UID: 75534

ธ.ก.ส.ออก 3 มาตรการช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบภัยแล้ง คณะรัฐมนตรีเตรียมประชุมพิจารณามาตรการช่วยเหลือเยี

วันนี้ (11 พ.ค.2565) กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศฉบับที่ 11 เรื่องพายุ “อัสนี” บริเวณอ่าวเบงกอล โดยมีร

ธ.ก.ส.ออก 3 มาตรการช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบภัยแล้ง คณะรัฐมนตรีเตรียมประชุมพิจารณามาตรการช่วยเหลือเยียวยาในวันพรุ่งนี้ (14 ก.ค.2558) ขณะที่ ธ.ก.ส.ออก 3 มาตรการบรรเทาความเดือดร้อนให้กับเกษตรกรที่ประสบปัญหาภัยแล้งวงเงินกว่า 60,000 ล้านบาท ธ.ก.ส.ออก 3 มาตรการช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบภัยแล้ง ทหารทุกเหล่าทัพระดมกำลังเพื่อแก้ไขปัญหาภัยแล้งอย่างยั่งยืนในทุกมิติตามคำสั่งของพล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมและผู้บัญชาการทหารบก รวมถึงข้อกำชับต่อการสร้างการรับรู้และปลูกจิตสำนึกเพื่อการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้น้ำให้เหมาะสมกับสถานการณ์และหากพื้นที่ใดส่อเค้าที่อาจเกิดปัญหาการแย่งชิงน้ำจะเร่งเข้าไปชี้แจงและประสานงานเพื่อแก้ปัญหา พร้อมจัดรถบรรทุกน้ำ 6,000 ลิตรออกแจกจ่ายประชาชนและติดตั้งประปาสนามที่ผลิตน้ำได้ชั่วโมงละ 3,000 ลิตร ตลอดจนสนับสนุนเครื่องบินปฏิบัติภารกิจฝนหลวงเพื่อเร่งคลี่คลายสถานการณ์ ขณะที่การประชุมคณะรัฐมนตรีพรุ่งนี้ (14 ก.ค.2558) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เตรียมพิจารณามาตรการบรรเทาความเดือดร้อน หลังสถานการณ์ภัยแล้งปี 2558 กระทบน้ำต้นทุนในการผลิตประปาสำหรับอุปโภคบริโภค จึงกำชับให้ทุกฝ่ายช่วยกันประหยัดน้ำ ด้านที่ประชุมคณะกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ที่มีนายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธาน เห็นชอบมาตรการบรรเทาความเดือดร้อนเกษตรกรลูกค้าธนาคารและสมาชิกสหกรณ์การเกษตรที่ประสบภัยแล้ง 3 มาตรการ วงเงินรวมกว่า 60,000 ล้านบาท ทั้งยืดเวลาชำระหนี้ไม่เกิน 9 เดือน กรณีพิเศษนาน 12 เดือนและออกโครงการปล่อยกู้อัตราดอกเบี้ยต่ำ วงเงิน 30,000 ล้านบาท ระหว่างวันที่ 15 ก.ค.- 15 ต.ค.2558 โดยแบ่งตามความจำเป็นเร่งด่วนในอัตราดอกเบี้ยต่ำ รวมทั้งการปล่อยสินเชื่อเพื่อการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตระยะยาว อายุโครงการ 3 ปี ซึ่งเกษตรกรผู้กู้สามารถชำระเงินคืนภายใน 10 ปี หรือกรณีมีความจำเป็นธนาคารจะพิจารณาการชำระเงินต้นในช่วง 3 ปีแรก คาดว่าจะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนเกษตรกรที่กำลังประสบปัญหาภัยแล้งประมาณ 1,000,000 คน มีรายงานว่าการประชุม ครม.ในวันพรุ่งนี้ กระทรวงมหาดไทยจะรายงานสรุปพื้นที่ประสบภัยแล้งและเตรียมนำน้ำจากแหล่งน้ำสำรองคือ สระของบึงพระราม 9 บ่อบาดาลและแหล่งน้ำต่างๆไปให้ จ.ปทุมธานี สำรองใช้ ขณะที่การประปาส่วนภูมิภาคและการประปานครหลวงประเมินสถานการณ์ว่ายังสามารถให้บริการประชาชนได้ ส่วนกรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เตรียมเสนอ ครม.ลดปริมาณการปล่อยน้ำจาก 28 ล้านลูกบาศก์เมตร เหลือ 18 ล้านลูกบาศก์เมตร ตั้งแต่วันที่ 16 ก.ค.2558 โดยเกษตรกรจะไม่สูบน้ำไปใช้ประโยชน์อื่น เพื่อทำให้น้ำเพียงพอต่อการใช้อุปโภคและบริโภคของประชาชนไปจนถึงเดือนสิงหาคม 2558 ขณะที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเสนอมาตรการช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้งด้านอื่นๆ รวมทั้งโครงการลดค่าครองชีพเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากปัญหาดังกล่าว ทหารทุกเหล่าทัพระดมกำลังเพื่อแก้ไขปัก ฬา sbobetญหาภัยแล้งอย่างยั่งยืนในทุกมิติตามคำสั่งของพล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมและผู้บัญชาการทหารบก รวมถึงข้อกำชับต่อการสร้างการรับรู้และปลูกจิตสำนึกเพื่อการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้น้ำให้เหมาะสมกับสถานการณ์และหากพื้นที่ใดส่อเค้าที่อาจเกิดปัญหาการแย่งชิงน้ำจะเร่งเข้าไปชี้แจงและประสานงานเพื่อแก้ปัญหา พร้อมจัดรถบรรทุกน้ำ 6,000 ลิตรออกแจกจ่ายประชาชนและติดตั้งประปาสนามที่ผลิตน้ำได้ชั่วโมงละ 3,000 ลิตร ตลอดจนสนับสนุนเครื่องบินปฏิบัติภารกิจฝนหลวงเพื่อเร่งคลี่คลายสถานการณ์ ขณะที่การประชุมคณะรัฐมนตรีพรุ่งนี้ (14 ก.ค.2558) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เตรียมพิจารณามาตรการบรรเทาความเดือดร้อน หลังสถานการณ์ภัยแล้งปี 2558 กระทบน้ำต้นทุนในการผลิตประปาสำหรับอุปโภคบริโภค จึงกำชับให้ทุกฝ่ายช่วยกันประหยัดน้ำ ด้านที่ประชุมคณะกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ที่มีนายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธาน เห็นชอบมาตรการบรรเทาความเดือดร้อนเกษตรกรลูกค้าธนาคารและสมาชิกสหกรณ์การเกษตรที่ประสบภัยแล้ง 3 มาตรการ วงเงินรวมกว่า 60,000 ล้านบาท ทั้งยืดเวลาชำระหนี้ไม่เกิน 9 เดือน กรณีพิเศษนาน 12 เดือนและออกโครงการปล่อยกู้อัตราดอกเบี้ยต่ำ วงเงิน 30,000 ล้านบาท ระหว่างวันที่ 15 ก.ค.- 15 ต.ค.2558 โดยแบ่งตามความจำเป็นเร่งด่วนในอัตราดอกเบี้ยต่ำ รวมทั้งการปล่อยสินเชื่อเพื่อการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตระยะยาว อายุโครงการ 3 ปี ซึ่งเกษตรกรผู้กู้สามารถชำระเงินคืนภายใน 10 ปี หรือกรณีมีความจำเป็นธนาคารจะพิจารณาการชำระเงินต้นในช่วง 3 ปีแรก คาดว่าจะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนเกษตรกรที่กำลังประสบปัญหาภัยแล้งประมาณ 1,000,000 คน มีรายงานว่าการประชุม ครม.ในวันพรุ่งนี้ กระทรวงมหาดไทยจะรายงานสรุปพื้นที่ประสบภัยแล้งและเตรียมนำน้ำจากแหล่งน้ำสำรองคือ สระของบึงพระราม 9 บ่อบาดาลและแหล่งน้ำต่างๆไปให้ จ.ปทุมธานี สำรองใช้ ขณะที่การประปาส่วนภูมิภาคและการประปานครหลวงประเมินสถานการณ์ว่ายังสามารถให้บริการประชาชนได้ ส่วนกรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เตรียมเสนอ ครม.ลดปริมาณการปล่อยน้ำจาก 28 ล้านลูกบาศก์เมตร เหลือ 18 ล้านลูกบาศก์เมตร ตั้งแต่วันที่ 16 ก.ค.2558 โดยเกษตรกรจะไม่สูบน้ำไปใช้ประโยชน์อื่น เพื่อทำให้น้ำเพียงพอต่อการใช้อุปโภคและบริโภคของประชาชนไปจนถึงเดือนสิงหาคม 2558 ขณะที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเสนอมาตรการช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้งด้านอื่นๆ รวมทั้งโครงการลดค่าครองชีพเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากปัญหาดังกล่าว

วันนี้ (27 พ.ค.2568) กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนตกหนักถึงหนั