“ออมสิน” ลดดอกเบี้ยเงินกู้ 0.25% ช่วยภาคธุรกิจ มีผล 5 มี.ค.-31 ส.ค.

วันนี้ (11 เม.ย.2567) หน่วยเฉพาะกิจราชมนู กองกำลังนเรศวร ตรึงกำลังบริเวณริมสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 อ.แม่สอด จ.ตาก หลังกองกำลังกะเหรี่ยง KNLA สหภาพกะเหรี่ยง KNU และกองกำลัง PDF ยึดค่ายผาซอง ก

เมื่วันที่ 13 ธ.ค.2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 23.30 น. เกิดเหตุขว้างระเบิดกลางงานกาชาด อะเมซ

วันที่ 2-4 มี.ค.2568 ที่ผ่านมา มีการจัดงาน KICK OFF เปิดตัวภาคีอาสา (Area Strengthening Alliance - ASA) หรือ “ภาคีสานพลังพื้นที่เข้มแข็ง” ขึ้นเพื่อสานพลังพื้นที่เข้มแข็ง สร้างความเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน

วันที่ 2-4 มี.ค.2568 ที่ผ่านมา มีการจัดงาน KICK OFF เปิดตัวภาคีอาสา (Area Strengthening Alliance - ASA) หรือ “ภาคีสานพลังพื้นที่เข้มแข็ง” ขึ้นเพื่อสานพลังพื้นที่เข้มแข็ง สร้างความเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน โดยมีผู้บริหารหน่วยงานยุทธศาสตร์ระดับประเทศเข้าร่วมประกาศเจตนารมณ์ด้วย 7 หน่วยงาน คือ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.) สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และสำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) นับเป็นครั้งแรกที่มีการบูรณาการการทำงานของทั้ง 7 หน่วยงาน ในพื้นที่เป้าหมาย 5 จังหวัดนำร่อง คือ ขอนแก่น นครสวรรค์ ตราด พัทลุง และเชียงราย เพื่อสร้างจังหวัดเข้มแข็ง ไม่ทำงานซ้ำซ้อน และใช้งบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ ก่อนจะขยายการทำงานไปทั่วประเทศ ภายใต้แนวคิดภาคีอาสานี้ ไม่ใช่การสร้างงานใหม่ แต่เป็นการบูรณาการงานที่มีอยู่เดิมให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยก้าวข้ามพรมแดนระหว่างองค์กร ที่เคยเป็นอุปสรรค สู่การสร้างชุมชนที่เข้มแข็งและยั่งยืนร่วมกัน การประชุมระดมความเห็นจากภาคี 7 หน่วยงาน ด้านยุทธศาสตร์ขบวนการประชาสังคมและแผนการทำงานของภาคีหลายครั้ง มีมติให้จัดตั้ง “ภาคีสานพลังพื้นที่เข้มแข็ง” (ภสพ.) ขึ้น โดยมี ศ.ดร.บรรเจิด สิงคะเนติ เป็นประธาน และมี นพ.ปรีดา แต้อารักษ์ เป็นหัวหน้าคณะผู้ทำงานภาคีอาสา เพื่อทำงาน “สร้างจังหวัดเข้มแข็งโดยใช้พื้นที่เป็นฐานและบูรณาการทุกภาคส่วน” ซึ่งเป็นเป้าหมายใหญ่เป้าหมายเดียวกันของขบวนการประชาสังคม เพื่อสถาปนาอำนาจประชาชน โดยสร้างประชาธิปไตยจากฐานรากตามวิถีประชาธิปไตย ผลักดันการกระจายอำนาจให้ประชาชนจัดการตนเอง ในระดับจังหวัดและพื้นที่ โดยมีแผนงานกันทั้งระยะยาวและแผนระยะสั้นรายปี เพื่อสร้างจังหวัดเข้มแข็ง โดยใช้พื้นที่เป็นฐานและบูรณาการทุกภาคส่วนอย่างแท้จริง ความหมายของจังหวัดเข้มแข็ง คือพื้นที่ที่มีพลังในการขับเคลื่อนตนเองได้ ด้วยการรวมพลังทุกภาคส่วน ใช้ข้อมูลนำการตัดสินใจ มีพื้นที่กลางและกลไกแก้ปัญหาที่คล่องตัว สามารถจัดการทรัพยากรของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ กลายเป็นฐานรากประชาธิปไตยของสังคมที่เข้มแข็ง และมีขีดความสามารถรองรับกับปัญหาที่อาจเกิดขึ้นหรืออุบัติใหม่ในอนาคต การสร้างชุมชนเข้มแข็งและกลไก “พื้นที่กลาง” ระดับจังหวัด จะเป็นจุดคานงัดประเทศไทยที่สำคัญกับระบอบอำนาจนิยมรวมศูนย์ในอดีต ที่เกิดปัญหาชนชั้นนำ มักเข้าครอบงำรัฐและทุนเพื่อยึดอำนาจในการจัดการทรัพยากร เพื่อผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจและการเมืองมาโดยตลอดในประวัติศาสตร์ของประเทศไทย ชุมชนเข้มแข็งและพื้นทแคปชั่นติดการพนันี่กลาง จะเป็นการสร้างสะพานประชาธิปไตยจากฐานรากเพื่อความยั่งยืนของประเทศไทยอย่างแท้จริง และมีเสถียรภาพมากขึ้น สอดคล้องกับการกระจายอำนาจในศตวรรษใหม่ ซึ่งจังหวัดที่เข้มแข็งจะสามารถวิเคราะห์และตัดสินใจแก้ไขปัญหาได้เอง โดยไม่ต้องรอการสั่งการจากส่วนกลาง สามารถระดมทรัพยากรทั้งภาครัฐ ท้องถิ่น เอกชน และภาคประชาสังคมมาใช้ร่วมกันอย่างบูรณาการ สร้างนวัตกรรมการจัดการปัญหาที่เหมาะสมกับบริบทของพื้นที่ และพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง ความยั่งยืนในการบูรณาการครั้งนี้ เชื่อว่าจะเกิดความเข้มแข็งของฐานรากชุมชนขึ้นทั่วประเทศ กลไกพื้นที่กลาง และรูปแบบการจัดการรูปธรรมในพื้นที่ จะสามารถกำหนดความยั่งยืนในระยะยาว สามารถสร้างประชาธิปไตยที่มีฐานรากแข็งแรง และประชาชนในพื้นที่มีอำนาจในการจัดการตนเอง ทั้งทางวัฒนธรรมและกฎหมาย เกิดความเข้มแข็งของประชาชนในทุกพื้นที่ และมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในระดับชาติ นำไปสู่รากฐานของประชาธิปไตยที่เข้มแข็งและประเทศที่มั่งคงมีเสถียรภาพ ในภูมิรัฐศาสตร์โลกใหม่ที่เปลี่ยนแปลง เรียบเรียง : เมธา มาสขาว ผู้อำนวยการสถาบันสังคมประชาธิปไตย อ่านข่าว : กมธ.เชิญ 3 หน่วยงานแจง สปส.ยันประกันสังคมสิทธิไม่ด้อยกว่าบัตรทอง สบส.ชี้เข้าข่ายหมอเถื่อน กลุ่มคลื่นพลังบุญอวดอ้างอิทธิฤทธิ์รักษาโรค "อนุทิน" เผยหารือราบรื่น เร่งทำ MOU ลดขั้นตอน ส่งแรงงานไทยไปอิสราเอล

จากกรณี ที่มีชาวบ้านออกหาปลา หอย กุ้ง บริเวณหนองน้ำสาธารณะบุ่งกระเบา พื้นที่ติดกับหนองปลาแขยง หมู่ 12 ต.เมืองเก่า อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี บนพื้นที่กว้างใหญ่นับ 100 ไร่ เพื่อนำไปขายหารายได้ยังชีพ วั