ิ บอล วัน นี้

หา ได้ ราย เสริม

วันนี้ (29 พ.ค.2567) นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้งลงนาม ระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการเลือก สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ฉบับที่ 2 พ.ศ.2567 ลงวันที่ 29 พ.ค.2567 โดยเป็นการแก้ไขเพิ่

ความคืบหน้า กรณีการสู้รบระหว่างทหารเมียนมากับฝ่ายทหารสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNU) และกองกำลังปกป้องป

วันนี้ ( 1 ส.ค.2566) นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า สูตรตั้งรัฐบาล “หักหลังถ้วนหน้า” ทั้งนี้มีการขยายประเด็นว่า สูตรตั้งรัฐบาลเสมือนยาน้ำที่ต้อง “เขย่าก่อนกิน” แต่ดันไม่อ่านฉลากข้างขวดยาให้ดีเสียก่อน เพราะสูตรยานี้มีส่วนผสม “สารอันตราย“ เข้าไปด้วย โดยคนปรุงคือเพื่อไทย ที่เดินสายสลายขั้วเจรจาผสมสูตรใต้ดินจนตกผลึกสัดส่วนได้ที่ นำเสนอทดลองยาให้ดู มีส่วนผสม ดังนี้ เพื่อไทย ภูมิใจไทย ประชาธิปัตย์ ชาติไทยพัฒนา ประชาชาติ ชาติพัฒนากล้า เสรีรวมไทย และพรรคเล็ก รวมแล้วได้ 264 เสียง สูตร “รัฐบาลหักหลังถ้วนหน้า” นี้ กำลังถูกนำเสนอในวันที่ 2 ส.ค.และวันที่ 4 ส.ค.นี้  โหวตเศรษฐาเป็นนายกรัฐมนตรี คนที่กินล้วนออกอาการ “หลังหัก” ทันที เพราะ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ พรรคก้าวไกลและสส.ในการโหวตนายกรอบ 2 พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ พรรคก้าวไกลและสส.ในการโหวตนายกรอบ 2 นายชูวิทย์ ระบุอีกว่า อันนี้เป็นตัวยา “หักหลังสามต่อ” ไม่เอาทั้งลุง ไม่เอาทั้งเรา โดนสามเด้ง พลังประชารัฐ รวมไทยสร้างชาติ ก้าวไกล ไปเป็นฝ่ายค้านด้วย 221 เสียง กลายเป็นฝ่ายค้านที่อ่อนแอ เพราะเป็น 2 กลุ่มค้านกันเองที่ไปกันไม่ได้ แต่ต้องไปอยู่ด้วยกัน ถูกหักหลังกลางทาง จึงไม่มีความแข็งแกร่งพอจะไปทำอะไรรัฐบาลในอนาคตได้ ที่หนักสุด คือ หักหลังประชาชนที่ลงคะแนน 26 ล้านเสียง ให้ฝั่งประชาธิปไตย ดังนั้น ขืนมีใครกินเข้าไปก็เสี่ยงเต็มทน เพราะหลังหักหมด ยาสูตรนี้กำลังโปรโมท โฆษณาอยู่ทั่วไป แต่มีฉลากติดไว้ข้างขวดว่า “ยาอันตราย หากกินเข้าไปจะเกิดอาการเจ็บหลัง ลำไส้ปั่นป่วน และอาจทำให้คนเดินทางไกลไม่ได้กลับบ้านด้วย” อ่านข่าวเพิ่ม วัดพระพุทธฉาย แจงไม่เคยเชิญนักการเมือง ทริป "พิธา" เวียนเทียน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังิ บอล วัน นี้ประชารัฐ ขณะที่ น.ต.ศิธา ทิวารี แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคไทยสร้างไทย ทวีตข้อความในทวิตเตอร์ ระบุว่า ฉากทัศน์ที่ผู้บริหาร เพื่อไทย พยายาม เขียนเสือให้วัวกลัว จนขี้หดตดหาย คือ 188 เสียงจะซื้องูเห่า ประชาชนจะอดตายอยู่แล้ว ถ้าตั้งรัฐบาลช้าลุงจะกลับมา แต่ประชาชนไม่ได้กินหญ้า จึงรู้ว่า 14 พ.ค.ประชาธิปไตย ชนะอย่างราบคาบ ผลโหวตที่ออกมาคือการจับเผด็จการลงหลุม ปิดผ้ายันต์บังสกุลเรียบร้อยแล้ว แต่คนที่ไปปลุกผีให้คืนชืพ กลับมาหลอกหลอนได้อีก กลับกลายเป็นพรรค เพื่อไทย พี่ใหญ่ฝ่ายประชาธิปไตย ถ้าพรรคเพื่อไทยไม่แกว่ง มัดรวมกันไว้ 312 เสียงดังที่เคยเสนอให้ทำ #AdvanceMOU ย่อมเหมือนเราได้มากกว่าเป้าแลนสไลด์ 310 ถึง 2 เสียง ประชาธิปไตยแข็งแรงเกินคาด ต่อให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้กลับมาเป็น นายกคนที่ 30 ลุงก็อยู่ได้อีกไม่ถึง 1 ปี เพราะเกินวาระดำรงตำแหน่ง 8 ปี ต้องเลือกนายกใหม่ เผด็จการก็แพ้ราบคาบ เลือกนายกใหม่ สว.ก็ไม่มีสิทธิเลือกแล้ว เพราะเกินวาระที่เหลืออายุอีกแค่ 10 เดือน ก็ต้องเก็บกระเป๋า กลับบ้านเก่ากันหมดแล้ว 188 เสียง ก็แพ้ราบคาบอีก แต่ถ้าเพื่อไทย นำคะแนนเสียงของประชาชน ที่ออกไปโหวตลงคะแนนให้เพื่อไปไล่เผด็จการฯ กลับไปทูนหัวใส่พานมอบคืนให้พรรค 2 ลุง มันเหมือนการปลุกผี ขึ้นมาจากหลุมอีกครั้งประชาชนไม่มีสิทธิ์รู้เลย ว่าพรรคที่กลายพันธุ์ไขว้ข้ามขั้ว จะเป็น ซอมบี้ ไปด้วยหรือไม่? อำนาจเผด็จการที่เดิมอยู่ได้ไม่ถึง 10 เดือน เมื่อได้กำลังเสริมอีก 141++ เสียง จะได้ต่ออายุออกไปอีก 4 ปี? 8ปี? 16ปี? หรือตลอดไป? ไม่มีใครรู้ที่สิ้นสุดว่าเผด็จการครองเมือง ไปอีกนานแค่ไหน เดิมพันนี้สูงยิ่งนัก สูงกว่าพ.ร.บ.สุดซอย เพราะมัน ไม่ใช่ทางตัน แต่มันจะทะลุ ลงถนน โดยศรัทธาประชาชน ที่เคยรัก เคยเป็นผนังทองแดงกำแพงเหล็ก คุ้มครองให้ อาจหายวับ ไปในชั่วพริบตา ฉากทัศน์ที่ผู้บริหาร #เพื่อไทย พยายาม #เขียนเสือให้วัวกลัว จนขี้หดตดหาย คือ 188เสียงจะซื้องูเห่า,ประชาชนจะอดตายอยู่แล้ว,ถ้าตั้งรัฐบาลช้าลุงจะกลับมา ฯลฯ แต่ประชาชนไม่ได้กินหญ้า จึงรู้ว่า 14พค. ปชต. ชนะอย่างราบคาบ ผลโหวตที่ออกมาคือการจับเผด็จการลงหลุม… อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง หวังดีด "ก้าวไกล" ทิ้ง “เพื่อไทย” ต้องจ่ายต้นทุนหนักมาก เปิดสถิติ 12 ปี คุรุสภา ลงโทษ "ครู" ทำผิดจรรยาบรรณ 174 คน

วันนี้ ( 1 ส.ค.2566) นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า สูตรตั้งรัฐบาล “หักหลังถ้วนหน้า” ทั้งนี้มีการขยายประเด็นว่า สูตรตั้งรัฐบาลเสมือนยาน้ำที่ต้อง “เขย่าก่อนกิน” แต่ดันไม่อ่า