลเด็กกลุ่มนี้กว่า 9,000 คน แต่ตัวเลขนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น เพราะในความเป็นจริง กทม. ยังมีเด็กยากจนอยู่อีกจำนวนมาก และในจำนวนเด็กกว่า 9,000 คน ขณะนี้มีเพียง 6,159 คน เท่านั้นที่เข้าเกณฑ์รับเงินจากกองทุนเสมอภาคเพื่อการศึกษา ซึ่งกทม. ยังต้องคัดกรองเด็กที่เหลือจนกว่าจะพบเด็กที่เหมาะสมกับทุนเสมอภาคฯ ที่สุด โดยจะมีการมอบให้ในช่วงภาคเรียนที่สองในเดือนพฤศจิกายนนี้ เป็นเงินปีละ 3,000 บาทต่อคน จ่ายต่อเนื่อง 3 ปี ส่วนเด็กยากจนคนอื่นๆ ที่ยังไม่ถูกคัดกรอง ก็จะยังเป็นเป้าหมายสำคัญที่ กทม. ต้องเข้าไปติดตาม เพี่อทำให้เด็กกลุ่มนี้ยังคงอยู่ในระบบการศึกษาต่อไป บันทึกข้อตกลงความร่วมมือนี้มีระยะเวลา 3 ปี เป้าหมายมุ่งไปที่เด็กทั้งในระบบ และนอกระบ777 เกม slotmafia88 เครดิต ฟรี ไม่ ต้อง แชร์คา สิ โน ออนไลน์ ถูก กฎหมายบ รวมถึงครู และบุคลากรทางการศึกษา เพื่อให้เด็กเข้าถึงทุนสนับสนุนทางการศึกษาจากหน่วยงานรัฐและเอกชน เพื่อโอกาสทางการศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้นตามศักยภาพ อีกทั้งยังมีการสนับสนุนการพัฒนาครู และสถานศึกษาให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้เรียน นอกจากนี้ กสศ. และองค์กรภาคีทั้งในประเทศ และต่างประเทศ จะร่วมสนับสนุนองค์ความรู้ด้านวิชาการ นวัตกรรมการลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา การติดตามผลการดำเนินงานตามความร่วมมือนี้ รวมทั้งการขับเคลื่อนข้อเสนอเชิงนโยบายเพื่อสร้างความเสมอภาคทางการศึกษาทั้งในระดับชาติ และระดับนานาชาติ

กลายเป็นกระแสในสื่อสังคมออนไลน์ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา เกี่ยวกับกรณีอัปเดตศัพท์ใหม่จากราชบัณฑิตยสถาน