วันนี้ (5 ก.พ.2567) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แอมเนสตี้ เตรียมจัดกิจกรรมยื่นรายชื่อถึงรัฐบาลไทย เรียกร้อง
Negative Income Tax หรือ NIT ได้รับการเสนอโดยนักเศรษฐศาสตร์ชื่อดัง "มิลตัน ฟรีดแมน" เจ้าของประโยคที่โด่งดัง "โลกนี้ไม่มีอะไรที่ได้มาฟรี ๆ" หรือ "There's no such thing as a free lunch" เจ้าของรางวัลโนเ
Negative Income Tax หรือ NIT ได้รับการเสนอโดยนักเศรษฐศาสตร์ชื่อดัง "มิลตัน ฟรีดแมน" เจ้าของประโยคที่โด่งดัง "โลกนี้ไม่มีอะไรที่ได้มาฟรี ๆ" หรือ "There's no such thing as a free lunch" เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาเศรษฐศาสตร์ แนวคิดของ Negative Income Tax (NIT) ถูกเสนอขึ้นมาเพื่อแก้ไขปัญหาความยากจนและการกระจายรายได้อย่างไม่เท่าเทียมกัน ฟรีดแมน มองว่าคนที่ทำงานแต่มีรายได้น้อยก็ควรได้รับเงินสนับสนุนเพิ่มเติมจากรัฐ เริ่มจากการกำหนดระดับรายได้พื้นฐานขั้นต่ำ หากบุคคลใดมีรายได้น้อยกว่าระดับนี้ รัฐบาลจะจ่ายเงินชดเชยส่วนที่ขาด เพื่อให้รายได้ของพวกเขาเพิ่มขึ้นไปถึงระดับขั้นต่ำนี้ แนวคิด NIT ถูกนำเสนอและวิจารณ์กันในวงการเศรษฐศาสตร์มาหลายทศวรรษ แต่ในทางปฏิบัติยังไม่มีประเทศใดที่นำระบบ NIT มาใช้อย่างเต็มรูปแบบ แต่ก็มีบางประเทศที่ได้ทดลองใช้แนวคิดนี้ในบางพื้นที่หรือในบางกรณีเฉพาะ สหรัฐอเมริกา ช่วงทศวรรษ 1960-1970 มีการทดลองโครงการ NIT ในหลายรัฐของสหรัฐอเมริกา ผลการทดลองพบว่า มีประชาชนเริ่มลดชั่วโมงการทำงานของตัวเองลง สื่อถึงผู้คนเริ่มรู้ว่า ทำงานน้อย ๆ ก็ได้เพราะมีเงินชดเชยจากรัฐเข้าช่วย จึงเป็นประเด็นที่ทำให้โครงการนี้ไม่ได้ถูกนำมาใช้ในวงกว้าง แคนาดา ในทศวรรษ 1970 แคนาดามีการทดลองโครงการคล้าย NIT ที่เรียกว่า "Mincome" ในเมือง Dauphin ซึ่งก็ได้รับผลการทดลองที่คล้ายกับของสหรัฐฯ คือมีการลดชั่วโมงการทำงานลงเล็กน้อย แต่ในขณะเดียวกันก็มีกำไรทางสังคมในด้านสุขภาพและการศึกษา ฟินแลนด์ ในปี 2017-2018 รัฐบาลฟินแลนด์ได้ทำการทดลองให้เงินสนับสนุนพื้นฐาน (Universal Basic Income หรือ UBI) กับประชาชนกลุ่มหนึ่ง ซึ่งแม้จะไม่ใช่ NIT โดยตรง แต่มีความคล้ายคลึงในแง่ของการให้รายได้พื้นฐานแก่ประชาชนโดยไม่ต้องผ่านกระบวนการสวัสดิการที่ซับซ้อน เนเธอร์แลนด์ เมือง Utrecht ในประเทศเนเธอร์แลนด์ได้ทำการทดลองเกี่ยวกับรายได้พื้นฐานในปี 2017 โดยมุ่งเน้นไปที่การให้รายการ ถ่ายทอด สด ฟุตบอล คืน นี้ได้พื้นฐานที่แน่นอนโดยไม่คำนึงถึงรายได้ที่มีอยู่เดิม เพื่อศึกษาเรื่องพฤติกรรมการทำงานและความเป็นอยู่ของประชาชน สหราชอาณาจักร มีโครงการที่คล้ายกับแนวคิด NIT เช่น Working Tax Credit และ Universal Credit ซึ่งเป็นการสนับสนุนรายได้ให้กับผู้ที่ทำงานแต่มีรายได้ต่ำ แม้จะไม่ใช่ NIT ในรูปแบบเต็มที่ แต่ก็เป็นความพยายามที่จะสร้างสวัสดิการที่ตอบสนองต่อรายได้ของประชาชน บราซิล Bolsa Família เป็นโครงการที่จ่ายเงินสนับสนุนให้กับครอบครัวที่มีรายได้น้อย โดยมีเงื่อนไขว่าต้องส่งลูก ๆ ไปเรียนหนังสือและรับการฉีดวัคซีนครบถ้วน แม้โครงการนี้จะไม่ใช่ NIT แต่ก็มีจุดมุ่งหมายในการลดความยากจนและสร้างโอกาสทางการศึกษาที่คล้ายคลึงกับเป้าหมายของ NIT อิตาลี ในปี 2019 อิตาลีได้เริ่มโครงการ "Reddito di Cittadinanza" ซึ่งเป็นระบบช่วยเหลือทางการเงินให้กับผู้ที่มีรายได้น้อยโดยมีเงื่อนไขว่าผู้รับจะต้องหางานทำอย่างต่อเนื่อง แม้จะไม่ใช่ NIT โดยตรง แต่มีองค์ประกอบที่เกี่ยวข้องกับการสนับสนุนรายได้และการกระตุ้นการทำงาน NIT อาจเหมาะกับประเทศที่มีระบบภาษีที่มีประสิทธิภาพ เศรษฐกิจที่มั่นคง ความเหลื่อมล้ำทางรายได้สูง เสถียรภาพทางการเมือง และสังคมที่ยอมรับการปฏิรูปสวัสดิการ หากเงื่อนไขเหล่านี้พร้อม NIT อาจเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการลดความยากจนและส่งเสริมความเท่าเทียมในสังคม ย้อนกลับไปวรรคทองของบิดาแห่ง NIT "มิลตัน ฟรีดแมน" โลกนี้ไม่มีอะไรที่ได้มาฟรี ๆ ซึ่งก็เป็นจริง เพราะเงินชดเชยที่รัฐต้องหามาจ่าย ย่อมต้องแลกมาด้วยคำถามตัวโต ๆ ของ "เดอะ แบก" ชนชั้นที่จ่ายภาษีเงินได้ เพื่อให้คนอื่นได้เงินที่ตัวเองทำงานอย่างเหน็ดเหนื่อย อ่านข่าวอื่น : "ทักษิณ" มั่นใจรัฐบาลแพทองธาร ไม่มีรัฐประหาร 100% 3 องค์กรธุรกิจนัดพบ "แพทองธาร" ถกปัญหาเร่งช่วย SMEs "ทักษิณ" โชว์วิชั่นแก้หนี้-ฟื้นเศรษฐกิจ เฉลยดิจิทัลวอลเล็ตใครได้บ้าง
วันนี้ (4 มี.ค.2564) นายวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงยุติธรรม ลงนามคำสั่งกระทรวงยุติธรรม ที่ 75/2564 เรื่องมอบหมายให้ข้าราชการปฏิบัติหน้าที่ราชการ โดยให้นายวิชัย โชติปฏิเวชกุล ตำแหน่งผู้บัญชาการเร