วันนี้ (13 พ.ค.2566) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซ บุ๊ก Yingluck Shinawatra ระบุว
วันนี้ (3 มิ.ย.2566) นายไพฑูรย์ งามมุข ผอ.เขตห้วยขวาง พร้อมตำรวจจาก สน.มักกะสัน นำคำสั่งสำนักงานเขตห้วยขวาง เข้าติดประกาศที่หน้าอาคารสถานบันเทิงไดมอนด์ เคทีวี เรื่องคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตและห้ามมิให้มี
วันนี้ (12 พ.ค.2566) สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน สัปดาห์ที่ผ่านมา มีภาพของผู้อพยพจำนวนมากที่พยายามข้ามแดนเข้าสหรัฐฯ ทั้งที่รออยู่บริเวณชายแดนหรือลักลอบข้ามเข้าไป เพื่อต้องการได้รับอนุญาตให้อยู่ในสหรัฐฯ ชั่วคราว ก่อนที่การบังคับใช้ Title 42 กำลังจะสิ้นสุดลงในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้านี้ กลุ่มผู้อพยพที่มีเด็กเล็กๆ อยู่ด้วยเป็นจำนวนมาก รวมตัวกันอยู่ที่ซานดิเอโก รัฐแคลิฟอร์เนีย ใกล้กับจุดผ่านแดนจากเม็กซิโก ท่ามกลางการดูแลของเจ้าหน้าที่ ขณะที่มีผู้อพยพอยู่ทั้ง 2 ฝั่งของพรมแดนสหรัฐฯ และเม็กซิโกเป็นจำนวนมาก จุดผ่านแดน San Ysidro เป็นด่านตรวจคนเข้าเมืองที่พลุกพล่านที่สุดแห่งหนึ่งของสหรัฐฯ โดยช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ระบุว่า ควบคุมตัวผู้อพยพที่ผ่านเข้าสหรัฐฯ ได้วันนับหมื่นคน ขณะที่ภาพมุมสูงเผยให้เห็นผู้อพยพจำนวนมากเข้าแถวรออยู่บริเวณจุดผ่านแดนที่ติดกับ เอล ปาโซ รัฐเท็กซัส เพื่อรอข้ามเข้าสหรัฐฯ ทันทีที่ข้อบังคับ Title 42 หมดอายุลง โดยคนจำนวนนับหมื่นที่ลักลอบข้ามแดนเข้าสหรัฐฯ ในแต่ละวัน ต่างตั้งความหวังว่าจะได้รับอนุญาตให้พำนักในสหรัฐฯ เพื่อแสวงหาชีวิตที่ดีกว่า ผู้อพยพจำนวนมากเดินทางและเดินเท้าจากหลายประเทศในละตินอเมริกาผ่านเม็กซิโก เพื่อผ่านเข้าสหรัฐฯ โดยหลายคนหนีความรุนแรง การประหัดประหาร ขณะที่บางส่วนแสวงหาโอกาสทางเศรษฐกิจ เพื่อชีวิตที่ดีกว่าหรือเดินทางมาสหรัฐฯเพื่อมาหาสมาชิกในครอบครัวและญาติมิตรที่ได้อพยพมาก่อนแล้ว ชาวต่างชาติต่อแถวข้ามแดน ชาวต่างชาติต่อแถวข้ามแดน Title 42 จะสิ้นสุดการบังคับใช้ เวลา 23.59 น. ตามเขตเวลาตะวันออก (Eastern Time) ซึ่งขณะช้ากว่าเวลาไทย 11 ชั่วโมง หรือตรงกับ 10.59 น. วันนี้ (12 พ.ค.) ตามเวลาประเทศไทย หลังจาก เดือนมี.ค. 2563 ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ (CDC) ประกาศใช้มาตรการนี้ โดยระบุเหตุผลว่าเพื่อยับยั้งการระบาดของโควิด-19 ซึ่งในเวลานั้นก็พอดีกันกับแนวทางการบริหารประเทศของ โดนัลด์ ทรัมป์ อดีต ปธน.สหรัฐฯ ที่ต้องการกีดกันผู้อพยพอยู่แล้วทำให้ตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในหมู่นักสิทธิมนุษยชน ส่วนหนึ่งของมาตรการนี้ ใช้เหตุผลว่าสถานที่ซึ่งจัดไว้รองรับผู้อพยพเหล่านี้ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อการกักกันโรคและไม่ได้มีการเว้นระยะห่างทางสังคมที่จะทำให้ปลอดภัยจากการระบาดของโควิด-19ได้ แต่มาตรการนี้ยกเว้นการบังคับใช้กับเด็กที่เดินทางมาเพียงลำพัง ข้อบังคับ "หัวข้อ 42 (Title 42)" เป็นส่วนหนึ่งของกฎหมายสาธารณสุขปี ค.ศ. 1944 หรือ พ.ศ.2487 ที่เปิดทางให้จำกัดการอพยพหรือนำเข้าสิ่งของต่างๆ ได้เพื่อความปลอดภัยด้านสาธารณสุข กฎนี้ทำให้เจ้าหน้าที่ชายแดน สามารถปฏิเสธการเข้าประเทศของผู้อพยพได้ทันที ภายใน 10 นาที ลัดขั้นตอนจากปกติที่จะต้องมีการขึ้นทะเบียนผู้อพยพ เพื่อพิจารณาว่าเข้าข่ายขอลี้ภัยได้หรือไม่ ที่อาจต้องใช้เวลาเป็นชั่วโมงหรือมากกว่านั้น ช่วงกว่า 3 ปีที่สหรัฐฯ นำ Title 42 มาบังคับใช้ มีสถิติการส่งตัวผู้อพยพกลับออกไปนอกสหรัฐฯ มากกว่า 2,800,000 ครั้ง แต่เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ระบุว่าตัวเลขนี้รลอตเตอรี่ ตรวจ ลอตเตอรี่วมถึงผู้อพยพบางคนที่พยายามเข้าสหรัฐฯ ซ้ำๆ หลายครั้ง เนื่องจาก Title 42 ไม่ได้มีการคาดโทษหรือผลระยะยาวใดๆ มีเพียงค่าปรับที่เพิ่มขึ้นตามจำนวนครั้งเท่านั้น ผู้ประท้วงให้สหรัฐฯ ยกเลิก Title 42 ผู้ประท้วงให้สหรัฐฯ ยกเลิก Title 42 ทำให้หลายคนพร้อมที่จะลองเสี่ยงลักลอบเข้าสหรัฐฯ หลายต่อหลายครั้งเพื่อแสวงหาชีวิตที่ดีกว่า แต่ในทางปฏิบัติแล้ว ปรากฏว่ามีการบังคับใช้อย่างไม่เท่าเทียมกันในบรรดาผู้อพยพทั้งหมดโดยจะมีผู้อพยพบางสัญชาติที่ส่งกลับประเทศได้ยากกว่า เช่น เวเนซุเอลา คิวบา สถิติระบุว่า จริงๆ แล้วมีการบังคับใช้ Title 42 กับประมาณ 1 ใน 3 ของจำนวนผู้อพยพทั้งหมด คนส่วนมากที่ถูกปฏิเสธการเข้าสหรัฐฯ ทันทีมักมาจากเม็กซิโก และ อเมริกากลาง โดยมีคนที่ได้รับอนุญาตให้อยู่ในสหรัฐฯ ชั่วคราว กว่า 1,800,000 คน ก่อนจะถูกดำเนินการตามขั้นตอนของศาลหรือการลี้ภัยต่อไป ในช่วงที่มีการบังคับใช้ Title 42 กลายเป็นมาตรการที่มีประสิทธิภาพสูงสุด ในการจัดการกับการเข้าประเทศของผู้อพยพ โดยไม่ก่อให้เกิดการแออัดที่ตามจุดผ่านแดนหรือชุมชนต่างๆ ที่ตั้งอยู่ริมชายแดนติดกับเม็กซิโก เมื่อ Title 42 จะหมดอายุลง ต่อไปเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองสหรัฐฯ จะต้องทำตามขั้นตอนปกติ ที่เปิดให้ผู้อพยพยื่นเรื่องขอลี้ภัยได้ โดยจะต้องสัมภาษณ์ผู้ลี้ภัย เพื่อตรวจสอบว่าพวกเขาจะเผชิญอันตรายจริงหรือไม่ หากเดินทางหรือถูกส่งตัวกลับประเทศบ้านเกิด ถ้าใครที่กำลังเผชิญสถานการณ์เสี่ยง สามารถอยู่ในสหรัฐฯ ไปก่อนได้ชั่วคราว จนกว่าจะมีการพิจารณาเป็นลำดับถัดไป ขั้นตอนเหล่านี้เองที่น่ากังวล เพราะต้องใช้เวลานาน และจะทำให้ศูนย์ต่างๆ ที่ต้องรองรับผู้อพยพ แออัดหรืออาจล้นไปจนถึงพื้นที่ภายนอก รวมถึงสะพานและด่านพรมแดนต่างๆ จนทำให้ผู้อพยพต้องเผชิญสภาพอันย่ำแย่ ช่วงหลายปีที่ผ่านมา สถิติการข้ามแดนเข้าสหรัฐฯ เพิ่มสูงเป็นประวัติการณ์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของปรากฏการณ์ที่ทางองค์การสหประชาชาติ เรียกขานว่าเป็น "คลื่นการอพยพ" ที่เกิดขึ้นในระดับโลก รัฐบาลไบเดน พยายามยุติข้อบังคับนี้มาแล้ว 2 ครั้ง แต่ถูกขัดขวางโดยคำสั่งศาล หลังหลายรัฐรวมตัวยื่นฟ้องคัดค้าน อ่านข่าวอื่นๆ : สภาพอากาศวันนี้ "โมคา" เตรียมขึ้นฝั่ง ไทยกระทบฝนตกหนักต่อเนื่อง เปิดคลิป! หนุ่มบุกเดี่ยวค้อนทุบกระจกร้านปืนฉก 9 มม.
วันนี้ (12 พ.ค.2566) สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน สัปดาห์ที่ผ่านมา มีภาพของผู้อพยพจำนวนมากที่พยายามข้ามแดนเข้าสหรัฐฯ ทั้งที่รออยู่บริเวณชายแดนหรือลักลอบข้ามเข้าไป เพื่อต้องการได้รับอนุญาตให้อยู่ในสหรัฐฯ