Home
|
เครดิต ฟรี เดือน เกิดjoker สล็อต 8888

มหกรรมกีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 จัดขึ้นที่เมือง

เครดิต ฟรี เดือน เกิดjoker สล็อต 8888

ดวงกมล กมลานนท์ ภัณฑารักษ์ชำนาญการพิเศษ สำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กรมศิลปากร บอกเล่าความสำคัญของ "คลัง" แหล่งเก็บโบราณวัตถุ สิ่งของล้ำค่าหายาก หากพิพิธภัณฑ์และแหล่งเรียนรู้ บริหารจัดการคลังได้ดี จะยั

ชื่อผู้ใช้งาน (Username) และรหัสผ่าน (Password) กลายเป็น 2 สิ่งสำคัญที่ผู้ใช้มักจะต้องจดจำและใช้งานเพื่อเข้าสู่ระบบใด ๆ ตั้งแต่ในชีวิตส่วนตัวอย่างโซเชียลมีเดีย คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล หรือในชีวิตการทำงาน

ชื่อผู้ใช้งาน (Username) และรหัสผ่าน (Password) กลายเป็น 2 สิ่งสำคัญที่ผู้ใช้มักจะต้องจดจำและใช้งานเพื่อเข้าสู่ระบบใด ๆ ตั้งแต่ในชีวิตส่วนตัวอย่างโซเชียลมีเดีย คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล หรือในชีวิตการทำงานอย่างการเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์องค์กร หรือเครือข่ายส่วนตัวเสมือน (Virtual Private Network) แต่ผู้ใช้กลับมองข้ามความปลอดภัยเหล่านี้ และรหัสผ่านอาจไม่ใช่วิธีการยืนยันตัวตนที่ปลอดภัยอีกต่อไป วันนี้ ThaiPBS Sci & Tech จะขอมาปรับทัศนคติให้กับทุกคน ที่อาจมองข้ามความปลอดภัยในชีวิตและโลกออนไลน์ ก็ไม่มีข้อมูลอะไรสำคัญ ก็เลยไม่ต้องกังวล เป็นความเชื่อที่ผิดและอันตรายอย่างมาก การไม่ยอมเก็บรหัสผ่านไว้อย่างปลอดภัย เขียนรหัสผ่านไว้บนโต๊ะ หรือบอกรหัสผ่านให้กับผู้อื่นอาจเป็นเหมือนเรื่องไม่น่ากลัว แต่แท้จริงแล้วนับว่าเป็นการละเลยความปลอดภัยขั้นพื้นฐานที่สุด และนำไปสู่การปล่อยปละข้อมูลส่วนตัวของตน รู้ตัวอีกทีอาจเป็นเหยื่อของการฉ้อโกงหรือถูกแอบอ้างชื่อไปใช้ทำสิ่งผิดกฎหมาย หรือถูกล้วงความลับจนเสียหายอับอาย ใช้รหัสผ่านเดียวกันอันตรายเท่ากับไม่มีรหัสผ่าน การใช้รหัสผ่านเดียวกันหมดทุกบัญชี หรือมีรหัสผ่านที่สามารถคาดเดาได้ ถือว่าอันตรายพอ ๆ กับการไม่มีรหัสผ่าน เพราะไม่ใช่ทุกเว็บไซต์ ทุกบริการจะเก็บรหัสผ่านของเราไว้ได้อย่างปลอดภัย หากเครดิต ฟรี เดือน เกิดjoker สล็อต 8888เว็บใดเว็บหนึ่งทำรหัสผ่านของเราหลุดออกไป บัญชีอื่น ๆ ของเราก็อันตรายตามไปด้วย ความน่ากลัวอาจถึงขั้นว่า รหัสผ่านและชื่อผู้ใช้งานของเรา อาจสามารถถูกค้นหาเจอได้ผ่านเสิร์ชเอนจินอย่างกูเกิล รวมเครื่องมือที่ควรรู้ที่มากกว่าแค่รหัสผ่าน 1. การยืนยันตัวตน 2 ขั้นตอน (2-Step Verification) เป็นวิธีการยืนยันตัวตนที่ได้รับความนิยมและเป็นที่แพร่หลายมากที่สุด ประกอบไปด้วยการใช้งานรหัสผ่านร่วมกับการยืนยันตน เช่น การส่งรหัสผ่านครั้งเดียว (OTP) ผ่าน SMS หรืออีเมล เพื่อช่วยให้มั่นใจได้ว่าผู้ที่ลงชื่อเข้าใช้นั้นเป็นเราจริง ๆ ต่อให้ผู้อื่นรู้รหัสผ่านของเรา แต่ไม่สามารถยืนยันตัวตนในขั้นตอนที่ 2 ได้ก็ไม่มีความหมาย ซึ่งจุดอ่อนก็คือ ถ้าเราใช้รหัสผ่านอีเมลเดียวกันก็ไม่มีประโยชน์อยู่ดี อย่างไรก็ตามเราควรเปิดการยืนยันตัวตน 2 ขั้นตอนกับทุกบริการเพื่อความปลอดภัย 2. การเก็บรักษารหัสผ่านด้วยโปรแกรมช่วยเก็บรหัสผ่าน (Password Manager) โปรแกรมช่วยเก็บรหัสผ่านเป็นเสมือนพวงกุญแจที่เก็บกุญแจหลาย ๆ ดอกเข้าด้วยกัน กุญแจแต่ละดอกก็คือรหัสผ่านของแต่ละบริการของเรา จากที่ทราบกันแล้วว่ารหัสผ่านที่ดีคือรหัสผ่านที่ไม่ซ้ำกัน แต่หากจะให้จำรหัสผ่านสำหรับทุกบริการก็คงไม่สะดวก โปรแกรมเก็บรหัสผ่านจึงเข้ามาจัดการส่วนนี้ให้กับเรา ซึ่งโปรแกรมเหล่านี้จะสร้างรหัสผ่านที่ประกอบขึ้นจากตัวอักษรและตัวเลขที่มีความยาวเหมาะสม ยากต่อการคาดเดา และเก็บรักษาไว้อย่างปลอดภัย เมื่อต้องใส่รหัสผ่านบนเว็บไซต์หรือบริการต่าง ๆ โปรแกรมเหล่านี้จะช่วยใส่รหัสผ่านให้ โดยต้องยืนยันตัวตนด้วยรหัสผ่านที่ปลอดภัย หรือการยืนยันตัวตนผ่านไบโอเมตริก (เช่น สแกนหน้า สแกนนิ้วมือ) เพียงเท่านี้ ก็จะมีรหัสผ่านที่ไม่ซ้ำกันในแต่ละบริการ สิ่งที่ควรระมัดระวังคือต้องไม่ปล่อยให้รหัสผ่านหลักหลุดออกไปเป็นอันขาด ระบบปฏิบัติการรุ่นใหม่ ๆ หรือเว็บเบราว์เซอร์ปัจจุบันมักจะมีโปรแกรมช่วยเก็บรหัสผ่านติดตั้งมาให้ด้วย เช่น iCloud Keychain บน macOS และ iOS หรืออาจใช้โปรแกรมจากผู้พัฒนาบุคคลที่สาม (Third Party) เช่น One Password 3. การยืนยันตนโดยไม่ใช้รหัสผ่าน (Passwordless) เป็นวิธีการยืนยันตัวตนที่หลายเว็บไซต์นำมาใช้งาน ในเมื่อรหัสผ่านไม่ปลอดภัย และผู้ให้บริการเว็บไซต์ต้องแสดงความรับผิดชอบหากรหัสผ่านหลุดออกไป วิธีแก้ปัญหาก็คือไม่ต้องใช้รหัสผ่านเสียเลย แต่ให้ยืนยันตัวตนผ่านลิงก์ที่ถูกส่งไปทางอีเมลหรือ SMS หรือใช้รหัสผ่านครั้งเดียว เท่านั้น ความปลอดภัยของวิธีนี้เทียบเท่ากับการยืนยันตัวตนสองขั้นตอน และทำให้ผู้ใช้งานไม่จำเป็นต้องจำรหัสผ่าน แต่ข้อเสียก็คือหากผู้ไม่หวังดีเข้าถึงอีเมลของเราได้ ก็จะสามารถเข้าสู่ระบบได้อยู่ดี วิธีการนี้เป็นที่นิยมกับแอปพลิเคชันที่ไม่มีข้อมูลอ่อนไหวมาก เช่น แอปพลิเคชันสะสมคะแนนของห้างสรรพสินค้า 4. การใช้ซอฟต์แวร์หรือฮาร์ดแวร์ช่วยยืนยันตัวตน (Authenticator) อีกวิธีหนึ่งที่ได้รับความนิยมก็คือการใช้แอปพลิเคชันช่วยยืนยันตัวตน เช่น Google Authenicator ที่เปรียบเสมือนเป็นการยืนยันตัวตนสองขั้นตอน มีข้อดีตรงที่ไม่จำเป็นต้องใช้อีเมลหรือเบอร์โทรศัพท์ แต่ระบบลงชื่อเข้าใช้ต้องรองรับด้วยเช่นกัน ซึ่งจะทำให้มั่นใจได้ว่าเราเป็นผู้ที่ยืนยันตัวตนจริง ๆ เพราะต้องใช้โทรศัพท์ของเราเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีวิธีการยืนยันตัวตนอีกขั้นตอนคือการใช้อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ที่มีลักษณะคล้ายกับแฟลชไดรฟ์ แต่ใช้ในการยืนยันตัวตน เรียกอุปกรณ์ในลักษณะนี้ว่า Two-Factor Authentication USB Security Key 5. เทคโนโลยีไบโอเมตริก (Biometric) เป็นเทคโนโลยีที่ปกติมักจะฝังเข้ามาในฮาร์ดแวร์โทรศัพท์มือถือ หรือคอมพิวเตอร์ เช่น ทัชไอดี (Touch ID) หรือเฟซไอดี (Face ID) บนคอมพิวเตอร์แมคหรือไอโฟน ซึ่งจะทำงานร่วมกับซอฟต์แวร์ช่วยยืนยันตัวตน หรือโปรแกรมช่วยเก็บรหัสผ่าน อย่างไรก็ตามโดยส่วนมากแล้วปัจจุบันเทคโนโลยีไบโอเมตริกยังเป็นเพียงตัวเลือกเท่านั้น เพราะสุดท้ายผู้ใช้งานสามารถเลือกยืนยันตัวตนได้ผ่านการใส่รหัสผ่านหรือกดตัวเลขยืนยันอยู่ดี เราจะเห็นว่าความสำคัญสูงสุดของการยืนยันตัวตนที่ปลอดภัยกว่ารหัสผ่าน คือการยืนยันตัวตนแบบหลายชั้น ที่เมื่อก่อนอาจจะเป็นเพียงการยืนยัน 2 ชั้น (Two-Factor Authentication) แต่ปัจจุบันกลายเป็นมากกว่า 2 ชั้นไปแล้ว (Multi-Factor Authentication) ซึ่งสามารถช่วยลดโอกาสที่ผู้ไม่ประสงค์ดีจะสามารถเข้าถึงบัญชีและข้อมูลส่วนตัวของเราได้ แต่สุดท้ายเทคนิคเหล่านี้จะไม่มีประโยชน์เลยหากผู้ใช้งานขาดความตระหนักถึงหายนะที่จะเกิดและละเลยสิทธิ์ในการปกป้องข้อมูลดิจิทัลของตัวเองแต่แรก “รอบรู้ ดูกระแส ก้าวทันโลก” ไปกับ Thai PBS Sci & Tech

วันนี้ (22 ก.พ 2568) รายงานจาก สมาคมค้าทองคำ เปิดเผยว่า เนื่องด้วยในปัจจุบัน ค่าใช้จ่ายในการประกอบธุ

โปรแกรมการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ 2023 วันที่ 13 พ.ค.2566 ของทัพนักกีฬาทีมชาติไทย ไฮไลต์อยู่ที่ ฟุตบอลชาย

วันนี้ (12 ก.พ.2564) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สื่อสังคมออนไลน์ส่งต่อคลิปภาพที่ประชาชนบันทึกเหตุการณ์ขณะต

ชื่อผู้ใช้งาน (Username) และรหัสผ่าน (Password) กลายเป็น 2 สิ่งสำคัญที่ผู้ใช้มักจะต้องจดจำและใช้งานเพื่อเข้าสู่ระบบใด ๆ ตั้งแต่ในชีวิตส่วนตัวอย่างโซเชียลมีเดีย คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล หรือในชีวิตการทำงานอย่างการเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์องค์กร หรือเครือข่ายส่วนตัวเสมือน (Virtual Private Network) แต่ผู้ใช้กลับมองข้ามความปลอดภัยเหล่านี้ และรหัสผ่านอาจไม่ใช่วิธีการยืนยันตัวตนที่ปลอดภัยอีกต่อไป วันนี้ ThaiPBS Sci & Tech จะขอมาปรับทัศนคติให้กับทุกคน ที่อาจมองข้ามความปลอดภัยในชีวิตและโลกออนไลน์ ก็ไม่มีข้อมูลอะไรสำคัญ ก็เลยไม่ต้องกังวล เป็นความเชื่อที่ผิดและอันตรายอย่างมาก การไม่ยอมเก็บรหัสผ่านไว้อย่างปลอดภัย เขียนรหัสผ่านไว้บนโต๊ะ หรือบอกรหัสผ่านให้กับผู้อื่นอาจเป็นเหมือนเรื่องไม่น่ากลัว แต่แท้จริงแล้วนับว่าเป็นการละเลยความปลอดภัยขั้นพื้นฐานที่สุด และนำไปสู่การปล่อยปละข้อมูลส่วนตัวของตน รู้ตัวอีกทีอาจเป็นเหยื่อของการฉ้อโกงหรือถูกแอบอ้างชื่อไปใช้ทำสิ่งผิดกฎหมาย หรือถูกล้วงความลับจนเสียหายอับอาย ใช้รหัสผ่านเดียวกันอันตรายเท่ากับไม่มีรหัสผ่าน การใช้รหัสผ่านเดียวกันหมดทุกบัญชี หรือมีรหัสผ่านที่สามารถคาดเดาได้ ถือว่าอันตรายพอ ๆ กับการไม่มีรหัสผ่าน เพราะไม่ใช่ทุกเว็บไซต์ ทุกบริการจะเก็บรหัสผ่านของเราไว้ได้อย่างปลอดภัย หากเครดิต ฟรี เดือน เกิดjoker สล็อต 8888เว็บใดเว็บหนึ่งทำรหัสผ่านของเราหลุดออกไป บัญชีอื่น ๆ ของเราก็อันตรายตามไปด้วย ความน่ากลัวอาจถึงขั้นว่า รหัสผ่านและชื่อผู้ใช้งานของเรา อาจสามารถถูกค้นหาเจอได้ผ่านเสิร์ชเอนจินอย่างกูเกิล รวมเครื่องมือที่ควรรู้ที่มากกว่าแค่รหัสผ่าน 1. การยืนยันตัวตน 2 ขั้นตอน (2-Step Verification) เป็นวิธีการยืนยันตัวตนที่ได้รับความนิยมและเป็นที่แพร่หลายมากที่สุด ประกอบไปด้วยการใช้งานรหัสผ่านร่วมกับการยืนยันตน เช่น การส่งรหัสผ่านครั้งเดียว (OTP) ผ่าน SMS หรืออีเมล เพื่อช่วยให้มั่นใจได้ว่าผู้ที่ลงชื่อเข้าใช้นั้นเป็นเราจริง ๆ ต่อให้ผู้อื่นรู้รหัสผ่านของเรา แต่ไม่สามารถยืนยันตัวตนในขั้นตอนที่ 2 ได้ก็ไม่มีความหมาย ซึ่งจุดอ่อนก็คือ ถ้าเราใช้รหัสผ่านอีเมลเดียวกันก็ไม่มีประโยชน์อยู่ดี อย่างไรก็ตามเราควรเปิดการยืนยันตัวตน 2 ขั้นตอนกับทุกบริการเพื่อความปลอดภัย 2. การเก็บรักษารหัสผ่านด้วยโปรแกรมช่วยเก็บรหัสผ่าน (Password Manager) โปรแกรมช่วยเก็บรหัสผ่านเป็นเสมือนพวงกุญแจที่เก็บกุญแจหลาย ๆ ดอกเข้าด้วยกัน กุญแจแต่ละดอกก็คือรหัสผ่านของแต่ละบริการของเรา จากที่ทราบกันแล้วว่ารหัสผ่านที่ดีคือรหัสผ่านที่ไม่ซ้ำกัน แต่หากจะให้จำรหัสผ่านสำหรับทุกบริการก็คงไม่สะดวก โปรแกรมเก็บรหัสผ่านจึงเข้ามาจัดการส่วนนี้ให้กับเรา ซึ่งโปรแกรมเหล่านี้จะสร้างรหัสผ่านที่ประกอบขึ้นจากตัวอักษรและตัวเลขที่มีความยาวเหมาะสม ยากต่อการคาดเดา และเก็บรักษาไว้อย่างปลอดภัย เมื่อต้องใส่รหัสผ่านบนเว็บไซต์หรือบริการต่าง ๆ โปรแกรมเหล่านี้จะช่วยใส่รหัสผ่านให้ โดยต้องยืนยันตัวตนด้วยรหัสผ่านที่ปลอดภัย หรือการยืนยันตัวตนผ่านไบโอเมตริก (เช่น สแกนหน้า สแกนนิ้วมือ) เพียงเท่านี้ ก็จะมีรหัสผ่านที่ไม่ซ้ำกันในแต่ละบริการ สิ่งที่ควรระมัดระวังคือต้องไม่ปล่อยให้รหัสผ่านหลักหลุดออกไปเป็นอันขาด ระบบปฏิบัติการรุ่นใหม่ ๆ หรือเว็บเบราว์เซอร์ปัจจุบันมักจะมีโปรแกรมช่วยเก็บรหัสผ่านติดตั้งมาให้ด้วย เช่น iCloud Keychain บน macOS และ iOS หรืออาจใช้โปรแกรมจากผู้พัฒนาบุคคลที่สาม (Third Party) เช่น One Password 3. การยืนยันตนโดยไม่ใช้รหัสผ่าน (Passwordless) เป็นวิธีการยืนยันตัวตนที่หลายเว็บไซต์นำมาใช้งาน ในเมื่อรหัสผ่านไม่ปลอดภัย และผู้ให้บริการเว็บไซต์ต้องแสดงความรับผิดชอบหากรหัสผ่านหลุดออกไป วิธีแก้ปัญหาก็คือไม่ต้องใช้รหัสผ่านเสียเลย แต่ให้ยืนยันตัวตนผ่านลิงก์ที่ถูกส่งไปทางอีเมลหรือ SMS หรือใช้รหัสผ่านครั้งเดียว เท่านั้น ความปลอดภัยของวิธีนี้เทียบเท่ากับการยืนยันตัวตนสองขั้นตอน และทำให้ผู้ใช้งานไม่จำเป็นต้องจำรหัสผ่าน แต่ข้อเสียก็คือหากผู้ไม่หวังดีเข้าถึงอีเมลของเราได้ ก็จะสามารถเข้าสู่ระบบได้อยู่ดี วิธีการนี้เป็นที่นิยมกับแอปพลิเคชันที่ไม่มีข้อมูลอ่อนไหวมาก เช่น แอปพลิเคชันสะสมคะแนนของห้างสรรพสินค้า 4. การใช้ซอฟต์แวร์หรือฮาร์ดแวร์ช่วยยืนยันตัวตน (Authenticator) อีกวิธีหนึ่งที่ได้รับความนิยมก็คือการใช้แอปพลิเคชันช่วยยืนยันตัวตน เช่น Google Authenicator ที่เปรียบเสมือนเป็นการยืนยันตัวตนสองขั้นตอน มีข้อดีตรงที่ไม่จำเป็นต้องใช้อีเมลหรือเบอร์โทรศัพท์ แต่ระบบลงชื่อเข้าใช้ต้องรองรับด้วยเช่นกัน ซึ่งจะทำให้มั่นใจได้ว่าเราเป็นผู้ที่ยืนยันตัวตนจริง ๆ เพราะต้องใช้โทรศัพท์ของเราเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีวิธีการยืนยันตัวตนอีกขั้นตอนคือการใช้อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ที่มีลักษณะคล้ายกับแฟลชไดรฟ์ แต่ใช้ในการยืนยันตัวตน เรียกอุปกรณ์ในลักษณะนี้ว่า Two-Factor Authentication USB Security Key 5. เทคโนโลยีไบโอเมตริก (Biometric) เป็นเทคโนโลยีที่ปกติมักจะฝังเข้ามาในฮาร์ดแวร์โทรศัพท์มือถือ หรือคอมพิวเตอร์ เช่น ทัชไอดี (Touch ID) หรือเฟซไอดี (Face ID) บนคอมพิวเตอร์แมคหรือไอโฟน ซึ่งจะทำงานร่วมกับซอฟต์แวร์ช่วยยืนยันตัวตน หรือโปรแกรมช่วยเก็บรหัสผ่าน อย่างไรก็ตามโดยส่วนมากแล้วปัจจุบันเทคโนโลยีไบโอเมตริกยังเป็นเพียงตัวเลือกเท่านั้น เพราะสุดท้ายผู้ใช้งานสามารถเลือกยืนยันตัวตนได้ผ่านการใส่รหัสผ่านหรือกดตัวเลขยืนยันอยู่ดี เราจะเห็นว่าความสำคัญสูงสุดของการยืนยันตัวตนที่ปลอดภัยกว่ารหัสผ่าน คือการยืนยันตัวตนแบบหลายชั้น ที่เมื่อก่อนอาจจะเป็นเพียงการยืนยัน 2 ชั้น (Two-Factor Authentication) แต่ปัจจุบันกลายเป็นมากกว่า 2 ชั้นไปแล้ว (Multi-Factor Authentication) ซึ่งสามารถช่วยลดโอกาสที่ผู้ไม่ประสงค์ดีจะสามารถเข้าถึงบัญชีและข้อมูลส่วนตัวของเราได้ แต่สุดท้ายเทคนิคเหล่านี้จะไม่มีประโยชน์เลยหากผู้ใช้งานขาดความตระหนักถึงหายนะที่จะเกิดและละเลยสิทธิ์ในการปกป้องข้อมูลดิจิทัลของตัวเองแต่แรก “รอบรู้ ดูกระแส ก้าวทันโลก” ไปกับ Thai PBS Sci & Tech

วันนี้ (17 ก.ค.2567) การประชุมสภาพิจารณาพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.