วันนี้ (29 เม.ย.2564) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แม้เจ้า

วันนี้ (9 ธ.ค.2564) น.ส.สิริธิดา พนมวัน ณ อยุธยา ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายระบบการชำระเงินและเทคโนโลยีทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยถึงปัญหาผู้ประกอบการเอสเอ็มอี เข้าไม่ถึงแหล่งเงินทุน
หลังจากเกิดเหตุการณ์สลด เด็กอายุ14 ปี กราดยิงในห้างสรรพสินค้าชื่อดังเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 3 ต.ค.2566 ที่ผ่านมา เพจเข็นเด็กขึ้นภูเขา ได้แชร์ 10 ข้อที่พ่อแม่ควรทำเพื่อให้ลูกเติบโตอย่างมีความสุขและมีสุขภ
กรณีราชกิจจานุเบกษา เมื่อ 11 ส.ค.ที่ผ่านมา ปรับเกณฑ์การจ่ายเงิน เบี้ยยัง ชีพผู้สูงอายุ ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2566 ให้คุณสมบัติของผู้มีสิทธิได้รับเงินเบี้ยยังชีพว่า " เป็นผู้ไม่มีรายได้หรือรายได้ไม่เพียงพอแก่การยังชีพตามที่คณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติตามที่กฎหมายว่าด้วยผู้สูงอายุกำหนด" เมื่อวันที่ 18 ส.ค.2566 สภาองค์กรของผู้บริโภค จัดเวทีรับฟังความเห็นสมาชิกต่อกรณีดังกล่าว นายนิมิตร์ เทียนอุดม รองประธานสภาองค์กรของผู้บริโภค กล่าวว่า ขอคัดค้านการเปลี่ยนแปลงผู้มีสิทธิได้รับเงินเบี้ยยังชดาวน์โหลด mega888 เวอร์ชั่น ล่าสุดีพของผู้สูงอายุดังกล่าว ถือว่าเป็นการถอยหลังเข้าคลอง หลังจากที่พัฒนาการของเบี้ยยังชีพของผู้สูงอายุ ถือเป็นสิทธิที่ได้รับกันถ้วนหน้าตั้งแต่สมัยรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เมื่อปี 2552 โดยไม่มีเงื่อนไขหรือคุณสมบัติด้านรายได้ นอกจากนี้ยังเห็นว่า ควรจะต้องมีการผลักดันเรื่องนี้ให้เป็นกฎหมายบำนาญถ้วนหน้าเพื่อเป็นสวัสดิการของประชาชน และควรจะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ชัดเจน เพื่อให้รองรับสิทธิพื้นฐานประชาชนอย่างถ้วนหน้า อ่านข่าว ห่วงสวัสดิการไม่ตอบโจทย์ ผลักผู้สูงอายุใช้ชีวิตในพื้นที่สาธารณะเพิ่ม ด้านผศ.วีระศักดิ์ พุทธาศรี รองเลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ กล่าวว่า หลักประกันรายได้ของประชาชนที่เป็นผู้สูงอายุที่สมัชชาสุขภาพแห่งชาติเห็นว่ามีความสำคัญคือ เรื่องของการมีงานทำ เพราะคนอายุ 60 ปี สามารถทำงานได้ รวมไปถึงเงินอุดหนุนที่เพียงพอในการดำรงชีพของผู้สูงอายุ และการเข้าถึงบริการสังคมที่จำเป็นจากรัฐสำหรับทุกคน ทั้งนี้การสนับสนุนรายได้ของผู้สูงอายุ ควรจะเป็นสิทธิถ้วนหน้า ไม่มีเกณฑ์เรื่องรายได้ และต้องผลักดัน คือการทำให้การจ่ายเบี้ยยังชีพถ้วนหน้า เป็นกฎหมายบำนาญพื้นฐาน เพื่อสร้างหลักประกันสวัสดิการให้กับผู้สูงอายุ อ่านข่าว"เบี้ยผู้สูงอายุ 2566" เช็กคุณสมบัติ - วิธีลงทะเบียน - ปฏิทินการจ่ายเงิน ดร.กติกา ทิพยาลัย นักวิชาการ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ประเทศไทยมีความเหลื่อมล้ำเพิ่มขึ้นมากเกือบ 10% การจัดสวัสดิการในรูปแบบบำนาญประชาชนถ้วนจะสามารถลดความเหลื่อมล้ำได้ เพราะคนไทยส่วนใหญ่ไม่มีเงินออม และผู้สูงอายุจำนวนไม่มากนักที่มีเงินออมที่ใช้ได้เพียง 1 ปี ดังนั้นการจ่ายสวัสดิการผู้สูงอายุควรจะเป็นการจ่ายถ้วนหน้า หรือการตั้งกองทุนบำนาญประชาชนในอนาคตจะช่วยสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีได้ ดร.กติกา กล่าวอีกว่า รูปแบบ การจัดสวัสดิการบำนาญควรจะเป็นแบบถ้วนหน้า เพราะเห็นว่าระบบบำนาญช่วยสร้างหลักประกันรายได้ แก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำ และมีผลกระทบเชิงบวกในมุมมองเศรษฐกิจ เพราะเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ส่วนใหญ่นำไปใช้ในการบริโภค จึงถือว่ากระตุ้นการผลิตทางอ้อม และผู้สูงอายุพึ่งพิงตัวเองได้ไม่ต้องพึ่งพิงลูกหลาน ส่งผลดีต่อประชากรวัยแรงงาน ส่วนการจ่ายบำนาญประชาชนจะกระทบภารการคลัง หรือไม่ ดร.กติกา กล่าวว่า ขณะนี้เบี้ยบังชีพผู้สูงอายุ 11 ล้านคน รัฐจ่ายงบ 80,000 ล้านบาท ขณะที่บำนาญราชการ 800,000 คน รัฐต้องจ่าย 300,000 ล้านบาท แต่หากมีกองทุนบำนาญประชาชน 3,000 บาท รัฐต้องใช้งบ 400,000 ล้านบาท ถือว่าไม่มากเกินไปในการสร้างหลักประกันให้กับผู้สูงอายุ ไม่เป็นภาระทางการคลัง ดร.กติกา เห็นว่า รายได้ที่จะเข้ามาที่กองทุนบำนาญ เพื่อจ่ายสวัสดิการให้กับผู้สูงอายุมาจากหลายรูปแบบ ตัวอย่างในประเทศญี่ปุ่นเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม กับสินค้าที่ฟุ่มเฟือยไม่ใช่สินค้าจำเป็น หากรัฐเก็บภาษีเพิ่ม 1% จะมีรายได้เพิ่ม 70,000-100,000 ล้านบาท ขณะที่กรมสรรพามิตร สามารถนำเงินสมทบเข้ากองทุนฯได้เช่นกัน โดยสามารถขยายฐานภาษีในรูปแบบอื่นๆ เช่น ความหวาน ความเค็ม ภาษีสุขภาพ เราขยายฐานภาษีสมทบเข้ากองทุนบำนาญ นอกจากนี้มีตัวอย่างในประเทศชิลี ที่เก็บภาษีจากผู้มีรายได้สูง ตามหลักการเฉลี่ยทุกข์ เฉลี่ยสุข มาสมทบกองทุนบำนาญเพื่อลดความเหลื่อมล้ำลงไปได้ ดังนั้นจึงเห็นว่า การตั้งกองทุนบำนาญประชาชนจะไม่กระทบภาระการคลังหากมีการจัดระบบภาษีและการจัดเก็บรายได้ใหม่ อ่านข่าว มท. ชี้แจง 3 ประเด็น คลายข้อสงสัย "เบี้ยผู้สูงอายุ" น.ส.สารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการสำนักงานสภาผู้บริโภค กล่าวว่า สมาชิกสภาองค์กรของผู้โภคส่วนใหญ่ เห็นว่าควรจะมีการจัดทำนโยบายสวัสดิการบำนาญประชาชนแบบถ้วนหน้า 3,000 บาท เพื่อคุณภาพชีวิตของผุ้สูงอายุ นอกจากนี้ยังเห็นว่า กระทรวงมหาดไทยควรจะยกเลิกเกณฑ์การจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุที่ใช้รายได้เป็นเกณฑ์พิจารณา แต่ควรจ่ายผู้สูงอายุทุกคนแบบถ้วนหน้า หลังจากรับฟังความคิดขอสมาชิกสภาองค์กรของผู้บริโภคจะนำเรื่องเสนอคณะกรรมการนโยบายของสภาองค์กรของผู้บริโภค เพื่อ จัดทำข้อเสนอทางนโยบายเสนอไปยังคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป อ่านข่าว ตัดสิทธิ “เบี้ยคนชรา” ตัดท่อน้ำเลี้ยง ใจคน(อ)ยากจน
กรณีราชกิจจานุเบกษา เมื่อ 11 ส.ค.ที่ผ่านมา ปรับเกณฑ์การจ่ายเงิน เบี้ยยัง ชีพผู้สูงอายุ ขององค์กรปกคร
วันนี้ (2 ก.ค.2565) นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า เมื่อเวลาประมาณ 18.00 น.ขอ
วันนี้ (4 ส.ค.2564) ศูนย์ข้อมูล COVID-19 รายงานสถานการณ์ COVID-19 ในประเทศไทย พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 20,
กรณีราชกิจจานุเบกษา เมื่อ 11 ส.ค.ที่ผ่านมา ปรับเกณฑ์การจ่ายเงิน เบี้ยยัง ชีพผู้สูงอายุ ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2566 ให้คุณสมบัติของผู้มีสิทธิได้รับเงินเบี้ยยังชีพว่า " เป็นผู้ไม่มีรายได้หรือรายได้ไม่เพียงพอแก่การยังชีพตามที่คณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติตามที่กฎหมายว่าด้วยผู้สูงอายุกำหนด" เมื่อวันที่ 18 ส.ค.2566 สภาองค์กรของผู้บริโภค จัดเวทีรับฟังความเห็นสมาชิกต่อกรณีดังกล่าว นายนิมิตร์ เทียนอุดม รองประธานสภาองค์กรของผู้บริโภค กล่าวว่า ขอคัดค้านการเปลี่ยนแปลงผู้มีสิทธิได้รับเงินเบี้ยยังชดาวน์โหลด mega888 เวอร์ชั่น ล่าสุดีพของผู้สูงอายุดังกล่าว ถือว่าเป็นการถอยหลังเข้าคลอง หลังจากที่พัฒนาการของเบี้ยยังชีพของผู้สูงอายุ ถือเป็นสิทธิที่ได้รับกันถ้วนหน้าตั้งแต่สมัยรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เมื่อปี 2552 โดยไม่มีเงื่อนไขหรือคุณสมบัติด้านรายได้ นอกจากนี้ยังเห็นว่า ควรจะต้องมีการผลักดันเรื่องนี้ให้เป็นกฎหมายบำนาญถ้วนหน้าเพื่อเป็นสวัสดิการของประชาชน และควรจะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ชัดเจน เพื่อให้รองรับสิทธิพื้นฐานประชาชนอย่างถ้วนหน้า อ่านข่าว ห่วงสวัสดิการไม่ตอบโจทย์ ผลักผู้สูงอายุใช้ชีวิตในพื้นที่สาธารณะเพิ่ม ด้านผศ.วีระศักดิ์ พุทธาศรี รองเลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ กล่าวว่า หลักประกันรายได้ของประชาชนที่เป็นผู้สูงอายุที่สมัชชาสุขภาพแห่งชาติเห็นว่ามีความสำคัญคือ เรื่องของการมีงานทำ เพราะคนอายุ 60 ปี สามารถทำงานได้ รวมไปถึงเงินอุดหนุนที่เพียงพอในการดำรงชีพของผู้สูงอายุ และการเข้าถึงบริการสังคมที่จำเป็นจากรัฐสำหรับทุกคน ทั้งนี้การสนับสนุนรายได้ของผู้สูงอายุ ควรจะเป็นสิทธิถ้วนหน้า ไม่มีเกณฑ์เรื่องรายได้ และต้องผลักดัน คือการทำให้การจ่ายเบี้ยยังชีพถ้วนหน้า เป็นกฎหมายบำนาญพื้นฐาน เพื่อสร้างหลักประกันสวัสดิการให้กับผู้สูงอายุ อ่านข่าว"เบี้ยผู้สูงอายุ 2566" เช็กคุณสมบัติ - วิธีลงทะเบียน - ปฏิทินการจ่ายเงิน ดร.กติกา ทิพยาลัย นักวิชาการ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ประเทศไทยมีความเหลื่อมล้ำเพิ่มขึ้นมากเกือบ 10% การจัดสวัสดิการในรูปแบบบำนาญประชาชนถ้วนจะสามารถลดความเหลื่อมล้ำได้ เพราะคนไทยส่วนใหญ่ไม่มีเงินออม และผู้สูงอายุจำนวนไม่มากนักที่มีเงินออมที่ใช้ได้เพียง 1 ปี ดังนั้นการจ่ายสวัสดิการผู้สูงอายุควรจะเป็นการจ่ายถ้วนหน้า หรือการตั้งกองทุนบำนาญประชาชนในอนาคตจะช่วยสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีได้ ดร.กติกา กล่าวอีกว่า รูปแบบ การจัดสวัสดิการบำนาญควรจะเป็นแบบถ้วนหน้า เพราะเห็นว่าระบบบำนาญช่วยสร้างหลักประกันรายได้ แก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำ และมีผลกระทบเชิงบวกในมุมมองเศรษฐกิจ เพราะเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ส่วนใหญ่นำไปใช้ในการบริโภค จึงถือว่ากระตุ้นการผลิตทางอ้อม และผู้สูงอายุพึ่งพิงตัวเองได้ไม่ต้องพึ่งพิงลูกหลาน ส่งผลดีต่อประชากรวัยแรงงาน ส่วนการจ่ายบำนาญประชาชนจะกระทบภารการคลัง หรือไม่ ดร.กติกา กล่าวว่า ขณะนี้เบี้ยบังชีพผู้สูงอายุ 11 ล้านคน รัฐจ่ายงบ 80,000 ล้านบาท ขณะที่บำนาญราชการ 800,000 คน รัฐต้องจ่าย 300,000 ล้านบาท แต่หากมีกองทุนบำนาญประชาชน 3,000 บาท รัฐต้องใช้งบ 400,000 ล้านบาท ถือว่าไม่มากเกินไปในการสร้างหลักประกันให้กับผู้สูงอายุ ไม่เป็นภาระทางการคลัง ดร.กติกา เห็นว่า รายได้ที่จะเข้ามาที่กองทุนบำนาญ เพื่อจ่ายสวัสดิการให้กับผู้สูงอายุมาจากหลายรูปแบบ ตัวอย่างในประเทศญี่ปุ่นเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม กับสินค้าที่ฟุ่มเฟือยไม่ใช่สินค้าจำเป็น หากรัฐเก็บภาษีเพิ่ม 1% จะมีรายได้เพิ่ม 70,000-100,000 ล้านบาท ขณะที่กรมสรรพามิตร สามารถนำเงินสมทบเข้ากองทุนฯได้เช่นกัน โดยสามารถขยายฐานภาษีในรูปแบบอื่นๆ เช่น ความหวาน ความเค็ม ภาษีสุขภาพ เราขยายฐานภาษีสมทบเข้ากองทุนบำนาญ นอกจากนี้มีตัวอย่างในประเทศชิลี ที่เก็บภาษีจากผู้มีรายได้สูง ตามหลักการเฉลี่ยทุกข์ เฉลี่ยสุข มาสมทบกองทุนบำนาญเพื่อลดความเหลื่อมล้ำลงไปได้ ดังนั้นจึงเห็นว่า การตั้งกองทุนบำนาญประชาชนจะไม่กระทบภาระการคลังหากมีการจัดระบบภาษีและการจัดเก็บรายได้ใหม่ อ่านข่าว มท. ชี้แจง 3 ประเด็น คลายข้อสงสัย "เบี้ยผู้สูงอายุ" น.ส.สารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการสำนักงานสภาผู้บริโภค กล่าวว่า สมาชิกสภาองค์กรของผู้โภคส่วนใหญ่ เห็นว่าควรจะมีการจัดทำนโยบายสวัสดิการบำนาญประชาชนแบบถ้วนหน้า 3,000 บาท เพื่อคุณภาพชีวิตของผุ้สูงอายุ นอกจากนี้ยังเห็นว่า กระทรวงมหาดไทยควรจะยกเลิกเกณฑ์การจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุที่ใช้รายได้เป็นเกณฑ์พิจารณา แต่ควรจ่ายผู้สูงอายุทุกคนแบบถ้วนหน้า หลังจากรับฟังความคิดขอสมาชิกสภาองค์กรของผู้บริโภคจะนำเรื่องเสนอคณะกรรมการนโยบายของสภาองค์กรของผู้บริโภค เพื่อ จัดทำข้อเสนอทางนโยบายเสนอไปยังคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป อ่านข่าว ตัดสิทธิ “เบี้ยคนชรา” ตัดท่อน้ำเลี้ยง ใจคน(อ)ยากจน
วันนี้ (26 มี.ค.2567) นายกรินทร์ ปิยพรไพบูลย์ หรือ มิกซ์ บุตรชายบุญธรรม ของนายหลี่ เซิ่งเจียว หรือ เ