วันนี้ (30 ก.ค.2566) นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกร

ความคืบหน้าจากกรณีผู้ก่อเหตุขี่รถจักรยานยนต์บุกยิงกลางงานแต่งอดีตนักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย ที่บ้านพักภายในซอยสุทธิพงศ์ 1/1 ถนนสุทธิสารวินิจฉัย แขวงดินแดง เขตดินแดง
วันนี้ (29 ก.ย.2567) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ใช้ TikTok ได้โพสต์คลิปแก๊งคุณยายนั่งพ่วงท้ายรถไถ โดยมีการบรรทุกข้าวสารหลายกระสอบและตู้เย็น 1 หลัง พร้อมบอกว่า คุณยายไปตั้งแต่เวลา 07.00 น. เพื่อเบิกเงิน เ
ที่ผ่านมา ไม่เคยมีปรากฏป้ายอวยพรปีใหม่ไทย ของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ปรากฏให้เห็นมาก่อนเลย อย่าว่าแต่ป้ายอวยพรปีใหม่ แม้แต่ป้ายหาเสียง หรือป้ายอื่น ๆ ก็แทบไม่เคยมีใครได้เห็นภาพที่มี “บิ๊กป้อม” อยู่ในภาพ เพราะปกติธรรมดา ภาระหน้าที่รับผิดชอบแต่ไหนแต่ไรมา ก็ไม่จำเป็นต้องโปรโมทโฆษณาอcom slotะไร พอมีป้ายอวยพรปีใหม่ไทย ขอให้คนไทยมีสุข มีสุขภาพดี อยู่ดีกินดี มีภาพ พล.อ.ประวิตร ยืนยิ้มแฉ่งอยู่ตรงกลาง พร้อมภาพโลโก้พรรคพลังประชารัฐให้เห็นอย่างโดดเด่น จึงกลายเป็นประเด็นที่ถูกผู้คนพูดถึงกันมาก ไม่ใช่ผู้สมัครผู้ว่าฯ กรุงเทพฯ ไม่ใช่ผู้สมัคร ส.ก. ไม่ใช่ผู้สมัครนายกฯ เมืองพัทยา และไม่ใช่ผู้สมัครสมาชิกสภาเมืองพัทยา แล้วมีป้ายขนาดใหญ่ ขนาดกลาง ที่เรียกกันทั่วไปว่า คัทเอ้าท์ รวมทั้งป้ายขนาดเล็ก โผล่เต็มพรึ่บริมสองฝั่งถนนสายหลักๆ ทั่วทุกภาคได้อย่างไร เจตนาต้องการสื่อสารอะไร แม้นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีดีอีเอส ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จะอธิบายผ่านสื่อว่า เป็นเพียงเจตนาหวังอวยพรช่วงสงกรานต์ หรือปีใหม่ไทยไปยังประชาชน และประชาสัมพันธ์พรรค พปชร. ไปพร้อมกัน ซึ่งเป็นเรื่องปกติ ไม่ได้มีนัยอื่นใด ความจริง การขึ้นป้ายพร้อมกันทั่วประเทศของคนระดับหัวหน้าพรรคการเมือง ถือเป็นเรื่องปกติที่พรรคการเมืองไหนก็ทำ แต่สำหรับพรรคพลังประชารัฐ เป็นที่รับรู้รับทราบกันดี เป็นพรรคที่เตรียมเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นแคนดิเดทนายกฯ ต่อในการเลือกตั้งครั้งหน้า ไม่ใช่พล.อ.ประวิตร ซึ่งหวังแค่จะสานฝัน “น้องเล็ก” ให้เป็นจริง แต่หากขึ้นป้ายพลังประชารัฐ โดยมีรูปภาพเป็น “บิ๊กตู่” แทนที่จะเป็น “บิ๊กป้อม” ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากไม่ได้เป็นแกนนำหรือแม้แต่สมาชิกพรรค จะเข้าข่ายให้คนนอกเข้ามาแทรกแซงครอบงำพรรคได้ ซึ่งโทษอาจรุนแรงถึงขั้นยุบพรรค พรรคพลังประชารัฐ จึงเลือกที่จะขึ้นรูปพล.อ.ประวิตร ซึ่งเชื่อมโยงไปถึงพล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะแคนดิเดทนายกฯ ทั้งถือเป็นการตีตราจอง “บิ๊กตู่” เอาไว้ในตัว และถือเป็นการ “ตีกัน” พรรคการเมืองอื่น ที่จะแอบเสนอชื่อพล.อ.เป็นแคนดิเดทนายกฯไปในตัว ขณะเดียวกัน ยังแสดงให้เห็นถึงความเป็นเอกภาพของพรรคพลังประชารัฐ ในยุคที่ปราศจากกลุ่มก๊กต่าง ๆ ในพรรค หลังการแยกออกไปของกลุ่ม 22 ส.ส.ที่นำโดย ร.อ.ธรรมมนัส พรหมเผ่า สิ้นสุดลง พปชร.จึงหวังเน้นความเป็นเอกภาพภายในพรรค การใต้การขับเคลื่อนของ พล.อ.ประวิตร โดยมีเป้าหมายสำคัญ คือสายฝัน “บิ๊กตู่” ให้เป็นจริงอีก 1 สมัยบนเก้าอี้นายกฯ นี่จึงเป็นเป้าหมายสำคัญอันดับ 1 ของจริงของพปชร.
วันนี้ (8 พ.ย.2564) ภายหลังจาก ศบค.มีมติให้เปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.25
วันนี้ (23 ก.ค.2567) นายไพฑูรย์ งามมุข ผอ.สำนักงานเขตห้วยขวางเดินทางมาตรวจสอบบริเวณที่มีการติดตั้งป้
กลายเป็นประเด็นร้อนในโซเชียล หลัง พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง อดีตผู้ว่าฯ กทม. ว่าที่ผู้สมัครชิงผู้ว่ารา
ที่ผ่านมา ไม่เคยมีปรากฏป้ายอวยพรปีใหม่ไทย ของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ปรากฏให้เห็นมาก่อนเลย อย่าว่าแต่ป้ายอวยพรปีใหม่ แม้แต่ป้ายหาเสียง หรือป้ายอื่น ๆ ก็แทบไม่เคยมีใครได้เห็นภาพที่มี “บิ๊กป้อม” อยู่ในภาพ เพราะปกติธรรมดา ภาระหน้าที่รับผิดชอบแต่ไหนแต่ไรมา ก็ไม่จำเป็นต้องโปรโมทโฆษณาอcom slotะไร พอมีป้ายอวยพรปีใหม่ไทย ขอให้คนไทยมีสุข มีสุขภาพดี อยู่ดีกินดี มีภาพ พล.อ.ประวิตร ยืนยิ้มแฉ่งอยู่ตรงกลาง พร้อมภาพโลโก้พรรคพลังประชารัฐให้เห็นอย่างโดดเด่น จึงกลายเป็นประเด็นที่ถูกผู้คนพูดถึงกันมาก ไม่ใช่ผู้สมัครผู้ว่าฯ กรุงเทพฯ ไม่ใช่ผู้สมัคร ส.ก. ไม่ใช่ผู้สมัครนายกฯ เมืองพัทยา และไม่ใช่ผู้สมัครสมาชิกสภาเมืองพัทยา แล้วมีป้ายขนาดใหญ่ ขนาดกลาง ที่เรียกกันทั่วไปว่า คัทเอ้าท์ รวมทั้งป้ายขนาดเล็ก โผล่เต็มพรึ่บริมสองฝั่งถนนสายหลักๆ ทั่วทุกภาคได้อย่างไร เจตนาต้องการสื่อสารอะไร แม้นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีดีอีเอส ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จะอธิบายผ่านสื่อว่า เป็นเพียงเจตนาหวังอวยพรช่วงสงกรานต์ หรือปีใหม่ไทยไปยังประชาชน และประชาสัมพันธ์พรรค พปชร. ไปพร้อมกัน ซึ่งเป็นเรื่องปกติ ไม่ได้มีนัยอื่นใด ความจริง การขึ้นป้ายพร้อมกันทั่วประเทศของคนระดับหัวหน้าพรรคการเมือง ถือเป็นเรื่องปกติที่พรรคการเมืองไหนก็ทำ แต่สำหรับพรรคพลังประชารัฐ เป็นที่รับรู้รับทราบกันดี เป็นพรรคที่เตรียมเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นแคนดิเดทนายกฯ ต่อในการเลือกตั้งครั้งหน้า ไม่ใช่พล.อ.ประวิตร ซึ่งหวังแค่จะสานฝัน “น้องเล็ก” ให้เป็นจริง แต่หากขึ้นป้ายพลังประชารัฐ โดยมีรูปภาพเป็น “บิ๊กตู่” แทนที่จะเป็น “บิ๊กป้อม” ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากไม่ได้เป็นแกนนำหรือแม้แต่สมาชิกพรรค จะเข้าข่ายให้คนนอกเข้ามาแทรกแซงครอบงำพรรคได้ ซึ่งโทษอาจรุนแรงถึงขั้นยุบพรรค พรรคพลังประชารัฐ จึงเลือกที่จะขึ้นรูปพล.อ.ประวิตร ซึ่งเชื่อมโยงไปถึงพล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะแคนดิเดทนายกฯ ทั้งถือเป็นการตีตราจอง “บิ๊กตู่” เอาไว้ในตัว และถือเป็นการ “ตีกัน” พรรคการเมืองอื่น ที่จะแอบเสนอชื่อพล.อ.เป็นแคนดิเดทนายกฯไปในตัว ขณะเดียวกัน ยังแสดงให้เห็นถึงความเป็นเอกภาพของพรรคพลังประชารัฐ ในยุคที่ปราศจากกลุ่มก๊กต่าง ๆ ในพรรค หลังการแยกออกไปของกลุ่ม 22 ส.ส.ที่นำโดย ร.อ.ธรรมมนัส พรหมเผ่า สิ้นสุดลง พปชร.จึงหวังเน้นความเป็นเอกภาพภายในพรรค การใต้การขับเคลื่อนของ พล.อ.ประวิตร โดยมีเป้าหมายสำคัญ คือสายฝัน “บิ๊กตู่” ให้เป็นจริงอีก 1 สมัยบนเก้าอี้นายกฯ นี่จึงเป็นเป้าหมายสำคัญอันดับ 1 ของจริงของพปชร.
ที่ผ่านมา ไม่เคยมีปรากฏป้ายอวยพรปีใหม่ไทย ของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้าพรรคพลังประช