Home
|
เค ดิ ต บา คา ร่า ฟรี

วันนี้ (28 ส.ค.2567) พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง อ

เค ดิ ต บา คา ร่า ฟรี

วันนี้ (2 พ.ค.2566) นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีต ส.ส.นครนายก พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เปิดเผยหลังศาลฎีกาอ่านคำพิพากษาตัดสินคืนสิทธิ์การเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.นครนายก เขต 2 หลังจากถูก กกต.เขต 2 น

วันนี้ (7 ม.ค.2568) เมื่อเวลา 19.00 น. เจ้าหน้าที่นำตัว นายซิงซิง หรือ หวังซิง นักแสดงชาวจีน ที่เดินทางมาจาก อ.แม่สอด จ.ตาก เดินทางถึงกองบิน 6 เขตดอนเมือง โดยมี พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่ง

แบคทีเรียได้มีการวิวัฒนาการเพื่อให้ดื้อต่อยาปฏิชีวนะตั้งแต่ครั้งที่เริ่มผลิตยาขึ้นมาเป็นเวลานับศตวรรษ ทุกวันนี้มีเพียงยาแค่กลุ่มเล็ก ๆ เพียงเท่านั้นที่พอจะรักษาโรคบางชนิดได้ แต่ในขณะเดียวกันประสิทธิภาพของยาเหล่านี้ก็กำลังลดลงอีกด้วย อีรีค บราวน์ (Eric Brown) นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยแมคมาสเตอร์ (Mcmaster University) และคณะจากประเทศแคนาดาได้ศึกษาการแสดงผลร่วมของยาปฏิชีวนะกับแบคทีเรียสองกลุ่ม กลุ่มแรกเป็นแบคทีเรียที่ดื้อยาโคลิสติน (colistin) ซึ่งเป็นยาปฏิชีวนะทางเลือกสุดท้ายที่ถูกใช้ในการรักษาการติดเชื้อจากแบคทีเรียที่ดื้อยาหลายขนาน อีกกลุ่มเป็นแบคทีเรียที่ไม่ดื้อยา จากการทดลองพบว่า แบคทีเรียที่ดื้อยาโคลิสตินจะผลิตไบโอติน (biotin) หรือวิตามินบี 7 ออกมา นักวิจัยจึงได้ลองใช้ยาโคลิสตินร่วมกับเค ดิ ต บา คา ร่า ฟรียาที่ขัดขวางการผลิตไบโอตินจากแบคทีเรีย และเทียบประสิทธิผล (efficacy) กับแบคทีเรียทั้ง 2 กลุ่มนี้โดยดูจากค่า FIC (fractional inhibitory concentration) ซึ่งยิ่งมีค่า FIC ที่น้อยเท่าไร ประสิทธิผลก็จะมีมากขึ้นเท่านั้น โดยจะมีช่วงค่าอยู่ที่ 0-1 จากการวัดค่า FIC พบว่ากลุ่มของแบคทีเรียที่ดื้อยาโคลิสตินจะมีค่า FIC อยู่ที่ 0.3 ในขณะที่กลุ่มของแบคทีเรียไม่ดื้อยาจะอยู่ที่ 0.5 จากค่าดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าการลดการผลิตไบโอตินจะทำให้แบคทีเรียอ่อนแอลงต่อยาปฏิชีวนะ แต่จะมีผลแค่กับแบคทีเรียที่ดื้อยาอยู่แล้วเท่านั้น "ไบโอติน มีความจำเป็นในแบคทีเรียด้วยเหตุผลอย่างหนึ่ง นั่นคือการทำหน้าที่เป็นสารอนินทรีย์ที่จำเป็นในการทำงานของเอนไซม์หรือโคแฟกเตอร์ (co-factor) สำหรับผลิตกรดไขมัน" บราวน์กล่าว ทางทีมวิจัยจึงได้ศึกษาต่อด้วยการนำไปทดสอบกับหนูทดลอง 18 ตัว โดยทำให้ติดเชื้อแบคทีเรีย Klebsiella pneumoniae ซึ่งก่อให้เกิดโรคปอดบวม (pneumonia) และมีสถานะดื้อยาโคลิสตินอยู่ จากนั้นก็แบ่งหนูออกเป็นสองกลุ่ม กลุ่มแรกทดลองกับยาโคลิสตินเพียงอย่างเดียว อีกกลุ่มทดลองกับยาโคลิสตินและยาที่ยับยั้งการสร้างกรดไขมัน พบว่าหนูที่ได้รับยาทั้งสองชนิดจะมีจำนวนแบคทีเรียน้อยกว่าถึง 99.9% แสดงให้เห็นว่าการยับยั้งการผลิตกรดไขมันจะสามารถเอาชนะการดื้อยาของเชื้อแบคทีเรียได้ อย่างไรก็ตาม ยาที่ยับยั้งการผลิตกรดไขมันก็ยังไม่สามารถเอามาใช้กับมนุษย์ได้ ซึ่งถือเป็นข้อจำกัดที่สำคัญ แต่ถึงอย่างนั้น การค้นพบในครั้งนี้ทำให้เราเข้าใจกลไกการดื้อยาของเชื้อมากขึ้น นำไปสู่การพัฒนาวิธีรักษาเพื่อต่อสู้กับเชื้อดื้อยาต่อไป ที่มาข้อมูล: New Scientist“รอบรู้ ดูกระแส ก้าวทันโลก” ไปกับ Thai PBS Sci & Tech

แบคทีเรียได้มีการวิวัฒนาการเพื่อให้ดื้อต่อยาปฏิชีวนะตั้งแต่ครั้งที่เริ่มผลิตยาขึ้นมาเป็นเวลานับศตวรร

วันนี้ (24 ส.ค.2567) ร.ต.ท.ยงยุทธ อ่างอินทร์ รอง สว.สอบสวน สน.บุบผาราม รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถเมล์ ทับ

วันนี้ (21 พ.ย.2565) เวลา 10.00 น. ปภ.รายงานยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ อุบลราชธานี อ่า

แบคทีเรียได้มีการวิวัฒนาการเพื่อให้ดื้อต่อยาปฏิชีวนะตั้งแต่ครั้งที่เริ่มผลิตยาขึ้นมาเป็นเวลานับศตวรรษ ทุกวันนี้มีเพียงยาแค่กลุ่มเล็ก ๆ เพียงเท่านั้นที่พอจะรักษาโรคบางชนิดได้ แต่ในขณะเดียวกันประสิทธิภาพของยาเหล่านี้ก็กำลังลดลงอีกด้วย อีรีค บราวน์ (Eric Brown) นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยแมคมาสเตอร์ (Mcmaster University) และคณะจากประเทศแคนาดาได้ศึกษาการแสดงผลร่วมของยาปฏิชีวนะกับแบคทีเรียสองกลุ่ม กลุ่มแรกเป็นแบคทีเรียที่ดื้อยาโคลิสติน (colistin) ซึ่งเป็นยาปฏิชีวนะทางเลือกสุดท้ายที่ถูกใช้ในการรักษาการติดเชื้อจากแบคทีเรียที่ดื้อยาหลายขนาน อีกกลุ่มเป็นแบคทีเรียที่ไม่ดื้อยา จากการทดลองพบว่า แบคทีเรียที่ดื้อยาโคลิสตินจะผลิตไบโอติน (biotin) หรือวิตามินบี 7 ออกมา นักวิจัยจึงได้ลองใช้ยาโคลิสตินร่วมกับเค ดิ ต บา คา ร่า ฟรียาที่ขัดขวางการผลิตไบโอตินจากแบคทีเรีย และเทียบประสิทธิผล (efficacy) กับแบคทีเรียทั้ง 2 กลุ่มนี้โดยดูจากค่า FIC (fractional inhibitory concentration) ซึ่งยิ่งมีค่า FIC ที่น้อยเท่าไร ประสิทธิผลก็จะมีมากขึ้นเท่านั้น โดยจะมีช่วงค่าอยู่ที่ 0-1 จากการวัดค่า FIC พบว่ากลุ่มของแบคทีเรียที่ดื้อยาโคลิสตินจะมีค่า FIC อยู่ที่ 0.3 ในขณะที่กลุ่มของแบคทีเรียไม่ดื้อยาจะอยู่ที่ 0.5 จากค่าดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าการลดการผลิตไบโอตินจะทำให้แบคทีเรียอ่อนแอลงต่อยาปฏิชีวนะ แต่จะมีผลแค่กับแบคทีเรียที่ดื้อยาอยู่แล้วเท่านั้น "ไบโอติน มีความจำเป็นในแบคทีเรียด้วยเหตุผลอย่างหนึ่ง นั่นคือการทำหน้าที่เป็นสารอนินทรีย์ที่จำเป็นในการทำงานของเอนไซม์หรือโคแฟกเตอร์ (co-factor) สำหรับผลิตกรดไขมัน" บราวน์กล่าว ทางทีมวิจัยจึงได้ศึกษาต่อด้วยการนำไปทดสอบกับหนูทดลอง 18 ตัว โดยทำให้ติดเชื้อแบคทีเรีย Klebsiella pneumoniae ซึ่งก่อให้เกิดโรคปอดบวม (pneumonia) และมีสถานะดื้อยาโคลิสตินอยู่ จากนั้นก็แบ่งหนูออกเป็นสองกลุ่ม กลุ่มแรกทดลองกับยาโคลิสตินเพียงอย่างเดียว อีกกลุ่มทดลองกับยาโคลิสตินและยาที่ยับยั้งการสร้างกรดไขมัน พบว่าหนูที่ได้รับยาทั้งสองชนิดจะมีจำนวนแบคทีเรียน้อยกว่าถึง 99.9% แสดงให้เห็นว่าการยับยั้งการผลิตกรดไขมันจะสามารถเอาชนะการดื้อยาของเชื้อแบคทีเรียได้ อย่างไรก็ตาม ยาที่ยับยั้งการผลิตกรดไขมันก็ยังไม่สามารถเอามาใช้กับมนุษย์ได้ ซึ่งถือเป็นข้อจำกัดที่สำคัญ แต่ถึงอย่างนั้น การค้นพบในครั้งนี้ทำให้เราเข้าใจกลไกการดื้อยาของเชื้อมากขึ้น นำไปสู่การพัฒนาวิธีรักษาเพื่อต่อสู้กับเชื้อดื้อยาต่อไป ที่มาข้อมูล: New Scientist“รอบรู้ ดูกระแส ก้าวทันโลก” ไปกับ Thai PBS Sci & Tech

โดยเป้าหมายของกองทัพเมียนมา คือ การรับสมัครทหาร 60,000 นายในหนึ่งปี ให้กับกองทัพที่คาดว่ากำลังรวมในป