วันนี้ (15 มี.ค.2565) น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษ

วันนี้ (10 พ.ค.2566) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องพิจารณา 802 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาคดีแชร์แม่มณี หมายเลขดำ อ. 167/2563 ที่พนักงานอัยการคดีพิเศษ 1 เป็นโจทก์ฟ้อง น.ส.วันทนีย์ หรือ เดียร์
วันนี้ (19 เม.ย.2564) นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.กระทรวงสาธารณสุข โพสต์เฟซบุ๊ก หมอตี๋ สาธิต ปิตุเตชะ กรณีนายปิยะ ปิตุเตชะ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดระยอง ติด COVID-19 หลังเริ่มมีอาการป่วยจนต้องเข้ารับการ
การศึกษาเป็นสิ่งสำคัญ แต่สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน คือ "การไม่หยุดเรียนรู้" ในโลกที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ทักษะใหม่คือกุญแจสู่ "โอกาส" และ "รายได้" ที่มากขึ้น และเมื่อเริ่มพัฒนาฝีมือ เสริมทักษะ และเปิดรับความรู้ใหม่เสมอ สิ่งเหล่านี้สามารถต่อยอดเป็นอาชีพ สร้างรายได้ และเพิ่มมูลค่าให้กับตัวเองในอนาคต เมื่อวันที่ 20 พ.ค.2568 คณะรัฐมนตรี รับทราบประกาศคณะกรรมการค่าจ้าง เรื่อง อัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือ (ฉบับที่ 14) ซึ่งเตรียมประกาศลงราชกิจจานุเบกษาในเร็ว ๆ นี้ หลายคนอาจสงสัยว่า "ค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือ" คืออะไร แตกต่างจาก "ค่าจ้างขั้นต่ำ" อย่างไร และทำไมถึงต้องหาคำตอบเรื่องนี้ ตามประกาศคณะกรรมการค่าจ้าง เรื่อง อัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือ (ฉบับที่ 13) ให้ความหมายของ "อัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือ" ว่า อัตราค่าจ้างที่คณะกรรมการค่าจ้างกำหนดขึ้นในแต่ละสาขาอาชีพ ในแต่ละสาขา และในแต่ละระดับฝีมือ ตาม มาตรา 5 แห่ง พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม โดย พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2551 โดยปกติจะสูงกว่าอัตราค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำทั่วไป อธิบายคือ "ค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือ" คือ อัตราค่าจ้างที่กำหนดขึ้นสำหรับแรงงานที่มีความรู้ ความสามารถ หรือผ่านการทดสอบตามมาตรฐานฝีมือใsportpool netนสายอาชีพเฉพาะ เช่น ช่างไฟฟ้า ช่างเชื่อม พนักงานบริการ เป็นต้น ค่าจ้างมาตรฐานฝีมือแรงงาน แตกต่างจากอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ อย่างไร ค่าจ้างขั้นต่ำ คืออัตราค่าจ้างพื้นฐานที่นายจ้างต้องจ่ายให้แรงงานทั่วไปโดยไม่จำเป็นต้องมีทักษะเฉพาะ ส่วน ค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือ: คืออัตราค่าจ้างที่จ่ายให้แก่แรงงานที่มีทักษะเฉพาะ หรือผ่านการรับรองจากภาครัฐ ว่ามี "ฝีมือ" ตามเกณฑ์มาตรฐาน คนรุ่นใหม่ที่กำลังก้าวเข้าสู่ตลาดแรงงานควรมีทักษะที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากโลกของการทำงานกำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วจากเทคโนโลยี เศรษฐกิจ และพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปอย่างต่อเนื่อง การพัฒนาทักษะจึงเป็นหัวใจสำคัญในการเพิ่มโอกาส แล้วมีอะไรบ้าง ยกตัวอย่าง การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี เทคโนโลยี AI, Automation และ Digital Transformation กำลังเข้ามาแทนที่งานบางประเภท แรงงานที่มีทักษะใหม่ ๆ เช่น Data Analysis, Coding, Digital Marketing เป็นต้น จะสามารถปรับตัวและทำงานร่วมกับเทคโนโลยีได้ดีกว่า เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน เมื่อแรงงานจำนวนมากมีทักษะพื้นฐานเหมือนกัน คนที่มีทักษะพิเศษหรือ "ทักษะแห่งอนาคต" จะโดดเด่นกว่าในสายตาของนายจ้าง และสามารถต่อรองรายได้ได้ดีขึ้น สร้างโอกาสในการเติบโตในอาชีพ การพัฒนาทักษะช่วยให้แรงงานรุ่นใหม่สามารถเลื่อนตำแหน่ง หรือเปลี่ยนสายงานได้ง่ายขึ้น เช่น จากพนักงานทั่วไปสู่นักวิเคราะห์ข้อมูล หรือจากพนักงานประจำสู่ฟรีแลนซ์ที่มีรายได้หลากหลายทาง ความมั่นคงทางอาชีพในยุคที่ไม่แน่นอน เศรษฐกิจผันผวน งานบางประเภทหายไปหรือถูกลดบทบาท ทักษะใหม่จะช่วยให้แรงงานสามารถ "เปลี่ยนตัวเอง" และหางานได้ต่อเนื่องในทุกสภาวะ เมื่อวันที่ 20 พ.ค.2568 คณะรัฐมนตรี รับทราบประกาศคณะกรรมการค่าจ้าง เรื่อง อัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือ (ฉบับที่ 14) ตามที่กระทรวงแรงงาน (รง.) เสนอ เพื่อ ซึ่งจะมีผลใช้บังคับ 90 วัน หลังจากประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป สำหรับอาชีพ ที่จะต้องได้ค่าจ้างมาตรฐานใหม่ ได้แก่ ประกาศคณะกรรมการค่าจ้าง เรื่อง อัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือ (ฉบับที่ 14) มีสาระสำคัญ คือ กระทรวงแรงงานได้เคยกำหนด "อัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือ 1 แล้วใน 129 ตามประกาศคณะกรรมการค่าจ้าง (ฉบับที่ 13) ลงวันที่ 29 ก.ย.2566 ซึ่ง ครม.มีมติรับทราบประกาศดังกล่าวเมื่อวันที่ 21 พ.ย.2566 ต่อมา คณะกรรมการค่าจ้างชุดที่ 22 มีมติเห็นชอบให้จัดทำอัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือ ปี 2567 โดยแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ 3 ชุด เพื่อศึกษาและจัดทำร่างอัตราค่าจ้างใหม่ใน 13 สาขา การจัดทำครั้งนี้ พิจารณาจากข้อมูลหลายด้าน เช่น ความเห็นจากสถานประกอบการ ลูกจ้าง และผู้ผ่านการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ, ลักษณะงานในแต่ละสาขา รวมไปถึง การจ่ายค่าจ้างจริงในตลาดแรงงาน, ความสามารถในการจ่ายของนายจ้าง นอกจากนี้ ยังมีการจัดสัมมนารับฟังความคิดเห็นจากผู้เกี่ยวข้องในแต่ละสาขาอาชีพ เพื่อประกอบการเสนอร่างค่าจ้างใหม่ ดังกล่าว สุดท้าย ในการประชุมคณะกรรมการค่าจ้างชุดที่ 22 เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2568 ได้มีมติเห็นชอบให้กำหนดอัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือ 13 สาขา ให้มีผลใช้บังคับ 90 วัน หลังประกาศในราชกิจจานุเบกษาฯ หมายเหตุ *** มาตรฐานฝีมือแรงงาน คือ ข้อกำหนดทางวิชาการที่ใช้เป็นเกณฑ์วัดระดับฝีมือ ความรู้ ความสามารถและทัศนคติในการทำงานของผู้ประกอบอาชีพสาขาต่าง ๆ ของกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เป็น 3 ระดับ และจะมีรายละเอียดของเกณฑ์มาตรฐานฝีมือแรงงานที่แตกต่างกันในแต่ละสาขา ซึ่งผู้ที่ผ่านการทดสอบจะได้รับใบรับรองผ่านการทดสอบของกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน การกำหนดอัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือ 13 สาขา ที่ กระทรวงแรงงาน เสนอในครั้งนี้เป็นการกำหนดอัตราค่าจ้างตามาตรฐานฝีมือใหม่ 12 สาขา ส่วนอีก 1 สาขา คือ สาขาช่างไฟฟ้า สำหรับอุตสาหกรรม การจัดงานประชุม การเดินทาง เพื่อเป็นรางวัล และการแสดงสินค้า เป็นสาขาเดิมที่ได้กำหนดอัตราค่าจ้างระดับ 1 ไว้ก่อนแล้ว ตามประกาศ (ฉบับที่ 13) โดยในครั้งนี้เป็นการปรับเพิ่มให้มีอัตราค่าจ้างระดับ 2 ด้วย การปรับขึ้นค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือในครั้งนี้ เป็นการช่วยยกระดับรายได้และคุณภาพชีวิตของแรงงานในกลุ่มอาชีพที่มีทักษะเฉพาะทาง อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาฝีมือแรงงานให้ได้มาตรฐาน และเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโตอย่างยั่งยืน อ่านข่าว : "ทรัมป์" เปิดตัว "โกลเดน โดม" คาดพร้อมใช้งานอีก 3 ปี คาด กก.สอบลงโทษแพทย์ ปมชั้น 14 ลงมติ 29 พ.ค.นี้ เตือนไทยตอนบน-ภาคใต้ เฝ้าระวังน้ำท่วม 23-27 พ.ค.นี้
การศึกษาเป็นสิ่งสำคัญ แต่สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน คือ "การไม่หยุดเรียนรู้" ในโลกที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
วันนี้ (8 ก.พ.2564) น.ส.กชนุช แสงแถลง ผู้อำนวยการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ผ่
มีความเห็นจากนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ถึงการออกร่าง พ.ร.ก.ควบค
การศึกษาเป็นสิ่งสำคัญ แต่สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน คือ "การไม่หยุดเรียนรู้" ในโลกที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ทักษะใหม่คือกุญแจสู่ "โอกาส" และ "รายได้" ที่มากขึ้น และเมื่อเริ่มพัฒนาฝีมือ เสริมทักษะ และเปิดรับความรู้ใหม่เสมอ สิ่งเหล่านี้สามารถต่อยอดเป็นอาชีพ สร้างรายได้ และเพิ่มมูลค่าให้กับตัวเองในอนาคต เมื่อวันที่ 20 พ.ค.2568 คณะรัฐมนตรี รับทราบประกาศคณะกรรมการค่าจ้าง เรื่อง อัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือ (ฉบับที่ 14) ซึ่งเตรียมประกาศลงราชกิจจานุเบกษาในเร็ว ๆ นี้ หลายคนอาจสงสัยว่า "ค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือ" คืออะไร แตกต่างจาก "ค่าจ้างขั้นต่ำ" อย่างไร และทำไมถึงต้องหาคำตอบเรื่องนี้ ตามประกาศคณะกรรมการค่าจ้าง เรื่อง อัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือ (ฉบับที่ 13) ให้ความหมายของ "อัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือ" ว่า อัตราค่าจ้างที่คณะกรรมการค่าจ้างกำหนดขึ้นในแต่ละสาขาอาชีพ ในแต่ละสาขา และในแต่ละระดับฝีมือ ตาม มาตรา 5 แห่ง พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม โดย พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2551 โดยปกติจะสูงกว่าอัตราค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำทั่วไป อธิบายคือ "ค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือ" คือ อัตราค่าจ้างที่กำหนดขึ้นสำหรับแรงงานที่มีความรู้ ความสามารถ หรือผ่านการทดสอบตามมาตรฐานฝีมือใsportpool netนสายอาชีพเฉพาะ เช่น ช่างไฟฟ้า ช่างเชื่อม พนักงานบริการ เป็นต้น ค่าจ้างมาตรฐานฝีมือแรงงาน แตกต่างจากอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ อย่างไร ค่าจ้างขั้นต่ำ คืออัตราค่าจ้างพื้นฐานที่นายจ้างต้องจ่ายให้แรงงานทั่วไปโดยไม่จำเป็นต้องมีทักษะเฉพาะ ส่วน ค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือ: คืออัตราค่าจ้างที่จ่ายให้แก่แรงงานที่มีทักษะเฉพาะ หรือผ่านการรับรองจากภาครัฐ ว่ามี "ฝีมือ" ตามเกณฑ์มาตรฐาน คนรุ่นใหม่ที่กำลังก้าวเข้าสู่ตลาดแรงงานควรมีทักษะที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากโลกของการทำงานกำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วจากเทคโนโลยี เศรษฐกิจ และพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปอย่างต่อเนื่อง การพัฒนาทักษะจึงเป็นหัวใจสำคัญในการเพิ่มโอกาส แล้วมีอะไรบ้าง ยกตัวอย่าง การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี เทคโนโลยี AI, Automation และ Digital Transformation กำลังเข้ามาแทนที่งานบางประเภท แรงงานที่มีทักษะใหม่ ๆ เช่น Data Analysis, Coding, Digital Marketing เป็นต้น จะสามารถปรับตัวและทำงานร่วมกับเทคโนโลยีได้ดีกว่า เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน เมื่อแรงงานจำนวนมากมีทักษะพื้นฐานเหมือนกัน คนที่มีทักษะพิเศษหรือ "ทักษะแห่งอนาคต" จะโดดเด่นกว่าในสายตาของนายจ้าง และสามารถต่อรองรายได้ได้ดีขึ้น สร้างโอกาสในการเติบโตในอาชีพ การพัฒนาทักษะช่วยให้แรงงานรุ่นใหม่สามารถเลื่อนตำแหน่ง หรือเปลี่ยนสายงานได้ง่ายขึ้น เช่น จากพนักงานทั่วไปสู่นักวิเคราะห์ข้อมูล หรือจากพนักงานประจำสู่ฟรีแลนซ์ที่มีรายได้หลากหลายทาง ความมั่นคงทางอาชีพในยุคที่ไม่แน่นอน เศรษฐกิจผันผวน งานบางประเภทหายไปหรือถูกลดบทบาท ทักษะใหม่จะช่วยให้แรงงานสามารถ "เปลี่ยนตัวเอง" และหางานได้ต่อเนื่องในทุกสภาวะ เมื่อวันที่ 20 พ.ค.2568 คณะรัฐมนตรี รับทราบประกาศคณะกรรมการค่าจ้าง เรื่อง อัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือ (ฉบับที่ 14) ตามที่กระทรวงแรงงาน (รง.) เสนอ เพื่อ ซึ่งจะมีผลใช้บังคับ 90 วัน หลังจากประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป สำหรับอาชีพ ที่จะต้องได้ค่าจ้างมาตรฐานใหม่ ได้แก่ ประกาศคณะกรรมการค่าจ้าง เรื่อง อัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือ (ฉบับที่ 14) มีสาระสำคัญ คือ กระทรวงแรงงานได้เคยกำหนด "อัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือ 1 แล้วใน 129 ตามประกาศคณะกรรมการค่าจ้าง (ฉบับที่ 13) ลงวันที่ 29 ก.ย.2566 ซึ่ง ครม.มีมติรับทราบประกาศดังกล่าวเมื่อวันที่ 21 พ.ย.2566 ต่อมา คณะกรรมการค่าจ้างชุดที่ 22 มีมติเห็นชอบให้จัดทำอัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือ ปี 2567 โดยแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ 3 ชุด เพื่อศึกษาและจัดทำร่างอัตราค่าจ้างใหม่ใน 13 สาขา การจัดทำครั้งนี้ พิจารณาจากข้อมูลหลายด้าน เช่น ความเห็นจากสถานประกอบการ ลูกจ้าง และผู้ผ่านการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ, ลักษณะงานในแต่ละสาขา รวมไปถึง การจ่ายค่าจ้างจริงในตลาดแรงงาน, ความสามารถในการจ่ายของนายจ้าง นอกจากนี้ ยังมีการจัดสัมมนารับฟังความคิดเห็นจากผู้เกี่ยวข้องในแต่ละสาขาอาชีพ เพื่อประกอบการเสนอร่างค่าจ้างใหม่ ดังกล่าว สุดท้าย ในการประชุมคณะกรรมการค่าจ้างชุดที่ 22 เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2568 ได้มีมติเห็นชอบให้กำหนดอัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือ 13 สาขา ให้มีผลใช้บังคับ 90 วัน หลังประกาศในราชกิจจานุเบกษาฯ หมายเหตุ *** มาตรฐานฝีมือแรงงาน คือ ข้อกำหนดทางวิชาการที่ใช้เป็นเกณฑ์วัดระดับฝีมือ ความรู้ ความสามารถและทัศนคติในการทำงานของผู้ประกอบอาชีพสาขาต่าง ๆ ของกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เป็น 3 ระดับ และจะมีรายละเอียดของเกณฑ์มาตรฐานฝีมือแรงงานที่แตกต่างกันในแต่ละสาขา ซึ่งผู้ที่ผ่านการทดสอบจะได้รับใบรับรองผ่านการทดสอบของกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน การกำหนดอัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือ 13 สาขา ที่ กระทรวงแรงงาน เสนอในครั้งนี้เป็นการกำหนดอัตราค่าจ้างตามาตรฐานฝีมือใหม่ 12 สาขา ส่วนอีก 1 สาขา คือ สาขาช่างไฟฟ้า สำหรับอุตสาหกรรม การจัดงานประชุม การเดินทาง เพื่อเป็นรางวัล และการแสดงสินค้า เป็นสาขาเดิมที่ได้กำหนดอัตราค่าจ้างระดับ 1 ไว้ก่อนแล้ว ตามประกาศ (ฉบับที่ 13) โดยในครั้งนี้เป็นการปรับเพิ่มให้มีอัตราค่าจ้างระดับ 2 ด้วย การปรับขึ้นค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือในครั้งนี้ เป็นการช่วยยกระดับรายได้และคุณภาพชีวิตของแรงงานในกลุ่มอาชีพที่มีทักษะเฉพาะทาง อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาฝีมือแรงงานให้ได้มาตรฐาน และเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโตอย่างยั่งยืน อ่านข่าว : "ทรัมป์" เปิดตัว "โกลเดน โดม" คาดพร้อมใช้งานอีก 3 ปี คาด กก.สอบลงโทษแพทย์ ปมชั้น 14 ลงมติ 29 พ.ค.นี้ เตือนไทยตอนบน-ภาคใต้ เฝ้าระวังน้ำท่วม 23-27 พ.ค.นี้
เมื่อวันที่ 30 ต.ค.2564 คณะกรรมการโรคติดต่อ กทม. ออกประกาศฉบับที่ 45 รับมาตรการเปิดประเทศ โดยเห็นชอบ