วันนี้ (10 ม.ค.2567) กรมควบคุมมลพิษ รายงานคุณภาพอา

วันนี้ (13 พ.ย.2567) กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังอ่อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอุณหภูมิสูงขึ้น กับมีหมอกในตอนเช้า แต่ยังคง
วันนี้ (31 มี.ค.65) ว่าที่ ร.ต. ธนกฤต จิตอารีย์รัตน์ เลขานุการ รมว.ยุติธรรม พร้อม พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ร่วมแถลงแถลงผลผ่าชันสูตรศพรอบ 2 น.ส.นิดา พัชรวีระพงษ์ หรือ แตงโ
เมื่อองค์ประชุมรัฐสภา เมื่อวันที่ 3 ส.ค.ไม่ครบ ไปต่อไม่ได้ ผลพวงปดู บอล กระชับ มิตร วัน นี้ระการหนึ่งที่เป็นห่วงกัน คือหวั่นเกรงว่าจะมีผลต่อการพิจารณากฎหมายลูกที่ยังค้างอยู่ 1 ฉบับ คือร่างแก้ไขกฎหมายเลือกตั้งส.ส. ที่มีกรอบเวลาพิจารณาต้องให้แล้วเสร็จไม่เกิน 15 ส.ค.2565 และยังเป็นการสะท้อนให้เห็นการเล่นเกมการเมืองอย่างเด่นชัดของสมาชิกรัฐสภา คือ 2 สภารวมกัน นายวันชัย สอนศิริ สมาชิกวุฒิสภา ฟันธงคนแรกว่า เป็นผลจากการจับมือร่วมกัน หรือ “ฮั้ว” ของรัฐบาลกับฝ่ายค้าน เล่นเกมเตะถ่วงกฎหมายลูก หวังกลับไปใช้สูตรหาร 100 สำหรับวิธีคิดจำนวน ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ สอดคล้องกับนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ประชาธิปัตย์ ที่ฟันธงเช่นกันว่า เป็นความตั้งใจของฝ่ายการเมืองที่จะให้องค์ประชุมรัฐสภาไม่ครบ เพื่อหวังผลเรื่องการพิจารณากฎหมายลูกว่าด้วยเลือกตั้ง ส.ส. ก่อนหน้านี้ มีปฏิกิริยาเกิดขึ้นทั้งจากคนวงในการเมือง และวงนอกที่สนใจการเมือง เรื่องการเปลี่ยนแปลงไปมาของสูตรคิดหาจำนวน ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ของแต่ละพรรคการเมือง คล้ายเป็นการตอกย้ำว่า ผู้ทรงเกียรติทั้งหลายในสภา มุ่งคำนึงถึงผลประโยชน์ทางการเมืองที่ตนและพวกพ้องจะได้รับเป็นสำคัญ โดยไม่สนใจว่า จะโดนด่าโดนวิจารณ์ว่า โลเลเปลี่ยนใจไปมา ทั้งที่เป็นการกระทำและการตัดสินใจของตนเอง แต่ในการหารือวันที่ 1 ส.ค. ก่อนจะเริ่มประชุมรัฐสภา วันที่ 2-3 ส.ค.2565 ปรากฏว่า วิป 3 ฝ่ายเห็นพ้องไม่ต้องเลื่อนขึ้นมาพิจารณาก่อน ให้เป็นตามคิวเดิม สะท้อนเค้าลางความผิดปกติขึ้นตั้งแต่วันนั้น จากนั้นในการประชุมร่วมวันที่ 2-3 สิงหาคม ได้เกิดปรากฏการณ์อีก เป็นเรือเกลือเกิดขึ้น การประชุมเป็นไปอย่างล่าช้าผิดวิสัย ทั้งในระหว่างการพิจารณากฎหมาย 2 ฉบับที่อยู่ในคิวก่อนหน้ากฎหมายลูกว่าด้วยเลือกตั้ง ส.ส. ก็ต้องคอยตรวจสอบองค์ประชุมอยู่ตลอดเวลาว่าครบหรือไม่ ขณะที่นายชวน พยายามใจเย็นกดออดรออย่างยาวนานหลายครั้ง แต่สุดท้ายก็ยังไม่ครบอยู่ดี ทั้งยังมีข่าววงในว่า มีการส่งสัญญาณให้ ส.ส.และ ส.ว.บางส่วนออกจากห้องประชุม เพื่อหวังให้เกิดปัญหาองค์ประชุมไม่ครบ แต่สุดท้าย ก็ต้องสั่งปิดประชุมรัฐสภาเมื่อ 17.00 น.กว่าๆ ก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์เรื่องเกมการเมือง หวังยื้อให้มีผลต่อการพิจารณากฎหมายลูก แม้แต่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ยังต้องยืดอกยอมรับว่า พรรคเพื่อไทยหวังยื้อเวลาให้การพิจารณากฎหมายลูกฉบับนี้ ออกไปหลัง 15 ส.ค. ซึ่งจะมีผลคือต้องนำร่างกฎหมาย ที่เป็นต้นร่างที่ผ่านวาระรับหลักการของรัฐสภา ที่หารด้วย 100 กลับมาใช้แทน กฎหมายลูกว่าด้วยเลือกตั้ง ส.ส. ถึงขณะนี้ มีอยู่เพียง 3 แนวทางเลือก ขึ้นอยู่กับว่า แต่ละสภาผู้ทรงเกียรติจะเลือกแบบไหน 1.ตีตก คว่ำร่างกฎหมายฉบับนี้ ในวาระที่ 3 เท่ากับต้องเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ และไม่รู้ว่าจะทำทันเลือกตั้งหรือไม่ หรืออาจมีปัจจัยอื่นแทรกแซงสกัดกั้นจนทำอะไรไม่ได้อีก รวมถึงสุดท้ายอาจจะออกเป็นพระราชกำหนดโดยฝ่ายบริหารก็ได้ ซึ่งอาจก่อให้เกิด “ทัวร์ลง” เพราะจะถูกมองว่าเอื้อประโยชน์ให้กับฝ่ายรัฐบาล 2.โหวตผ่านในวาระ 3 แล้วไปลุ้นต่อว่า ศาลฎีกา ศาลรัฐธรรมนูญ และกกต.จะทำเรื่องย้อนแย้งกลับมาเพื่อให้รัฐสภาแก้ไขหรือไม่ และ 3.หนทางสุดท้าย เพื่อความชัวร์ คือยื้อเวลาให้เกิน 180 วัน เพื่อนำร่างเดิมที่ผ่านรัฐสภามาบังคับใช้ ซึ่งวิธีนี้ อาจต้องเจอกับเสียงวิจารณ์ของประชาชนในเชิงลบไม่น้อย เพราะเท่ากับเสียทั้งเวลาในการพิจารณา และเสียค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ของรัฐสภาตลอด 6-7 เดือนที่ผ่านมาแบบเปล่าประโยชน์ จะออกทางไหน 10 ส.ค.ได้รู้กัน
วันนี้ (29 พ.ย.2564) พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในฐานะประธานที่ประชุมคณะกรรมก
วันนี้ (1 พ.ค.2568) กลุ่มพยาบาลห้องฟอกไตประมาณ 30 คน ซึ่งมีประสบการณ์ทำงานมานานกว่า 10-30 ปี ยื่นฟ้อ
เมื่อองค์ประชุมรัฐสภา เมื่อวันที่ 3 ส.ค.ไม่ครบ ไปต่อไม่ได้ ผลพวงปดู บอล กระชับ มิตร วัน นี้ระการหนึ่งที่เป็นห่วงกัน
เมื่อองค์ประชุมรัฐสภา เมื่อวันที่ 3 ส.ค.ไม่ครบ ไปต่อไม่ได้ ผลพวงปดู บอล กระชับ มิตร วัน นี้ระการหนึ่งที่เป็นห่วงกัน คือหวั่นเกรงว่าจะมีผลต่อการพิจารณากฎหมายลูกที่ยังค้างอยู่ 1 ฉบับ คือร่างแก้ไขกฎหมายเลือกตั้งส.ส. ที่มีกรอบเวลาพิจารณาต้องให้แล้วเสร็จไม่เกิน 15 ส.ค.2565 และยังเป็นการสะท้อนให้เห็นการเล่นเกมการเมืองอย่างเด่นชัดของสมาชิกรัฐสภา คือ 2 สภารวมกัน นายวันชัย สอนศิริ สมาชิกวุฒิสภา ฟันธงคนแรกว่า เป็นผลจากการจับมือร่วมกัน หรือ “ฮั้ว” ของรัฐบาลกับฝ่ายค้าน เล่นเกมเตะถ่วงกฎหมายลูก หวังกลับไปใช้สูตรหาร 100 สำหรับวิธีคิดจำนวน ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ สอดคล้องกับนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ประชาธิปัตย์ ที่ฟันธงเช่นกันว่า เป็นความตั้งใจของฝ่ายการเมืองที่จะให้องค์ประชุมรัฐสภาไม่ครบ เพื่อหวังผลเรื่องการพิจารณากฎหมายลูกว่าด้วยเลือกตั้ง ส.ส. ก่อนหน้านี้ มีปฏิกิริยาเกิดขึ้นทั้งจากคนวงในการเมือง และวงนอกที่สนใจการเมือง เรื่องการเปลี่ยนแปลงไปมาของสูตรคิดหาจำนวน ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ของแต่ละพรรคการเมือง คล้ายเป็นการตอกย้ำว่า ผู้ทรงเกียรติทั้งหลายในสภา มุ่งคำนึงถึงผลประโยชน์ทางการเมืองที่ตนและพวกพ้องจะได้รับเป็นสำคัญ โดยไม่สนใจว่า จะโดนด่าโดนวิจารณ์ว่า โลเลเปลี่ยนใจไปมา ทั้งที่เป็นการกระทำและการตัดสินใจของตนเอง แต่ในการหารือวันที่ 1 ส.ค. ก่อนจะเริ่มประชุมรัฐสภา วันที่ 2-3 ส.ค.2565 ปรากฏว่า วิป 3 ฝ่ายเห็นพ้องไม่ต้องเลื่อนขึ้นมาพิจารณาก่อน ให้เป็นตามคิวเดิม สะท้อนเค้าลางความผิดปกติขึ้นตั้งแต่วันนั้น จากนั้นในการประชุมร่วมวันที่ 2-3 สิงหาคม ได้เกิดปรากฏการณ์อีก เป็นเรือเกลือเกิดขึ้น การประชุมเป็นไปอย่างล่าช้าผิดวิสัย ทั้งในระหว่างการพิจารณากฎหมาย 2 ฉบับที่อยู่ในคิวก่อนหน้ากฎหมายลูกว่าด้วยเลือกตั้ง ส.ส. ก็ต้องคอยตรวจสอบองค์ประชุมอยู่ตลอดเวลาว่าครบหรือไม่ ขณะที่นายชวน พยายามใจเย็นกดออดรออย่างยาวนานหลายครั้ง แต่สุดท้ายก็ยังไม่ครบอยู่ดี ทั้งยังมีข่าววงในว่า มีการส่งสัญญาณให้ ส.ส.และ ส.ว.บางส่วนออกจากห้องประชุม เพื่อหวังให้เกิดปัญหาองค์ประชุมไม่ครบ แต่สุดท้าย ก็ต้องสั่งปิดประชุมรัฐสภาเมื่อ 17.00 น.กว่าๆ ก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์เรื่องเกมการเมือง หวังยื้อให้มีผลต่อการพิจารณากฎหมายลูก แม้แต่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ยังต้องยืดอกยอมรับว่า พรรคเพื่อไทยหวังยื้อเวลาให้การพิจารณากฎหมายลูกฉบับนี้ ออกไปหลัง 15 ส.ค. ซึ่งจะมีผลคือต้องนำร่างกฎหมาย ที่เป็นต้นร่างที่ผ่านวาระรับหลักการของรัฐสภา ที่หารด้วย 100 กลับมาใช้แทน กฎหมายลูกว่าด้วยเลือกตั้ง ส.ส. ถึงขณะนี้ มีอยู่เพียง 3 แนวทางเลือก ขึ้นอยู่กับว่า แต่ละสภาผู้ทรงเกียรติจะเลือกแบบไหน 1.ตีตก คว่ำร่างกฎหมายฉบับนี้ ในวาระที่ 3 เท่ากับต้องเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ และไม่รู้ว่าจะทำทันเลือกตั้งหรือไม่ หรืออาจมีปัจจัยอื่นแทรกแซงสกัดกั้นจนทำอะไรไม่ได้อีก รวมถึงสุดท้ายอาจจะออกเป็นพระราชกำหนดโดยฝ่ายบริหารก็ได้ ซึ่งอาจก่อให้เกิด “ทัวร์ลง” เพราะจะถูกมองว่าเอื้อประโยชน์ให้กับฝ่ายรัฐบาล 2.โหวตผ่านในวาระ 3 แล้วไปลุ้นต่อว่า ศาลฎีกา ศาลรัฐธรรมนูญ และกกต.จะทำเรื่องย้อนแย้งกลับมาเพื่อให้รัฐสภาแก้ไขหรือไม่ และ 3.หนทางสุดท้าย เพื่อความชัวร์ คือยื้อเวลาให้เกิน 180 วัน เพื่อนำร่างเดิมที่ผ่านรัฐสภามาบังคับใช้ ซึ่งวิธีนี้ อาจต้องเจอกับเสียงวิจารณ์ของประชาชนในเชิงลบไม่น้อย เพราะเท่ากับเสียทั้งเวลาในการพิจารณา และเสียค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ของรัฐสภาตลอด 6-7 เดือนที่ผ่านมาแบบเปล่าประโยชน์ จะออกทางไหน 10 ส.ค.ได้รู้กัน
วันนี้ (16 มี.ค.2565) พ.ต.อ.ธรากร เลิศพรเจริญ รองผู้บังคับการกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่