วันนี้ (1 ก.พ.2564) รายงานข่าวจากบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ระบุว่า บริษัทได้ทวงถามใ

วันนี้ (18 ส.ค.2567) กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ร่องมรสุมกำลังปานกลางพาดผ่านภาคเหนือตอนบน และตอนบนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบนและอ

วันนี้ (1 ก.พ.2564) รายงานข่าวจากบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ระบุว่า บริษัทได้ทวงถามให้บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด ชำระหนี้ในการให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุงโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายที่ 1 คือ ช่วงสะพานตากสิน-บางหว้า ช่วงอ่อนนุช-แบริ่ง และสวนต่อขยายที่ 2 คือ ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต และช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย ซึ่งมีจำนวนรวมกันทั้งสิ้น 8,899,338,642.45 บาท ซึ่งกรุงเทพธนาคมได้มีหนังสือยอมรับสภาพหนี้ตามที่บริษัทฯ เรียกร้อง แต่กลับไม่มีข้อเสนอใดๆ ที่จะทำให้บริษัทฯ มีความมั่นใจได้เลยว่า บริษัทฯ จะได้รับชำระหนี้ที่ค้างชำระอยู่ในปัจจุบันและในอนาคตจากกรุงเทพธนาคม หรือกรุงเทพมหานคร (กทม.) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นเจ้าของกรุงเทพธนาคม บริษัทฯ เชื่อว่า ทั้งกรุงเทพธนาคม และ กทม. ต่างตระหนักเป็นอย่างดีมาระยะหนึ่งแล้วว่า หลักการของโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายที่ให้ กรุงเทพธนาคม และ กทม. เป็นผู้แบกรับความเสี่ยงในผลประกอบการนับแต่เริ่มต้นเปิดให้บริการ การเปิดให้บริการเดินรถในโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายในรูปแบบปัจจุบัน ได้อาศัยเพียงการเรียกเก็บค่าโดยสารจากประชาชนในประมาณ 15 บาท สำหรับการใช้บริการตลอดส่วนต่อขยายที่ 1 และไม่เรียกเก็บค่าโดยสารจากประชาชนสำหรับการใช้บริการส่วนต่อขยายที่ 2 โดยไม่มีเงินอุดหนุนจากภาครัฐ แต่มีต้นทุนที่ต้องแบกรับจากค่าจ้างในการให้บริการเดินรถ และซ่อมบำรุงนั้น และต้นทุนค่าซื้อระบบการเดินรถ (ไฟฟ้าและเครื่องกล) ทำให้เกิดผลขาดทุนแก่ กรุงเทพธนาคม และ กทม. ตลอดมาเป็นจำนวนมาก ย่อมจะทำให้กรุงเทพธนาคม และ กทม. ไม่สามารถซ่าระหนี้ที่มีอยู่กับบริษัทฯ ได้ และกลับจะมีหนี้สินเพิ่มมากขึ้นไปอีก จนถึงขั้นที่จะไม่สามารถให้บริการเดินรถในโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวได้อีกต่อไปในระยะเวลาไม่นาน นอกจากนี้การที่กรุงเทพธนาคม และกทม.ได้ตัดสินใจไม่เรียกเก็บค่าโดยสารในช่วงเวลาที่ผ่านมา เนื่องจากมีความคาดหวังว่าการแก้ไขปัญหาการให้บริการเดินรถในโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวแบบเบ็ดเสร็จ โดยไม่ต้องใช้เงินอุดหนุนจากภาครัฐ แต่ใช้การแก้ไขสัญญาเพื่อให้การให้บริการเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวและการเรียกเก็บค่าโดยสารจากประชาชน ทั้งในโครงการส่วนหลักคือช่วงหมอซิต-อ่อนนุช และช่วงสนามกีฬาแห่งชาติ-สะพานตากสิน และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย ถือเป็นโครงข่ายเดียวกัน จนเกิดผลดีแก่ประชาชนเพราะทำให้ค่าโดยสารที่จะเรียกเก็บตลอดสายลตลงได้เป็นจำนวนพอสมควร และให้บริษัทฯ เป็นผู้แบกรับความเสี่ยงในผลประกอบการในระยะยาวแทนการเรียกหนี้ที่ค้างชำระเอาจากกรุงเทพธนาคม และ กทม. ซึ่งได้มีการเจรจาgreenx88 mobileทดลอง บา คาราสำเร็จไปแล้ว ตั้งแต่เดือนก.ค.2562 ภายใต้คำสั่งคสช.ที่ 312562 เรื่องการดำเนินโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว จะได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีโดยเร็วนั้น ก็ยิ่งทำให้ กรุงเทพธนาคม และ กทม. สร้างหนี้สินกับบริษัทฯ เพิ่มขึ้น เพราะไม่มีเงินรายได้จากโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ในขณะที่มีภาระที่จะต้องจ่ายค่าจ้างในการให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุงให้แก่บริษัทฯ บริษัทฯ ทราบจากข่าวตามสื่อต่างๆว่า สัญญารถไฟฟ้าสายสีเขียวอยู่ในระหว่างการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) แต่การที่บริษัทฯ ไม่ทราบเลยว่าครม.มีกำหนดการที่จะพิจารณาให้แล้วเสร็จเมื่อใด ซึ่งทั้งกรุงเทพธนาคม และกทม. ไม่สามารถที่จะให้ความชัดเจนได้ บริษัทฯ เป็นบริษัทลูกของบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทมหาชนที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มีผู้ถือหุ้น ซึ่งเป็นประชาชนร่วมลงทุนอยู่จำนวนประมาณกว่า 101,700 คน มีเจ้าหนี้ที่ให้เงินกู้แก่บริษัทฯ มาประกอบธุรกิจจำนวนมาก ต่างมีความเชื่อมั่นในการประกอบธุรกิจของบริษัทฯ การที่กรุงเทพธนาคม และ กทม.สามารถชำระหนี้ให้แก่บริษัทฯซึ่งคำนวณจนถึงวันที่ 31 ธ.ค.63 มีจำนวนถึงกว่า 8,899,338,642.45 บาท ย่อมจะสร้างความเสียหายให้แก่บริษัทฯ รวมทั้งผู้ถือหุ้นและเจ้าหนี้ของบริษัทฯ เป็นอย่างมาก การที่บริษัทฯ ยินยอมตกลงตามหลักการของร่างสัญญาแก้ไขสัญญาสัมปทานโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวนั้น ก็เพราะเห็นว่าเป็นทางออกที่จะหยุดการที่กรุงเทพธนาคมและ กทม.จะสร้างหนี้กับบริษัทฯ เพิ่มมากขึ้นไปอีก จากการเปิดให้บริการเดินรถในโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายในรูปแบบปัจจุบันต่อไป โดยมีรายได้ไม่เพียงพอที่จะจ่ายค่าจ้างให้แก่บริษัทฯ และแม้ว่าภายใต้ร่างสัญญาแก้ไขสัญญาสัมปทานโครง การรถไฟฟ้าสายสีเขียวนั้น บริษัทฯ จะไม่ได้รับชำระหนี้ที่ค้างชำระคืนทันที แต่หากผลประกอบการเดินรถในโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวต่อไปในระยะยาวดีขึ้น บริษัทฯ ซึ่งเป็นเป็นผู้แบกรับความเสี่ยงในผลประกอบการและเป็นผู้ให้บริการเดินรถในโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ก็จะมีโอกาสได้หนี้ที่ค้างชำระนี้คืนได้ ซึ่งถือได้ว่าเป็นมาตรการในการแก้ไขหนี้ ที่แม้จะมีความเสี่ยงกับบริษัทฯบ้าง แต่ก็ทำให้บริษัทฯ อยู่ในสถานการณ์ที่ดีกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบันมาก ดังนั้น เมื่อไม่มีความแน่นอนว่าการดำเนินการตามร่างสัญญาแก้ไขสัญญาสัมปทาน โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวซึ่งอยู่ในระหว่างการพิจารณาของ ครม.จะเกิดขึ้นหรือไม่ จึงไม่เป็นธรรมกับบริษัทฯ หากกรุงเทพธนาคมและกทม. จะอาศัยการที่บริษัทฯ ไม่ต้องการให้เกิดความเดือดร้อนแก่ประชาชนอันเนื่องมาจากการหยุดให้บริการการเดินรถ ทั้งที่ไม่ได้รับค่าจ้างมาเพิกเฉยไม่ชำระหนี้ที่ค้างให้แก่บริษัทฯ และกลับจะสร้างหนี้กับบริษัทฯ เพิ่มมากขึ้นไปอีก จากการเปิดให้บริการเดินรถในโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวต่อไป โดยไม่มีมาตรการในการจ่ายค่าจ้างที่ค้างอยู่และที่จะเกิดขึ้นใหม่มาทำความตกลงกับบริษัทฯ ให้ชัดเจน ตามที่พอจะอนุมานได้จากหนังสือยอมรับสภาพหนี้แต่ไม่มีข้อเสนอใดๆ ของกรุงเทพธนาคม บริษัทฯ มีความรับผิดชอบต่อผู้ถือหุ้นและเจ้าหนี้ของบริษัทฯ ที่จะต้องทำการบริหารจัดการหนี้ที่ กรุงเทพธนาคม และกทม. ค้างชำระแก่บริษัทฯ และมีแนวทางที่ชัดเจนหากมีการที่จะต้องให้มีการสร้างหนี้เพิ่มขึ้นไปอีก โดยหนังสือฉบับนี้ บริษัทฯ จึงขอให้กรุงเทพธนาคม และกทม.ชำระหนี้ทั้งหมด คือหนี้ค่าจ้างค้างชำระถึงวันที่ออกจดหมายฉบับนี้ ซึ่งค้างชำระมาเป็นเวลา 2 ปี 5 เดือนนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2560 คิดเป็นเงินประมาณ 9,602,927,927.24 บาท และหนี้ค่ารื้อระบบการเดินรถ ที่จะถึงกำหนดชำระในเดือนมี.ค. 2564 คิดเป็นเงิน 2,762878 25.12 บาท ภายใน 60 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือฉบับนี้ มิฉะนั้น บริษัทฯ มีความจำเป็นที่จะต้องพิจารณาการใช้สิทธิตามกฎหมาย และตามสัญญาของบริษัทฯ เอากับ กรุงเทพธนาคม และ กทม. ต่อไป

กรมชลฯ หยุดส่งน้ำเพื่อการเกษตร ชาวนาสิงห์บุรีวอนขอสูบน้ำทำนาปีต่อ วันนี้ (17 ก.ค.2558) กรมชลประทานได้มีการปิดประตูระบายน้ำทุกจุดในลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาเพื่อไม่ให้มีการระบายน้ำสำหรับนำไปใช้ทำการเกษตร ส่ง