เว็บบอลนอก
วันนี้ (28 ก.พ.2567) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี
฿43463
บาท1
ห้องนอน
98
ห้องน้ำ
963
ตร.ม.
฿ 6379
/ ตารางเมตร
เว็บบอลนอก
วันนี้ (30 ธ.ค.2564) นพ.ภมร ดรุณ นายแพทย์สาธารณสุข
UID: 12744
วันนี้ (7 ก.ย.2565) นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พร้อมด้วยนา
วันนี้ (13 ก.พ.2566) จากกรณีที่ชายวัย 67 ปี เจ้าของธุรกิจ เข้าร้องเรียนที่สถานีตำรวจภูธรเมืองฉะเชิงเ
กระแสของภาพยนตร์เรื่องออปเพนไฮเมอร์ (Oppenheimer) ทำให้ชื่อของนักวิทยาศาสตร์ในยุค “ตื่นวิทยาศาสตร์” ของสหรัฐอเมริกา กลายเป็นที่ถูกพูดถึงมากมาย ซึ่งในตอนนั้นนักวิทยาศาสตร์จากทั่วโลกต่างหลั่งไหลเข้ามาในสหรัฐฯ จนกลายเป็นแหล่งสร้างผลงานด้านวิทยาศาสตร์ที่สำคัญของโลก นักวิทยาศาสตร์เหล่านี้เราอาจคุ้นชื่อพวกเขาเป็นอย่างดี เช่น จูเลียส รอเบิร์ต ออปเพนไฮเมอร์ ผู้ที่ชีวิตของเขาถูกนำมาทำเป็นภาพยนตร์เรื่องนี้ ตลอดไปจน แอลเบิร์ต ไอน์สไตน์ เจ้าของทฤษฎีสัมพัทธภาพ เอนรีโก แฟร์มี และเออร์เนสต์ ลอว์เรนซ์ ผู้มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาวิชานิวเคลียร์ฟิสิกส์ แต่หนึ่งในบุคคลสำคัญที่ฝากผลงานทางฟิสิกส์จนทำให้สหรัฐฯ กลายเป็นประเทศมหาอำนาจด้านวิทยาศาสตร์ ที่เราจะพูดถึงกันในบทความนี้ได้แก่ริชาร์ด ไฟน์แมน นักฟิสิกส์สายเลือดอเมริกันแท้ที่โด่งดังและมีผลงานมากมาย ตั้งแต่การเป็นหนึ่งในนักวิทยาศาสตร์โครงการแมนฮัตตัน การเป็นบุคคลสำคัญของสหรัฐฯ ในการผลักดันการศึกษานิวเคลียร์ฟิสิกส์ และภาเว็บบอลนอกยหลังคือฟิสิกส์อนุภาค การเป็นหนึ่งในผู้ให้คำปรึกษากับองค์การนาซา และช่วยสอบสวนอุบัติเหตุกระสวยอวกาศแชลเลนเจอร์ ในปี 1968 แต่หนึ่งในบทบาทสำคัญของไฟน์แมน คือการเป็นอาจารย์ที่สถาบันเทคโนโลยีแคลิฟอร์เนีย (แคลเทค) ที่ทำให้เขากลายเป็นอาจารย์คนโปรดของนักฟิสิกส์ทั่วสหรัฐฯ หรือทั่วโลก หนึ่งในหนังสือของไฟน์แมนที่ได้รับการพูดถึงมากที่สุดนอกเหนือจากบทความทางวิชาการ ได้แก่หนังสือชื่อ “Surely You're Joking, Mr. Feynman!” (ซึ่งแปลเป็นไทยได้ว่า “คุณกำลังล้อเล่นอยู่แน่ ๆ คุณไฟน์แมน”) ที่เขาเขียนขึ้นในปี 1985 เนื้อหาในเล่ม เขาได้เขียนประวัติเรื่องราวชีวิตของตัวเองผ่านมุมมองการศึกษาธรรมชาติ และได้พูดถึงเหตุการณ์สำคัญ ๆ หลากหลายเหตุการณ์โดยเฉพาะในตอนที่เขาทำงานในโครงการแมนฮัตตัน ซึ่งก็คือในช่วงที่ถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ออปเพนไฮเมอร์ นอกจากการนำเสนอชีวิตส่วนตัวแล้วไฟน์แมนยังเขียนถึงความรักของเขาที่มีต่อวิชาฟิสิกส์และการศึกษาธรรมชาติด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ รวมถึงมีเนื้อหาจิกกัดสังคมและการเมืองสหรัฐฯ ว่ามีความย้อนแย้งในการสนับสนุนพัฒนาการด้านวิทยาศาสตร์อย่างไร รวมถึงมีเนื้อหาที่ฝากความหวังให้กับคนรุ่นใหม่ในการพัฒนาโลกให้เจริญก้าวหน้าขึ้นผ่านวิทยาศาสตร์ เนื้อหาดังกล่าวถูกเขียนขึ้นด้วยสำนวนแบบเป็นกันเอง ทีเล่นทีจริง เหมือนอาจารย์กำลังเล่าเรื่องราวและมุมมองโลกให้กับลูกศิษย์ได้ฟัง ซึ่งก็เป็นหนึ่งในบุคลิกความเจ้าคารมของไฟน์แมนตั้งแต่สมัยที่เขายังหนุ่ม แม้กระทั่งชื่อของหนังสือก็ยังมาจากบทสนทนาของเขากับสาวร้านกาแฟที่แปลกใจที่ไฟน์แมนสั่งชาร้อนคู่กับครีมและมะนาวพร้อมกัน แต่สิ่งที่แสบสันที่สุดของไฟแมน คือในบทที่ชื่อว่า “Cargo cult science” ที่ถอดบทมาจากสุนทรพจน์ของเขาในปี 1974 ที่พูดถึง “การก้มหน้าบูชาผลลัพธ์” ที่ไฟน์แมนเปรียบเปรยสิ่งที่เกิดขึ้นในโลกวงการวิชาการว่าผู้คนต่างสนผลลัพธ์แต่ไม่สนกระบวนการ (ซึ่งเป็นแก่นของวิทยาศาสตร์) และพยายามสร้างเทคโนโลยีต่าง ๆ ขึ้นมาโดยหวังว่าสิ่งเหล่านั้นจะนำไปสู่การแก้ปัญหาที่ถูกต้อง แต่แท้จริงแล้วพวกเขาต่างแค่เลียนแบบสิ่งที่ไม่รู้เลยว่าพวกเขาทำสิ่งนั้นไปทำไม คำว่า “Cargo cult” ที่ไฟน์แมนหยิบมาเป็นชื่อของคำอธิบายปรากฏการณ์นี้นั้นก็มาจากการสังเกตพฤติกรรมของชาวเผ่ากลางเกาะที่ถูกใช้เป็นฐานทัพอากาศ ในช่วงสงครามพวกทหารมักจะนำเครื่องบินมาลงจอดพร้อมกับวิทยาการใหม่ ๆ แต่เมื่อสงครามจบแล้วพวกเหล่าชาวเผ่าก็ยังคาดหวังให้มีเครื่องบินมาลงจอดอยู่ พวกเขาจึงพยายามสร้างสนามบินจำลอง นำเอาไฟมาวางเป็นทางคล้ายไฟจากทางวิ่งของเครื่องบิน หรือสร้างหอสูงที่คล้ายกับหอวิทยุ แต่สุดท้ายสิ่งที่พวกเขาทำกลับไม่ได้นำพาพวกเขาไปไหนเลย เพราะพวกเขาสนใจแต่ “สินค้า (Cargo)” ที่พวกเขาได้รับ ไม่ใช่ “กระบวนการการผลิตเครื่องบิน” เท่ากับว่าหอคอยและทางวิ่งที่พวกเขาสร้างขึ้นนั้นสูญเปล่าและไร้ประโยชน์ แนวคิดดังกล่าวส่งผลต่อแนวคิดในการวางนโยบายด้านวิทยาศาสตร์เป็นอย่างมาก ซึ่งบรรดานักฟิสิกส์ในยุคนั้นก็ต่างอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นไปในทำนองเดียวกัน เอนรีโก แฟร์มีเอง ยังเคยกล่าวว่า “งานวิจัยวิทยาศาสตร์อาจไม่ได้ปกป้องประเทศนี้ (สหรัฐฯ) แต่งานวิจัยวิทยาศาสตร์จะทำให้ประเทศควรค่าแก่การปกป้องตะหาก” “Surely You're Joking, Mr. Feynman!” จึงกลายเป็นหนังสือที่หลายสำนักยกย่องในฐานะอิทธิพลสำคัญต่อมุมมองของคน ให้เห็นคุณค่าของงานวิจัยและวิทยาศาสตร์ในแบบที่มันควรจะเป็น --------------------------“รอบรู้ ดูกระแส ก้าวทันโลก” ไปกับ Thai PBS Sci & Tech
กระแสของภาพยนตร์เรื่องออปเพนไฮเมอร์ (Oppenheimer) ทำให้ชื่อของนักวิทยาศาสตร์ในยุค “ตื่นวิทยาศาสตร์”
วันนี้ (7 ก.ย.2565) นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พร้อมด้วยนา
วันนี้ (13 ก.พ.2566) จากกรณีที่ชายวัย 67 ปี เจ้าของธุรกิจ เข้าร้องเรียนที่สถานีตำรวจภูธรเมืองฉะเชิงเ
กระแสของภาพยนตร์เรื่องออปเพนไฮเมอร์ (Oppenheimer) ทำให้ชื่อของนักวิทยาศาสตร์ในยุค “ตื่นวิทยาศาสตร์” ของสหรัฐอเมริกา กลายเป็นที่ถูกพูดถึงมากมาย ซึ่งในตอนนั้นนักวิทยาศาสตร์จากทั่วโลกต่างหลั่งไหลเข้ามาในสหรัฐฯ จนกลายเป็นแหล่งสร้างผลงานด้านวิทยาศาสตร์ที่สำคัญของโลก นักวิทยาศาสตร์เหล่านี้เราอาจคุ้นชื่อพวกเขาเป็นอย่างดี เช่น จูเลียส รอเบิร์ต ออปเพนไฮเมอร์ ผู้ที่ชีวิตของเขาถูกนำมาทำเป็นภาพยนตร์เรื่องนี้ ตลอดไปจน แอลเบิร์ต ไอน์สไตน์ เจ้าของทฤษฎีสัมพัทธภาพ เอนรีโก แฟร์มี และเออร์เนสต์ ลอว์เรนซ์ ผู้มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาวิชานิวเคลียร์ฟิสิกส์ แต่หนึ่งในบุคคลสำคัญที่ฝากผลงานทางฟิสิกส์จนทำให้สหรัฐฯ กลายเป็นประเทศมหาอำนาจด้านวิทยาศาสตร์ ที่เราจะพูดถึงกันในบทความนี้ได้แก่ริชาร์ด ไฟน์แมน นักฟิสิกส์สายเลือดอเมริกันแท้ที่โด่งดังและมีผลงานมากมาย ตั้งแต่การเป็นหนึ่งในนักวิทยาศาสตร์โครงการแมนฮัตตัน การเป็นบุคคลสำคัญของสหรัฐฯ ในการผลักดันการศึกษานิวเคลียร์ฟิสิกส์ และภาเว็บบอลนอกยหลังคือฟิสิกส์อนุภาค การเป็นหนึ่งในผู้ให้คำปรึกษากับองค์การนาซา และช่วยสอบสวนอุบัติเหตุกระสวยอวกาศแชลเลนเจอร์ ในปี 1968 แต่หนึ่งในบทบาทสำคัญของไฟน์แมน คือการเป็นอาจารย์ที่สถาบันเทคโนโลยีแคลิฟอร์เนีย (แคลเทค) ที่ทำให้เขากลายเป็นอาจารย์คนโปรดของนักฟิสิกส์ทั่วสหรัฐฯ หรือทั่วโลก หนึ่งในหนังสือของไฟน์แมนที่ได้รับการพูดถึงมากที่สุดนอกเหนือจากบทความทางวิชาการ ได้แก่หนังสือชื่อ “Surely You're Joking, Mr. Feynman!” (ซึ่งแปลเป็นไทยได้ว่า “คุณกำลังล้อเล่นอยู่แน่ ๆ คุณไฟน์แมน”) ที่เขาเขียนขึ้นในปี 1985 เนื้อหาในเล่ม เขาได้เขียนประวัติเรื่องราวชีวิตของตัวเองผ่านมุมมองการศึกษาธรรมชาติ และได้พูดถึงเหตุการณ์สำคัญ ๆ หลากหลายเหตุการณ์โดยเฉพาะในตอนที่เขาทำงานในโครงการแมนฮัตตัน ซึ่งก็คือในช่วงที่ถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ออปเพนไฮเมอร์ นอกจากการนำเสนอชีวิตส่วนตัวแล้วไฟน์แมนยังเขียนถึงความรักของเขาที่มีต่อวิชาฟิสิกส์และการศึกษาธรรมชาติด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ รวมถึงมีเนื้อหาจิกกัดสังคมและการเมืองสหรัฐฯ ว่ามีความย้อนแย้งในการสนับสนุนพัฒนาการด้านวิทยาศาสตร์อย่างไร รวมถึงมีเนื้อหาที่ฝากความหวังให้กับคนรุ่นใหม่ในการพัฒนาโลกให้เจริญก้าวหน้าขึ้นผ่านวิทยาศาสตร์ เนื้อหาดังกล่าวถูกเขียนขึ้นด้วยสำนวนแบบเป็นกันเอง ทีเล่นทีจริง เหมือนอาจารย์กำลังเล่าเรื่องราวและมุมมองโลกให้กับลูกศิษย์ได้ฟัง ซึ่งก็เป็นหนึ่งในบุคลิกความเจ้าคารมของไฟน์แมนตั้งแต่สมัยที่เขายังหนุ่ม แม้กระทั่งชื่อของหนังสือก็ยังมาจากบทสนทนาของเขากับสาวร้านกาแฟที่แปลกใจที่ไฟน์แมนสั่งชาร้อนคู่กับครีมและมะนาวพร้อมกัน แต่สิ่งที่แสบสันที่สุดของไฟแมน คือในบทที่ชื่อว่า “Cargo cult science” ที่ถอดบทมาจากสุนทรพจน์ของเขาในปี 1974 ที่พูดถึง “การก้มหน้าบูชาผลลัพธ์” ที่ไฟน์แมนเปรียบเปรยสิ่งที่เกิดขึ้นในโลกวงการวิชาการว่าผู้คนต่างสนผลลัพธ์แต่ไม่สนกระบวนการ (ซึ่งเป็นแก่นของวิทยาศาสตร์) และพยายามสร้างเทคโนโลยีต่าง ๆ ขึ้นมาโดยหวังว่าสิ่งเหล่านั้นจะนำไปสู่การแก้ปัญหาที่ถูกต้อง แต่แท้จริงแล้วพวกเขาต่างแค่เลียนแบบสิ่งที่ไม่รู้เลยว่าพวกเขาทำสิ่งนั้นไปทำไม คำว่า “Cargo cult” ที่ไฟน์แมนหยิบมาเป็นชื่อของคำอธิบายปรากฏการณ์นี้นั้นก็มาจากการสังเกตพฤติกรรมของชาวเผ่ากลางเกาะที่ถูกใช้เป็นฐานทัพอากาศ ในช่วงสงครามพวกทหารมักจะนำเครื่องบินมาลงจอดพร้อมกับวิทยาการใหม่ ๆ แต่เมื่อสงครามจบแล้วพวกเหล่าชาวเผ่าก็ยังคาดหวังให้มีเครื่องบินมาลงจอดอยู่ พวกเขาจึงพยายามสร้างสนามบินจำลอง นำเอาไฟมาวางเป็นทางคล้ายไฟจากทางวิ่งของเครื่องบิน หรือสร้างหอสูงที่คล้ายกับหอวิทยุ แต่สุดท้ายสิ่งที่พวกเขาทำกลับไม่ได้นำพาพวกเขาไปไหนเลย เพราะพวกเขาสนใจแต่ “สินค้า (Cargo)” ที่พวกเขาได้รับ ไม่ใช่ “กระบวนการการผลิตเครื่องบิน” เท่ากับว่าหอคอยและทางวิ่งที่พวกเขาสร้างขึ้นนั้นสูญเปล่าและไร้ประโยชน์ แนวคิดดังกล่าวส่งผลต่อแนวคิดในการวางนโยบายด้านวิทยาศาสตร์เป็นอย่างมาก ซึ่งบรรดานักฟิสิกส์ในยุคนั้นก็ต่างอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นไปในทำนองเดียวกัน เอนรีโก แฟร์มีเอง ยังเคยกล่าวว่า “งานวิจัยวิทยาศาสตร์อาจไม่ได้ปกป้องประเทศนี้ (สหรัฐฯ) แต่งานวิจัยวิทยาศาสตร์จะทำให้ประเทศควรค่าแก่การปกป้องตะหาก” “Surely You're Joking, Mr. Feynman!” จึงกลายเป็นหนังสือที่หลายสำนักยกย่องในฐานะอิทธิพลสำคัญต่อมุมมองของคน ให้เห็นคุณค่าของงานวิจัยและวิทยาศาสตร์ในแบบที่มันควรจะเป็น --------------------------“รอบรู้ ดูกระแส ก้าวทันโลก” ไปกับ Thai PBS Sci & Tech
กระแสของภาพยนตร์เรื่องออปเพนไฮเมอร์ (Oppenheimer) ทำให้ชื่อของนักวิทยาศาสตร์ในยุค “ตื่นวิทยาศาสตร์”
สิ่งอำนวยความสะดวก
การตกแต่ง
เครื่องปรับอากาศ
ชั้นบน
เตาอบ/ไมโครเวฟ
ความสะดวกโดยรอบ
กล้องวงจรปิด
เครืองปรับอากาศ
โถงรอลิฟท์ร้านอาหาร
ทางเข้าหลัก
ยอดสินเชื่อโดยประมาณ
รายละเอียดสินเชื่อ
ยอดสินเชื่อที่ต้องชำระต่อเดือนโดยประมาณ
฿ 0 / เดือน
฿ 0 เงินต้น
฿ 0 ดอกเบี้ย
ค่าใช้จ่ายที่อาจต้องมีเบื้องต้น
เงินดาวน์ทั้งหมด
฿ 0
เงินดาวน์
จำนวนสินเชื่อ ฿ 0 ในอัตรา 0% ของสินเชื่อต่อราคาบ้าน (Loan-to-value)
วันนี้ (8 ก.ค.2565) พนักงานสอบสวน สน.คันนายาว พร้อ

วันนี้ (18 ต.ค.2566) กรมควบคุมมลพิษ รายงานสถานการณ์ฝุ่นละอองในพื้นที่ กรุงเทพมหานครและปริมณฑล วันนี้ (18 ตุลาคม 2566) ตรวจวัดได้อยู่ในช่วง 24.3 – 49.8 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) อยู่ในระดับ
ดูรายละเอียดโครงการคำถามที่พบบ่อย
วันนี้ (3 ม.ค.2566) กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข รายงานสถานการณ์ผู้ป่วยโควิด-19 สัปดาหที่ 52 (ระหว่
วันนี้ (3 พ.ค.2568) ที่สถานีตำรวจนครบาลบางขุนเทียน พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พร้อมกับตำรว
วันนี้ (1 พ.ย.2565) พ.ต.อ.ชัยวัฒน์ บูรณะ ผก.ฝ่ายทะเบียนประวัติอาชญากร 2 สํานักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าว
วันนี้ (15 ม.ค.2568) ศาลรัฐธรรมนูญ ออกเอกสารข่าวผลการประชุม โดยมีมติเป็นเอกฉันท์มีคำสั่งไม่รับคำร้อง
ภาคเอกชนร่วมกำหนดยุทธศาสตร์ต้านคอร์รัปชั่น การทุจริตคอร์รัปชั่นที่ฝังรากในไทยมานานและรุนแรงมากขึ้น ท
ค้นหาประกาศอื่นรอบๆ ทุ่งพญาไท
จากสิ่งที่คุณค้นหา คุณอาจจะสนใจตัวเลือกต่อไปนี้
slot joker แตก บ่อยแอ ป สล็อต ฟรี เครดิต
ลิเวอร์พูล เช ล ซี ล่าสุด