วันนี้ (1 ม.ค.2567) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศวันสุดท้ายของวันหยุดเนื่องในเทศกาลปีใหม่ การจราจรบริเวณ
วันนี้ (11 ต.ค.65) การจราจรบนถนนบรมราชชนนี (ช่วงแม่น้ำท่าจีน) ฝั่ง อ.สามพราน จ.นครปฐม ยังมีน้ำท่วมบริเวณผิวจราจร แต่ไม่มากนัก โดยเฉพาะเส้นทางที่ลงจากสะพานแม่น้ำท่าจีนเพื่อที่จะมุ่งหน้าเข้าสู่ จ.นครปฐม
วันนี้ (11 ต.ค.65) การจราจรบนถนนบรมราชชนนี (ช่วงแม่น้ำท่าจีน) ฝั่ง อ.สามพราน จ.นครปฐม ยังมีน้ำท่วมบริเวณผิวจราจร แต่ไม่มากนัก โดยเฉพาะเส้นทางที่ลงจากสะพานแม่น้ำท่าจีนเพื่อที่จะมุ่งหน้าเข้าสู่ จ.นครปฐม ขณะนี้ยังมีปริมาณน้ำท่วมขังอยู่บริเวณผิวการจราจรช่องทางเลนซ้ายแต่ก็ยังไม่เป็นอุปสรรค สำหรับผู้ที่จะเดินทาง ทั้งรถเล็กและรถใหญ่ ขณะนี้ก็สามารถเดินทางผ่านเส้นทางนี้ได้ตามปกติแล้ว แต่ยังต้องใช้ช่องทางเลนขวาอยู่ ส่วนการจราจรถนนบรมราชชนนีจาก จ.นครปฐม ที่จะเข้าสู่กรุงเทพฯ ขณะนี้สามารถสัญจรได้ตามปกติแล้ว นายประลองยุทธ์ กสิวงศ์ ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงสมุทรสาคร เปิดเผยว่า ตอนนี้ต้องระดมกระสอบทรายมาวางเป็นแนวคันกั้นน้ำบนทางคู่ขนาน ทั้งฝั่งขาเข้าและขาออก เนื่องจากยังมีมวลน้ำที่ท่วมขังบริเวณผิวทางทั้ง 2 ฝั่ง พร้อมกับติดตั้งเครื่องสูบน้ำ ผลักดันน้ำให้ระบายลงสู่แม่น้ำท่าไทยรัฐ กีฬาจีนโดยเร็วที่สุด เพื่อไม่ให้กระทบกับเส้นทางการสัญจรหลัก คาดว่าใช้เวลาประมาณ 1 ชม. สถานการณ์น้ำตรงนี้จะคลี่คลายและเข้าสู่ภาวะปกติ นอกจากนี้ ยังมีคำยืนยันจากนายพิทักษ์ ยุวานนท์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานนครปฐม เปิดเผยข้อมูลสถานการณ์น้ำใน จ.นครปฐม ขณะนี้ วิกฤตอยู่ 3 อำเภอ ได้แก่ อ.นครชัยศรี, อ.สามพราน อ.บางเลน ทั้ง 3 อำเภอนี้ประสบปัญหาน้ำท่วม โดยน้ำมาจากมวลน้ำเหนือผันน้ำเข้ามาในแม่น้ำท่าจีน ประกอบกับเกิดน้ำทะเลหนุนสูง ช่วงในวันที่ 11-15 ต.ค. รวมไปถึงยังมีฝนตกในพื้นที่ ทำให้สภาพพื้นที่เป็นอย่างที่คุณผู้ชมเห็น เนื่องจากน้ำทั้งหมดที่เอ่อล้นเข้ามา ก็ไม่มีทางระบายลงสู่แม่น้ำท่าจีนด้วยเช่นกัน หนทางที่จะระบายน้ำในพื้นที่ให้กลับเข้าสู่ภาวะปกติได้ ก็คือ ต้องรอให้ระดับน้ำในแม่น้ำท่าจีนตรงนี้ลดระดับลงก่อน ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ได้เตรียมเครื่องสูบน้ำไว้แล้ว หากน้ำในแม่น้ำท่าจีนลดลงเมื่อไหร่ ก็จะเดินเครื่องสูบน้ำเต็มศักยภาพ เพื่อผลักดันน้ำ พร้อมกับเสริมกระสอบทรายบริเวณชุมชนที่อยู่นอกคันกั้นน้ำสูงประมาณ 30 ซม. รวมไปถึงตั้งวอร์รูมเพื่อติดตามสถานการณ์น้ำตลอด 24 ชม.
วันนี้ (24 ต.ค.2564) ศูนย์ข้อมูล COVID-19 รายงานว่า ไทยพบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 8,666 คน เป็นผู้ป่วยจากการค้นหาเชิงรุก 540 คน ผู้ป่วยภายในเรือนจำ/ที่ต้องขัง 139 คน ผู้ป่วยมาจากต่างประเทศ 6 คน ผู้ป่วยตั้งแต่
