วันนี้ (10 พ.ค.2564) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ไม่ได้จัดงานพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนัwinner55 ฝาก ขั้น ต่ํา
วันนี้ (8 ก.พ.2564) ศาลอาญานัดอ่านคำพิพากษา กรณีที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอีเอส ที่ยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งระงับการเผยแพร่คลิปไลฟ์เฟซบุ๊กของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าว
ทำคอนเทนต์แค่ไหน เสี่ยงเกินไป เนื้อหาดาร์ก-ปั่นยอดวิว หวังรายได้ ไปต่อได้ไหม ไทยพีบีเอส สัมภาษณ์ น.ส.สุวิตา จรัญวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท เทลสกอร์ จำกัด ผู้นำด้านอินฟลูเอนเซอร์ มาร์เก็ตติ้ง แพลตฟอร์มครบวงจร ชั้นนำของไทย และกรรมการสมาคมเทคโนโลยีเพื่อการตลาด (สมาคม MarTech) ถาม : กรณีการทำคอนเทนต์ที่เกิดกับ “แบงค์ เลสเตอร์” และกรณีที่อินฟลูเอนเซอร์หลายคน ทำคอนเทนต์ดาร์ก เพื่อปั่นยอดคนดู จำนวนคนติดตาม และรายได้ มองอย่างไร สุวิตา : ช่วงนี้อาจมีข่าวทำนองนี้ออกมา เป็นความคึกคะนองเกินเบอร์ไป สำหรับคนทำคอนเทนต์ หรือ อินฟลูเอนเซอร์ ทำให้มีคนเสียชีวิต ทั้งกรณีน้องแบงค์ หรือ ชายที่ไปทำคลิปตรงทางรถไฟแล้วถูกรถไฟชนเสียชีวิต เป็นเรื่องที่ไม่ควรเกิดขึ้น เพราะถามว่าคุ้มไหม บางเรื่องมันไม่ใช่แค่เสี่ยงอย่างเดียว อย่างกรณีทำคลิปริมรางรถไฟเป็นเรื่องเสี่ยง แต่กรณีบางกรณี เช่น ดื่มแอลกอฮอล์กันหนักๆ หรือ มีท้าทายร่วมด้วย มันไม่ควรเป็นประเด็นหลักของเนื้อหา คอนเทนต์ตั้งแต่แรกหรือไม่ มันไม่ใช่ตัวอย่างที่ดีของสังคม คำถาม : มีข้อสังเกตอย่างไร ต่อครีเอเตอร์ ที่มีพฤติกรรมตั้งใจปั่นยอดวิว กับการทำคอนเทนต์ดาร์ก ๆ เทาๆ เพื่อหวังกระแส หวังยอดรายได้ สุวิตา : ครีเอเตอร์ที่มีพฤติกรรมลักษณะนี้ คล้ายกับสื่อหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็น Mass media, สื่อ digital, คอนเทนครีเอเตอร์ (Content Creator) หรือ นักสร้างคอนเทนต์ จริง ๆ คนที่ทำก็คือถูกเรตติ้งยั่วยุ ให้ทำอะไรออกไป เพื่อที่จะชนะกันเรื่องเรตติ้ง เป็นมาช้านานและตอนนี้ ก็เข้ามาอยู่ในครีเอเตอร์ด้วย ข้อสังเกตคือ ไม่ควรให้เรื่องนี้แพร่กระจายขยาย เราควรเริ่มทักกัน เพราะสื่อโซเชียลมีเดีย มันแพร่กระจายได้เร็วกว่าสื่อหลักด้วยซ้ำ และโซเชียลมีเดียเวลาเกิดอะไรแล้ว ฤทธิ์ทำลายล้างมันจะเยอะ ครีเอเตอร์ต้องดูแลตัวเองสุดๆ คิดว่าต้องช่วยกันดูแล และน่าจะมีคำถามใหญ่ๆ ในบ้านเมืองเรา ที่ต้องทักกัน ถาม : การดูแลกันจะไปทางไหน โซเชียลช่วยกันตรวจสอบ หรือต้องมีกฎหมายที่เข้มงวดขึ้น แม้เรามีกฎหมายที่เกี่ยวข้องอยู่บ้างแล้ว สุวิตา : กฎหมายอาจเป็นอีกขั้นหนึ่ง เพราะกฎหมายไม่ได้ช่วยทำให้คนที่ทำสื่อลดพฤติกรรมของเรตติ้งเช่นกัน แต่คิดว่าสมาคมวิชาชีพ สมาคมต่าง ๆ ช่วยกันออกมาดูแลว่า เรามีแนวปฏิบัติที่จะให้คนในวิชาชีพคอนเทนครีเอเตอร์ไปกันต่ออย่างสร้างสรรค์ได้อย่างไร ถาม : ปี 2568 ทิศทางธุรกิจโซเชียลมีเดียและความบันเทิงออนไลน์ รวมถึงธุรกิจคอนเทนต์ รีวิว อินฟลูเอนเซอร์ ยังเป็นธุรกิจดาวรุ่งอันดับ 2 ที่ติดอันดับอาชีพดาวรุ่ง ที่หอการค้าไทยสำรวจ เมื่อ 24 ธ.ค.2567 มีข้อแนะนำอย่างไร ที่ผู้ผลิตเนื้อหาจะไปต่อกันได้ สุวิตา : ต้องเน้นไปที่คุณภาพ เพราะปี 2567 มีครีเอเตอร์ อินฟลูเอนเซอร์ ถึง 9 ล้านคน มีช่องทางต่าง ๆ ผลิตออกมาเยอะแยะ การร่วมงานกับแบรนด์ต่าง ๆ เต็มไปหมด แต่สิ่งที่ไปต่อน่าจะวัดกันที่คุณภาพ อาจไม่ได้วัดกันที่เรตติ้ง อย่างผู้ติดตามเอง ก็ไม่ได้มีความคิดที่ว่า ผู้ผลิตคอนเทนต์ต้องมีฐานผู้ติดตามเป็นล้าน ขณะเดียวกัน ดอกจันทร์ใหญ่มันมาทันที จากบริบทที่เราคุยกันวันนี้ว่า ต้องไม่ใช่การผลิตเนื้อหาแบบทำร้ายตัวเอง ไม่ทำร้ายสังคม และตอนนี้ยังมีประเด็นที่ต้องระวังคือ กลโกงจากไซเบอร์ต่าง ๆ ที่เข้ามา และอาจทำให้ชื่อเสียงแปดเปื้อนไปด้วย รวมถึงการระวังเรื่องการรับงานหรือ โฆษณาที่ชวนคนไปเล่นการพนัน ที่ตอนนี้อินฟลูเอนเซอร์หลายคน ก็ถูกตั้งคำถามจากสังคมเช่นกันว่า เข้าไปพัวพันกับการพนันออนไลน์ ปีนี้เป็นปีวัดใจของการพิสูจน์การยืนระยะ ของความเป็นอินฟลูเอนเซอร์ และครีเอเตอร์ ว่า ถ้าเขายืนระยะได้ เขาต้องไม่หยาบคาย ไม่โป๊เปลือย ไม่พนัน ไม่หลอกลวง และวางตัวนิ่ง แต่ยังมีเรตติ้งที่ดี ฉะนั้นเขาจะยากขึ้น เรื่องความคิดสร้างสรรค์ เพราะอย่างอื่นที่มันฉาบฉวย มันอาจจะไม่ใช่ทางเลือก แบบที่ผู้บริโภค ไม่ได้ให้คะแนนเรื่องนั้นแล้ว เผลอๆ จะโดนสังคมตำหนิด้วยซ้ำ ถาม : ถ้าเปรียบเทียบสถานการณ์เติบโตของ ครีเอเตอร์, อินฟลูเอนเซอร์บ้านเรา กับต่างประเทศ เป็นไปในทิศทางไหน สุวิตา : ประเทศเราเปิดกว้างแบบที่สังคมรับรู้กันตอนนี้ แต่จากมุมมองส่วนตัว จะเห็นชัดไปถึงการเปิดกว้างในการทำคอนเทนต์ทุกประเภท รวมตัว LGBT+ , ซีรี่ย์วาย ซึ่งทำได้แค่ในไทย กับไต้หวันเท่านั้น ประเด็นเรื่องสมรสเท่าเทียม ที่ประเทศไทยผลักดัน ก็มีผลต่อการผลิตคอนเทนต์แนวนี้ด้วยเช่นกัน เราไม่ปิดกั้นจริง ๆ อย่างมาเลเซีย, อินโดนีเซีย ประเทศเพื่อนบ้านเรา ตอนนี้ ไม่สนับสนุนแบรนด์ที่เป็นกลุ่มอเมริกัน จากภาวะสงครามที่เกิด แต่บ้านเรายังเปิดกว้างและยังมีภาวะที่สงบ แม้การเมืองอาจยังไม่ค่อยเสถียร และด้วยความที่เรามีเสรีมาก ถ้าเทียบกับประเทศที่มีประชากรมากกว่าเรา แต่อัตราส่วนอินฟลูเอนเซอร์ และครีเอเตอร์ บ้านเรามีจำนวนมากกว่า ไม่มีข้อจำกัดทางศาสนา หรือ ความเชื่อต่าง ๆ ด้วย สุวิตา กล่าวต่อว่า แนวโน้มของครีเอเตอร์ที่ทำเต็มที่ เต็มเวลา จริง ๆ มีประมาณ 2 ล้านคน แต่ใน 9 ล้านคน สำหรับปีก่อนหน้านี้มี 6 ล้านคนที่ทำเต็มเวลาจริง ๆ ซึ่งปีนี้ชัดขึ้นสำหรับอุตสาหกรรมครีเอเตอร์ แต่ปีหน้า (2568) จะยังเติบโตอยู่ แต่แบบไม่ก้าวกระโดด ซึ่งปีหน้ายังมีปัจจัยด้านเศรษฐกิจร่วมด้วย สำหรับการสนับสนุนของสปอนเซอร์ หรือ กลุ่มลูกค้า ที่มีผลอินฟลูเอนเซอร์ทั้งหลาย สำหรับเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ซึ่งจะมีเม็ดเงินหายไปจากตลาด และส่งผลกระทบยาวๆ ไม่ใช่แบบปุ๊ปปั๊บ ฉะนั้นจำนวนครีเอเตอร์มองได้ 2 อย่าง คือ จำนวนยังมีเพิ่มขึ้นแน่นอน แต่ว่ามันเพิ่มมาถึงจุดที่ค่อนข้างที่พบว่าอัตราเร่งอาจจะชะลอตัวแล้ว ถาม : นั่นแปลว่าความแตกต่าง ที่จะทำให้อินฟลูเอนเซอร์ หรือคอนเทนต์ครีเอเตอร์อยู่ต่อได้ ไม่ใช่ปริมาณ แต่เป็นคุณภาพ แต่คำถามคือ ต้องเป็นเทรนด์ไหน เพราะปัจจุบัน คนที่ผลิตคอนเทนต์คุณภาพก็มีจำนวนมากมายเช่นกัน สุวิตา : ใช่ค่ะ ตอนนี้คอนเทนต์คุณภาพ ก็มีมากเช่นกัน ทั้งด้านการศึกษา, การเล่าอัปเดทกระแสสังคม, การวิเคราะห์ต่าง ๆ ฯลฯ เรียกว่า มันมีดีแล้ว แต่ก็winner55 ฝาก ขั้น ต่ํายังผลิตเนื้อหาดีได้อีกมาก ที่เป็นประโยชน์กับสังคม รวมถึงครีเอเตอร์ก็ต้องสร้างภูมิคุ้มกันให้ตัวเองไม่ไปแปดเปื้อนกับธุรกิจ หรือกิจกรรมสีเทา หรือการรับงานที่เป็นสีเทาเหล่านี้ด้วยต้องช่วยกันดูแลสังคม ถาม : ในการดูแลกันเองในนามสมาคมที่ดูแลกัน หากเกิดปัญหาหรือมีมาตรการลงโทษทางสังคมกันเอง หรือ โซเชียลแซงก์ชัน (Social sanction) สุวิตา : เดิมทีเรามีสมาคมผู้ดูแลเว็บไซต์ไทย ซึ่งเปลี่ยนชื่อเป็น “สมาคมผู้ดูแลเว็บไซต์และสื่อออนไลน์ไทย” ที่ดูแลสื่อดิจิทัลและโซเชียลมีเดียมากขึ้น เป็นสมาคมที่ครีเอเตอร์เข้ามาสอบถามเรื่องต่าง ๆ รวมถึงสมาคม สมาคมเทคโนโลยีเพื่อการตลาด (สมาคม MarTech) รวมถึง สมาคมการตลาด สมาคมโฆษณาต่าง ๆ และสมาคมสื่อที่ช่วยกันดูแล ซึ่งครีเอเตอร์ก็ใช้แนวปฎิบัติของสมาคม เป็นเข็มทิศในการนำทางร่วมด้วย หรือแม้แต่แพลทฟอร์มของ tiktok ก็จะจัดกิจกรรมให้ครีเอเตอร์ได้รับรู้แนวปฏิบัติด้วย รวมถึงเรื่องไหน ทำได้ ทำไม่ได้ เรื่องไหนที่ต้องได้รับการคุ้มครอง สุวิตา : การจะทำอะไร แบบชีวิตติดคอนเทนต์ หรือการทำคอนเทนต์แบบคึกคะนอง อยากบอกว่า การทำชีวิตติดคอนเทนต์อย่างไร ก็ไม่ควรเอาชีวิตเข้าไปเสี่ยง เพราะระยะมันเป็น Long games อย่ามาทำอะไร Short games เพราะมันจะเสียหายต่อตัวเองและชีวิต ซึ่งทิศทางของเนื้อหาที่ต้องการในอนาคตและอยู่ได้ คือ คนที่ทำเนื้อหาที่คุณภาพและแตกต่าง สำคัญคือ กลุ่มคนดูที่ต้องการ ต่อให้เราชอบ แต่เขาไม่ต้องการ ก็คือ ทำฟรี ต้องหาจริตที่เขาชอบด้วย และเราทำได้ ต่อให้เป็นครีเอเตอร์หน้าใหม่ ก็สามารถสู้ในสนามนี้ได้ต่อ เรียบเรียง : ภัทราพร ตั๊นงาม ผู้สื่อข่าวอาวุโส ไทยพีบีเอส อ่านข่าว : วิธีแก้ง่วงช่วงขับรถเดินทาง "เทศกาลปีใหม่ 2568" ให้ปลอดภัย "เอ็ม" ขอขมา "ยายแบงค์" พร้อมจ่ายเยียวยาเดือนละ 1 หมื่นบาท ชนิดใหม่ของโลก "แมลงปอเข็มท้องเข็มสังขละ" ในป่าตะวันตก
ทำคอนเทนต์แค่ไหน เสี่ยงเกินไป เนื้อหาดาร์ก-ปั่นยอดวิว หวังรายได้ ไปต่อได้ไหม ไทยพีบีเอส สัมภาษณ์ น.ส
winner55 ฝาก ขั้น ต่ํา -gokkasten mobile, slot epicwin, บา คา ร่า ล็อค ยู ส
วันนี้ (10 พ.ค.2564) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ไม่ได้จัดงานพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนัwinner55 ฝาก ขั้น ต่ํา
วันนี้ (8 ก.พ.2564) ศาลอาญานัดอ่านคำพิพากษา กรณีที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอีเอส ที่ยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งระงับการเผยแพร่คลิปไลฟ์เฟซบุ๊กของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าว
ทำคอนเทนต์แค่ไหน เสี่ยงเกินไป เนื้อหาดาร์ก-ปั่นยอดวิว หวังรายได้ ไปต่อได้ไหม ไทยพีบีเอส สัมภาษณ์ น.ส.สุวิตา จรัญวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท เทลสกอร์ จำกัด ผู้นำด้านอินฟลูเอนเซอร์ มาร์เก็ตติ้ง แพลตฟอร์มครบวงจร ชั้นนำของไทย และกรรมการสมาคมเทคโนโลยีเพื่อการตลาด (สมาคม MarTech) ถาม : กรณีการทำคอนเทนต์ที่เกิดกับ “แบงค์ เลสเตอร์” และกรณีที่อินฟลูเอนเซอร์หลายคน ทำคอนเทนต์ดาร์ก เพื่อปั่นยอดคนดู จำนวนคนติดตาม และรายได้ มองอย่างไร สุวิตา : ช่วงนี้อาจมีข่าวทำนองนี้ออกมา เป็นความคึกคะนองเกินเบอร์ไป สำหรับคนทำคอนเทนต์ หรือ อินฟลูเอนเซอร์ ทำให้มีคนเสียชีวิต ทั้งกรณีน้องแบงค์ หรือ ชายที่ไปทำคลิปตรงทางรถไฟแล้วถูกรถไฟชนเสียชีวิต เป็นเรื่องที่ไม่ควรเกิดขึ้น เพราะถามว่าคุ้มไหม บางเรื่องมันไม่ใช่แค่เสี่ยงอย่างเดียว อย่างกรณีทำคลิปริมรางรถไฟเป็นเรื่องเสี่ยง แต่กรณีบางกรณี เช่น ดื่มแอลกอฮอล์กันหนักๆ หรือ มีท้าทายร่วมด้วย มันไม่ควรเป็นประเด็นหลักของเนื้อหา คอนเทนต์ตั้งแต่แรกหรือไม่ มันไม่ใช่ตัวอย่างที่ดีของสังคม คำถาม : มีข้อสังเกตอย่างไร ต่อครีเอเตอร์ ที่มีพฤติกรรมตั้งใจปั่นยอดวิว กับการทำคอนเทนต์ดาร์ก ๆ เทาๆ เพื่อหวังกระแส หวังยอดรายได้ สุวิตา : ครีเอเตอร์ที่มีพฤติกรรมลักษณะนี้ คล้ายกับสื่อหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็น Mass media, สื่อ digital, คอนเทนครีเอเตอร์ (Content Creator) หรือ นักสร้างคอนเทนต์ จริง ๆ คนที่ทำก็คือถูกเรตติ้งยั่วยุ ให้ทำอะไรออกไป เพื่อที่จะชนะกันเรื่องเรตติ้ง เป็นมาช้านานและตอนนี้ ก็เข้ามาอยู่ในครีเอเตอร์ด้วย ข้อสังเกตคือ ไม่ควรให้เรื่องนี้แพร่กระจายขยาย เราควรเริ่มทักกัน เพราะสื่อโซเชียลมีเดีย มันแพร่กระจายได้เร็วกว่าสื่อหลักด้วยซ้ำ และโซเชียลมีเดียเวลาเกิดอะไรแล้ว ฤทธิ์ทำลายล้างมันจะเยอะ ครีเอเตอร์ต้องดูแลตัวเองสุดๆ คิดว่าต้องช่วยกันดูแล และน่าจะมีคำถามใหญ่ๆ ในบ้านเมืองเรา ที่ต้องทักกัน ถาม : การดูแลกันจะไปทางไหน โซเชียลช่วยกันตรวจสอบ หรือต้องมีกฎหมายที่เข้มงวดขึ้น แม้เรามีกฎหมายที่เกี่ยวข้องอยู่บ้างแล้ว สุวิตา : กฎหมายอาจเป็นอีกขั้นหนึ่ง เพราะกฎหมายไม่ได้ช่วยทำให้คนที่ทำสื่อลดพฤติกรรมของเรตติ้งเช่นกัน แต่คิดว่าสมาคมวิชาชีพ สมาคมต่าง ๆ ช่วยกันออกมาดูแลว่า เรามีแนวปฏิบัติที่จะให้คนในวิชาชีพคอนเทนครีเอเตอร์ไปกันต่ออย่างสร้างสรรค์ได้อย่างไร ถาม : ปี 2568 ทิศทางธุรกิจโซเชียลมีเดียและความบันเทิงออนไลน์ รวมถึงธุรกิจคอนเทนต์ รีวิว อินฟลูเอนเซอร์ ยังเป็นธุรกิจดาวรุ่งอันดับ 2 ที่ติดอันดับอาชีพดาวรุ่ง ที่หอการค้าไทยสำรวจ เมื่อ 24 ธ.ค.2567 มีข้อแนะนำอย่างไร ที่ผู้ผลิตเนื้อหาจะไปต่อกันได้ สุวิตา : ต้องเน้นไปที่คุณภาพ เพราะปี 2567 มีครีเอเตอร์ อินฟลูเอนเซอร์ ถึง 9 ล้านคน มีช่องทางต่าง ๆ ผลิตออกมาเยอะแยะ การร่วมงานกับแบรนด์ต่าง ๆ เต็มไปหมด แต่สิ่งที่ไปต่อน่าจะวัดกันที่คุณภาพ อาจไม่ได้วัดกันที่เรตติ้ง อย่างผู้ติดตามเอง ก็ไม่ได้มีความคิดที่ว่า ผู้ผลิตคอนเทนต์ต้องมีฐานผู้ติดตามเป็นล้าน ขณะเดียวกัน ดอกจันทร์ใหญ่มันมาทันที จากบริบทที่เราคุยกันวันนี้ว่า ต้องไม่ใช่การผลิตเนื้อหาแบบทำร้ายตัวเอง ไม่ทำร้ายสังคม และตอนนี้ยังมีประเด็นที่ต้องระวังคือ กลโกงจากไซเบอร์ต่าง ๆ ที่เข้ามา และอาจทำให้ชื่อเสียงแปดเปื้อนไปด้วย รวมถึงการระวังเรื่องการรับงานหรือ โฆษณาที่ชวนคนไปเล่นการพนัน ที่ตอนนี้อินฟลูเอนเซอร์หลายคน ก็ถูกตั้งคำถามจากสังคมเช่นกันว่า เข้าไปพัวพันกับการพนันออนไลน์ ปีนี้เป็นปีวัดใจของการพิสูจน์การยืนระยะ ของความเป็นอินฟลูเอนเซอร์ และครีเอเตอร์ ว่า ถ้าเขายืนระยะได้ เขาต้องไม่หยาบคาย ไม่โป๊เปลือย ไม่พนัน ไม่หลอกลวง และวางตัวนิ่ง แต่ยังมีเรตติ้งที่ดี ฉะนั้นเขาจะยากขึ้น เรื่องความคิดสร้างสรรค์ เพราะอย่างอื่นที่มันฉาบฉวย มันอาจจะไม่ใช่ทางเลือก แบบที่ผู้บริโภค ไม่ได้ให้คะแนนเรื่องนั้นแล้ว เผลอๆ จะโดนสังคมตำหนิด้วยซ้ำ ถาม : ถ้าเปรียบเทียบสถานการณ์เติบโตของ ครีเอเตอร์, อินฟลูเอนเซอร์บ้านเรา กับต่างประเทศ เป็นไปในทิศทางไหน สุวิตา : ประเทศเราเปิดกว้างแบบที่สังคมรับรู้กันตอนนี้ แต่จากมุมมองส่วนตัว จะเห็นชัดไปถึงการเปิดกว้างในการทำคอนเทนต์ทุกประเภท รวมตัว LGBT+ , ซีรี่ย์วาย ซึ่งทำได้แค่ในไทย กับไต้หวันเท่านั้น ประเด็นเรื่องสมรสเท่าเทียม ที่ประเทศไทยผลักดัน ก็มีผลต่อการผลิตคอนเทนต์แนวนี้ด้วยเช่นกัน เราไม่ปิดกั้นจริง ๆ อย่างมาเลเซีย, อินโดนีเซีย ประเทศเพื่อนบ้านเรา ตอนนี้ ไม่สนับสนุนแบรนด์ที่เป็นกลุ่มอเมริกัน จากภาวะสงครามที่เกิด แต่บ้านเรายังเปิดกว้างและยังมีภาวะที่สงบ แม้การเมืองอาจยังไม่ค่อยเสถียร และด้วยความที่เรามีเสรีมาก ถ้าเทียบกับประเทศที่มีประชากรมากกว่าเรา แต่อัตราส่วนอินฟลูเอนเซอร์ และครีเอเตอร์ บ้านเรามีจำนวนมากกว่า ไม่มีข้อจำกัดทางศาสนา หรือ ความเชื่อต่าง ๆ ด้วย สุวิตา กล่าวต่อว่า แนวโน้มของครีเอเตอร์ที่ทำเต็มที่ เต็มเวลา จริง ๆ มีประมาณ 2 ล้านคน แต่ใน 9 ล้านคน สำหรับปีก่อนหน้านี้มี 6 ล้านคนที่ทำเต็มเวลาจริง ๆ ซึ่งปีนี้ชัดขึ้นสำหรับอุตสาหกรรมครีเอเตอร์ แต่ปีหน้า (2568) จะยังเติบโตอยู่ แต่แบบไม่ก้าวกระโดด ซึ่งปีหน้ายังมีปัจจัยด้านเศรษฐกิจร่วมด้วย สำหรับการสนับสนุนของสปอนเซอร์ หรือ กลุ่มลูกค้า ที่มีผลอินฟลูเอนเซอร์ทั้งหลาย สำหรับเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ซึ่งจะมีเม็ดเงินหายไปจากตลาด และส่งผลกระทบยาวๆ ไม่ใช่แบบปุ๊ปปั๊บ ฉะนั้นจำนวนครีเอเตอร์มองได้ 2 อย่าง คือ จำนวนยังมีเพิ่มขึ้นแน่นอน แต่ว่ามันเพิ่มมาถึงจุดที่ค่อนข้างที่พบว่าอัตราเร่งอาจจะชะลอตัวแล้ว ถาม : นั่นแปลว่าความแตกต่าง ที่จะทำให้อินฟลูเอนเซอร์ หรือคอนเทนต์ครีเอเตอร์อยู่ต่อได้ ไม่ใช่ปริมาณ แต่เป็นคุณภาพ แต่คำถามคือ ต้องเป็นเทรนด์ไหน เพราะปัจจุบัน คนที่ผลิตคอนเทนต์คุณภาพก็มีจำนวนมากมายเช่นกัน สุวิตา : ใช่ค่ะ ตอนนี้คอนเทนต์คุณภาพ ก็มีมากเช่นกัน ทั้งด้านการศึกษา, การเล่าอัปเดทกระแสสังคม, การวิเคราะห์ต่าง ๆ ฯลฯ เรียกว่า มันมีดีแล้ว แต่ก็winner55 ฝาก ขั้น ต่ํายังผลิตเนื้อหาดีได้อีกมาก ที่เป็นประโยชน์กับสังคม รวมถึงครีเอเตอร์ก็ต้องสร้างภูมิคุ้มกันให้ตัวเองไม่ไปแปดเปื้อนกับธุรกิจ หรือกิจกรรมสีเทา หรือการรับงานที่เป็นสีเทาเหล่านี้ด้วยต้องช่วยกันดูแลสังคม ถาม : ในการดูแลกันเองในนามสมาคมที่ดูแลกัน หากเกิดปัญหาหรือมีมาตรการลงโทษทางสังคมกันเอง หรือ โซเชียลแซงก์ชัน (Social sanction) สุวิตา : เดิมทีเรามีสมาคมผู้ดูแลเว็บไซต์ไทย ซึ่งเปลี่ยนชื่อเป็น “สมาคมผู้ดูแลเว็บไซต์และสื่อออนไลน์ไทย” ที่ดูแลสื่อดิจิทัลและโซเชียลมีเดียมากขึ้น เป็นสมาคมที่ครีเอเตอร์เข้ามาสอบถามเรื่องต่าง ๆ รวมถึงสมาคม สมาคมเทคโนโลยีเพื่อการตลาด (สมาคม MarTech) รวมถึง สมาคมการตลาด สมาคมโฆษณาต่าง ๆ และสมาคมสื่อที่ช่วยกันดูแล ซึ่งครีเอเตอร์ก็ใช้แนวปฎิบัติของสมาคม เป็นเข็มทิศในการนำทางร่วมด้วย หรือแม้แต่แพลทฟอร์มของ tiktok ก็จะจัดกิจกรรมให้ครีเอเตอร์ได้รับรู้แนวปฏิบัติด้วย รวมถึงเรื่องไหน ทำได้ ทำไม่ได้ เรื่องไหนที่ต้องได้รับการคุ้มครอง สุวิตา : การจะทำอะไร แบบชีวิตติดคอนเทนต์ หรือการทำคอนเทนต์แบบคึกคะนอง อยากบอกว่า การทำชีวิตติดคอนเทนต์อย่างไร ก็ไม่ควรเอาชีวิตเข้าไปเสี่ยง เพราะระยะมันเป็น Long games อย่ามาทำอะไร Short games เพราะมันจะเสียหายต่อตัวเองและชีวิต ซึ่งทิศทางของเนื้อหาที่ต้องการในอนาคตและอยู่ได้ คือ คนที่ทำเนื้อหาที่คุณภาพและแตกต่าง สำคัญคือ กลุ่มคนดูที่ต้องการ ต่อให้เราชอบ แต่เขาไม่ต้องการ ก็คือ ทำฟรี ต้องหาจริตที่เขาชอบด้วย และเราทำได้ ต่อให้เป็นครีเอเตอร์หน้าใหม่ ก็สามารถสู้ในสนามนี้ได้ต่อ เรียบเรียง : ภัทราพร ตั๊นงาม ผู้สื่อข่าวอาวุโส ไทยพีบีเอส อ่านข่าว : วิธีแก้ง่วงช่วงขับรถเดินทาง "เทศกาลปีใหม่ 2568" ให้ปลอดภัย "เอ็ม" ขอขมา "ยายแบงค์" พร้อมจ่ายเยียวยาเดือนละ 1 หมื่นบาท ชนิดใหม่ของโลก "แมลงปอเข็มท้องเข็มสังขละ" ในป่าตะวันตก
ทำคอนเทนต์แค่ไหน เสี่ยงเกินไป เนื้อหาดาร์ก-ปั่นยอดวิว หวังรายได้ ไปต่อได้ไหม ไทยพีบีเอส สัมภาษณ์ น.ส