UID: 03971

วันนี้ (12 มี.ค.2567) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มค

ไม่ว่ารัฐบาลนี้ จะอยู่ครบเทอม หรือท้ายที่สุดแล้ว นายกฯจะตัดสินใจยุบสภาด้วยเหตุผลใด การเมืองไทยในปี 2

ส.ฟุตบอลเตรียมชี้แจงงบ 310 ล้านบาทต่อ กมธ.กีฬาวุฒิสภา สมาคมฟุตบอลเตรียมจะชี้แจงงบประมาณจำนวน 310 ล้านที่ได้จากการกีฬาแห่งแม ท บอล วัน นี้ประเทศไทยให้กับคณะกรรมาธิการการกีฬาวุฒิสภา เพื่อความโปร่งใส ส.ฟุตบอลเตรียมชี้แจงงบ 310 ล้านบาทต่อ กมธ.กีฬาวุฒิสภา คณะกรรมมาธิการการกีฬาวุฒิสภาเรียกนายองอาจ ก่อสินค้า เลขาธิการสมาคมฟุตบอล และดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ประธานบริษัทไทยพรีเมียร์ลีกเข้าไปชี้แจง และชี้แนะให้ประกาศแผนการทำงานของบริษัท การมีส่วนร่วมของทีมอย่างชัดเจน รวมถึงเรื่องงบประมาณที่ได้จากรัฐบาลจำนวน 310 ล้านบาทในการจัดการแข่งขันลีกภายในประเทศ ซึ่งทางสมาคมฟุตบอลเตรียมที่จะชี้แจงเงินจำนวนนี้ให้กับคณะกรรมการการกีฬาวุฒิสภา ส่วนเงินที่ได้จากผู้สนับสนุนเอกชนคงจะไม่สามารถเปิดเผยได้เพราะเป็นเรื่องของภายในสมาคม นอกจากนี้ บริษัทไทยพรีเมียร์ลีกยังชี้แจงว่าในอนาคตมีแผนที่จะลดโควต้านักเตะต่างชาติลงจากเดิม 7 ลง 5 มาเป็น 5 ลง 3 รวมกับผู้เล่นในโควต้าอาเซี่ยนอีก 1 คน เหมือนกับใน AFC ส่วนการเปลี่ยนแปลงอีก 1 อย่างที่สมาคมฟุตบอลวางแผนระยะกลางที่จะทำคือการลดจำนวนทีมใน AIS ลีก ดิวิชั่น 2 โดยใช้การกำหนดมาตรฐานเพื่อลดจำนวนทีมเทียบเท่ากับดิวิชั่น 1 และไทยพรีเมียร์ลีกส่วนทีมที่ไม่ผ่านจะต้องไปเล่นนอกลีก ซึ่งเรื่องนี้จะมีการแจ้วกับสโมสรให้ทราบอย่างน้อย 2-3 ฤดูกาล ภายในเดือนตุลาคมสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยเตรียมที่จะพิจารณาคำอุทธรณ์ของทีมนครปฐม ที่โดนโทษแบน 2 ปีในกรณีที่แฟนบอลนครปฐมรุมทำร้ายผู้ตัดสิน  กรรมการ และการพกอาวุธปืนเข้ามาในสนามมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์กำแพงแสน ซึ่งทีมนครปฐมนอกจากจะยื่นอุทธรณ์กับสมาคมแล้วยังต้องทำแผนรับรองความปลอดภัย การปรับปรุงสนามเหย้าด้วยเพื่อรับรองความปลอดภัยให้กับทีมที่จะร่วมแข่งขันด้วย อย่างไรก็ตาม นายองอาจ ก่อสินค้า ยืนยันว่าหากทีมนครปฐมอุทธรณ์ผ่านจะต้องมีการพิจารณาอีกครั้งว่านครปฐมจะได้กลับมาเล่นดิวิชั่น 1 เช่นเดิมหรือไม่ ตามกฎของสมาคมฟุตบอลทีมที่ไม่ได้ส่งทีมเข้าร่วมแข่งขันเป็นเวลา 2 ปี หากจะกลับมาส่งแข่งขันอีกครั้งจะต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่ คือเล่นนอกลีก หรือใน AIS ลีก ดิวิชั่น 2 ซึ่งกรณีนี้หากนครปฐมอุทธรณ์ไม่ผ่านต้องโดนโทษแบน 2 ปี หากกลับมาเล่นอีกครั้งจะต้องไปเริ่มต้นเล่นใน AIS ลีกดิวิชั่น 2 ใหม่ คณะกรรมมาธิการการกีฬาวุฒิสภาเรียกนายองอาจ ก่อสินค้า เลขาธิการสมาคมฟุตบอล และดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ประธานบริษัทไทยพรีเมียร์ลีกเข้าไปชี้แจง และชี้แนะให้ประกาศแผนการทำงานของบริษัท การมีส่วนร่วมของทีมอย่างชัดเจน รวมถึงเรื่องงบประมาณที่ได้จากรัฐบาลจำนวน 310 ล้านบาทในการจัดการแข่งขันลีกภายในประเทศ ซึ่งทางสมาคมฟุตบอลเตรียมที่จะชี้แจงเงินจำนวนนี้ให้กับคณะกรรมการการกีฬาวุฒิสภา ส่วนเงินที่ได้จากผู้สนับสนุนเอกชนคงจะไม่สามารถเปิดเผยได้เพราะเป็นเรื่องของภายในสมาคม นอกจากนี้ บริษัทไทยพรีเมียร์ลีกยังชี้แจงว่าในอนาคตมีแผนที่จะลดโควต้านักเตะต่างชาติลงจากเดิม 7 ลง 5 มาเป็น 5 ลง 3 รวมกับผู้เล่นในโควต้าอาเซี่ยนอีก 1 คน เหมือนกับใน AFC ส่วนการเปลี่ยนแปลงอีก 1 อย่างที่สมาคมฟุตบอลวางแผนระยะกลางที่จะทำคือการลดจำนวนทีมใน AIS ลีก ดิวิชั่น 2 โดยใช้การกำหนดมาตรฐานเพื่อลดจำนวนทีมเทียบเท่ากับดิวิชั่น 1 และไทยพรีเมียร์ลีกส่วนทีมที่ไม่ผ่านจะต้องไปเล่นนอกลีก ซึ่งเรื่องนี้จะมีการแจ้วกับสโมสรให้ทราบอย่างน้อย 2-3 ฤดูกาล ภายในเดือนตุลาคมสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยเตรียมที่จะพิจารณาคำอุทธรณ์ของทีมนครปฐม ที่โดนโทษแบน 2 ปีในกรณีที่แฟนบอลนครปฐมรุมทำร้ายผู้ตัดสิน  กรรมการ และการพกอาวุธปืนเข้ามาในสนามมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์กำแพงแสน ซึ่งทีมนครปฐมนอกจากจะยื่นอุทธรณ์กับสมาคมแล้วยังต้องทำแผนรับรองความปลอดภัย การปรับปรุงสนามเหย้าด้วยเพื่อรับรองความปลอดภัยให้กับทีมที่จะร่วมแข่งขันด้วย อย่างไรก็ตาม นายองอาจ ก่อสินค้า ยืนยันว่าหากทีมนครปฐมอุทธรณ์ผ่านจะต้องมีการพิจารณาอีกครั้งว่านครปฐมจะได้กลับมาเล่นดิวิชั่น 1 เช่นเดิมหรือไม่ ตามกฎของสมาคมฟุตบอลทีมที่ไม่ได้ส่งทีมเข้าร่วมแข่งขันเป็นเวลา 2 ปี หากจะกลับมาส่งแข่งขันอีกครั้งจะต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่ คือเล่นนอกลีก หรือใน AIS ลีก ดิวิชั่น 2 ซึ่งกรณีนี้หากนครปฐมอุทธรณ์ไม่ผ่านต้องโดนโทษแบน 2 ปี หากกลับมาเล่นอีกครั้งจะต้องไปเริ่มต้นเล่นใน AIS ลีกดิวิชั่น 2 ใหม่

ส.ฟุตบอลเตรียมชี้แจงงบ 310 ล้านบาทต่อ กมธ.กีฬาวุฒิสภา สมาคมฟุตบอลเตรียมจะชี้แจงงบประมาณจำนวน 310 ล้า