slot pg เครดิต ฟรี 50วัน🥗นี้ (3 ส.ค.2565) นาย🎖️สราวุธ🎷 ท🎈รง📦ศิวิไล อธิบดีกรมท🎷

ครม.สั่งลดปล่อยน้ำจากวันละ 28 เหลือ 18 ล้านลบ.ม. อนุมัติ 6 หมื่นล.ยืดหนี้-ปล่อยกู้เกษตรกร 1 ล้านคน ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เห็นชอบลดการระบายน้ำ 4 เขื่อนหลัก จากวันละ 28 ล้านลบ.ม. เหลือ 18 ล้านลบ.ม. เพื่อสำรองน้ำไว้ใช้อุปโภคและบริโภคใน 30 วัน การประปาส่วนภูมิภาคเผย 9 พื้นที่ขาดน้ำดิบ สำหรับการผลิตน้ำประปา พบว่าส่วนใหญ่อยู่ในภาคอีสาน ขณะที่ประปาธัญบุรีขอร้องประชาชนงดสูบน้ำ 3 วัน แต่ก็พบว่า มีชาวบ้านคลอง 13 บางส่วนสูบน้ำจากคลอง ครม.สั่งลดปล่อยน้ำจากวันละ 28 เหลือ 18 ล้านลบ.ม. อนุมัติ 6 หมื่นล.ยืดหนี้-ปล่อยกู้เกษตรกร 1 ล้านคน วานนี้ (14 ก.ค.2558) รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลเปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)เห็นชอบลดการระบายน้ำ 4 เขื่อนหลัก จากวันละ 28 🔑ล้านลูกบาศก์เมตร เหลือ 18 ล้านลูกบาศก์เมตร ตั้งแต่วันที่ 16 ก.ค.เป็นต้นไป เพื่อสำรองน้ำไว้ใช้อุปโภคและบริโภคภายใน 30 วันจนถึงกลางเดือนส.ค. ซึ่งคาดว่าฝนจะตกอีกครั้ง จึงต้องขอความร่วมมือเกษตรกรในลุ่มน้ำเจ้าพระยา ให้หยุดการสูบน้ำตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป เนื่องจาก ไม่สามารถส่งน้ำให้การเกษตรได้แล้ว ทั้งนี้การระบายน้ำจากเขื่อนภูมิพลระบายอยู่ที่ 8 ล้านลูกบาศก์เมตร เหลือวันละประมาณ 5 ล้านลูกบาศก์เมตร ขณะที่เขื่อนสิริกิติ์ปล่อยน้ำวันละ 17 ล้านลูกบาศก์เมตร ให้เหลือ 11 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน ส่วนเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน ปัจจุบันระบายที่ 1.7 ล้านลูกบาศก์เมตร ให้เหลือ 1 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ระบายวันละ 1.3 ล้านลูกบาศก์เมตร ให้เหลือ 1 ล้าน ลูกบาศก์เมตร ส่วนการบรรเทาความเดือดร้อนเกษตรกร ที่ประสบภัยแล้ง ครม.เห็นชอบวงเงินรวมกว่า 60,000 ล้านบาท โดยยืดเวลาชำระหนี้ ปล่อยกู้อัตราดอกเบี้ยต่ำ วงเงิน 30,000 ล้านบาท รวมทั้งปล่อยสินเชื่อเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการเพาะปลูก อายุสินเชื่อ 3 ปี เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเกษตรกรประมาณ 1 ล้านคน พร้อมให้ธนาคารของรัฐ ช่วยเปลี่ยนแหล่งเงินกู้ หรือรีไฟแนนซ์ โดยธนาคารออมสิน จะดูแลในส่วนของประชาชนทั่วไปรายละ 500,000 บาท ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) ดูแลเกษตรกร รายละ 100,000 บา🍐🌈🎤ท และ ธนาคารอาคารสงเคราะห์จะดูแลในส่วนที่ดินที่อยู่อาศัย นอกจากนี้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ยังเตรียมเสนอให้ครม.พิจารณาภายในสิ้นเดือนนี้ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรจากปัญหาภัยแล้ง โดยจ่ายเงินช่วยเหลือเกษตรกร ไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกินครัวเรือนละ 15 ไร่ หรือ 15,000 บาทต่อครัวเรือน รวม 1,340,000 ครัวเรือน วงเงิน 20,200 ล้านบาท ด้านพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ได้กำชับกำนัน ผู้ใหญ่บ้านทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ โดยเฉพาะในภาคการเกษตร กรณีที่รัฐบาลจำเป็นต้องปรับลดปริมาณการระบายน้ำเหลือ 18 ล้านลูกบาศก์เมตร พร้อมขอร้องเกษตรกรให้รอน้ำฝนในช่วงเดือนสิงหาคม ที่คาดว่าจะมีปริมาณฝนเพิ่มมากขึ้นก่อนทำการเพาะปลูก ขณะที่ผลกระทบต่างๆ รัฐบาลจะให้การดูแลอย่างเต็มที่ นางรัตนา กิจวรรณ ผู้ว่าการการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) เปิดเผยว่า มี 9 พื้นที่ ที่กำลังประสบภาวะภัยแล้งจนขาดแคลนน้ำดิบเพื่อผลิตน้ำประปา โดยแบ่งเป็น พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 4 จังหวัด ประกอบด้วยพื้นที่ อ.ปักธงชัย และอ.พิมาย จ.นครราชสีมา อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ อ.เดชอุดม จ.อุบลราชธานี และพื้นที่จ.อำนาจเจริญ ซึ่งในภาพรวมพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือส่วนใหญ่ที่ขาดน้ำดิบ อยู่ในพื้นที่ลุ่มน้ำชี ซึ่งกปภ.ใช้วิธีการผลิตและปล่อยน้ำประปาเป็นเวลาเพื่อจำกัดปริมาณการใช้น้ำ ส่วนภาคเหนือมี 3 จังหวัด ได้แก่ อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ อ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์ และจ.พะเยา ภาคใต้ที่อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี ภาคกลางอ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี เป็นพื้นที่ที่น่ากังวลที่สุด เนื่องจากเป็นพื้นที่ปลายน้ำ อยู่ใกล้เมืองหลวง และมีผู้ใช้น้ำประปาจำนวนมาก จำเป็นต้องดูแลอย่างใกล้ชิด และยังต้องขอความร่วมมือเกษตรกรที่อาศัยอยู่ตอนบนของคลองระพีพัฒน์ จะให้ความร่วมมือมากน้อยแค่ไหนในการที่จะไม่สูบน้ำ และปิดทางกั้นทางน้ำไหล ส่วนความเคลื่อนไหวในพื้นที่อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ที่กรมชลประทานเริ่มระบายน้ำให้การประปาผลิตน้ำประปานั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านส่วนใหญ่ในบริเวณ คลอง 13 ให้ความร่วมมือตามคำร้องของของการประปาส่วนภูมิภาค สาขาธัญบุรี ที่ขอความร่วมมือชาวบ้านเหนือสถานีผลิตนำประปา งดสูบน้ำเพื่อให้มีน้ำไหslot pg เครดิต ฟรี 50ลมาถึงสถานีสูบน้ำ แต่ยังพบว่า มีชาวบ้านบางส่วนที่ยังเดินเครื่องสูบน้ำอยู่ ขณะที่ต้นคลอง 13 มีการติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ สูบน้ำเข้าช่วยเหลือคลอง 14 จำนวน 1 เครื่อง และส่วนฝั่งคลองระพีพัฒน์ตอนล่าง ได้หยุดเดินเครื่องสูบน้ำไป 3 เครื่อง แต่ยังคงเดินเครื่องเพียง 1 เครื่อง เพื่อกระจายน้ำช่วยเหลือชาวบ้าน คลอง 12 ไล่ลงมาถึง คลอง 10 โดยระบายน้ำเข้าคลอง 13 วันละ 600,000-700,000 ลูกบาศก์เมตร ส่วนสถานีผลิตน้ำประปา สามารถสูบน้ำดิบไปใช้ได้วันละประมาณ 50,000-60,000 ลูกบาศก์เมตร ซึ่งขณะนี้ถือว่าสามารถนำน้ำดิบไปใช้ผลิตน้ำประปาได้แล้ว แต่ก็ต้องเฝ้าระวังตรวจสอบสถานการณ์น้ำตลอดเวลา และระดับน้ำที่แห้งขอดจนไม่สามารถพยุงถนนไว้ได้ ทำให้ถนนเลียบคลอง 13 ฝั่งตะวันตก ต.นพรัตน์ อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี ทรุดตัว ไหลลงไปในคลอง จนทำให้แนวปูนป้องกันตลิ่งเสียหายด้วย วานนี้ (14 ก.ค.2558) รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลเปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)เห็นชอบ🙌ลดการระบายน้ำ 4 เขื่อนหลัก จากวันละ 28 ล้านลูกบาศก์เมตร เหลือ 18 ล้านลูกบาศก์เมตร ตั้งแต่วันที่ 16 ก.ค.เป็นต้นไป เพื่อสำรองน้ำไว้ใช้อุปโภคและบริโภคภายใน 30 วันจนถึงกลางเดือนส.ค. ซึ่งคาดว่าฝนจะตกอีกครั้ง จึงต้องขอความร่วมมือเกษตรกรในลุ่มน้ำเจ้าพระยา ให้หยุดการสูบน้ำตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป เนื่องจาก ไม่สามารถส่งน้ำให้การเกษตรได้แล้ว ทั้งนี้การระบายน้ำจากเขื่อนภูมิพลระบายอยู่ที่ 8 ล้านลูกบาศก์เมตร เหลือวันละประมาณ 5 ล้านลูกบาศก์เมตร ขณะที่เขื่อนสิริกิติ์ปล่อยน้ำวันละ 17 ล้านลูกบาศก์เมตร ให้เหลือ 11 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน ส่วนเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน ปัจจุบันระบายที่ 1.7 ล้านลูกบาศก์เมตร ให้เหลือ 1 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ระบายวันละ 1.3 ล้านลูกบาศก์เมตร ให้เหลือ 1 ล้าน ลูกบาศก์เมตร ส่วนการบรรเทาความเดือดร้อนเกษตรกร ที่ประสบภัยแล้ง ครม.เห็นชอบวงเงินรวมกว่า 60,000 ล้านบาท โดยยืดเวลาชำระหนี้ ปล่อยกู้อัตราดอกเบี้ยต่ำ วงเงิน 30,000 ล้านบาท รวมทั้งปล่อยสินเชื่อเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการเพาะปลูก อายุสินเชื่อ 3 ปี เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเกษตรกรประมาณ 1 ล้านคน พร้อมให้ธนาคารข🙌องรัฐ ช่วยเปลี่ยนแหล่งเงินกู้ หรือรีไฟแนนซ์ โดยธนาคารออมสิน จะดูแลในส่วนของประชาชนทั่วไปรายละ 500,000 บาท ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) ดูแลเกษตรกร รายละ 100,000 บาท และ ธนาคารอาคารสงเคราะห์จะดูแลในส่วนที่ดินที่อยู่อาศัย นอกจากนี้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ยังเตรียมเสนอให้ครม.พิจารณาภายในสิ้นเดือนนี้ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรจากปัญหาภัยแล้ง โดยจ่ายเงินช่วยเหลือเ🌞กษตรกร ไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกินครัวเรือนละ 15 ไร่ หรือ 15,000 บาทต่อครัวเรือน รวม 1,340,000 ครัวเรือน วงเงิน 20,200 ล้านบาท ด้านพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ได้กำชับกำนัน ผู้ใหญ่บ้านทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ โดยเฉพาะในภาคการเกษตร กรณีที่รัฐบาลจำเป็นต้องปรับลดปริมาณการระบายน้ำเหลือ 18 ล้านลูกบาศก์เมตร พร้อมขอร้องเกษตรกรให้รอน้ำฝนในช่วงเดือนสิงหาคม ที่คาดว่าจะมีปริมาณฝนเพิ่มมากขึ้นก่อนทำการเพาะปลูก ขณะที่ผลกระทบต่างๆ รัฐบาลจะให้การดูแลอย่างเต็มที่ นางรัตนา กิจวรรณ ผู้ว่าการการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) เปิดเผยว่า มี 9 พื้นที่ ที่กำลังประสบภาวะภัยแล้งจนขาดแคลนน้ำดิบเพื่อผลิตน้ำประปา โดยแบ่งเป็น พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 4 จังหวัด ประกอบด้วยพื้นที่ อ.ปักธงชัย และอ.พิมาย จ.นครราชสีมา อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ อ.เดชอุดม จ.อุบลราชธานี และพื้นที่จ.อำนาจเจริญ ซึ่งในภาพรวมพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือส่วนใหญ่ที่ขาดน้ำดิบ อยู่ในพื้นที่ลุ่มน้ำชี ซึ่งกปภ.ใช้วิธีการผลิตและปล่อยน้ำประปาเป็นเวลาเพื่อจำกัดปริมาณการใช้น้ำ ส่วนภาคเหนือมี 3 จังหวัด 🎠ได้แก่ อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ อ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์ และจ.พะเยา ภาคใต้ที่อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี ภาคกลางอ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี เป็นพื้นที่ที่น่ากังวลที่สุด เนื่องจากเป็นพื้นที่ปลายน้ำ อยู่ใกล้เมืองหลวง และมีผู้ใช้น้ำประปาจำนวนมาก จำเป็นต้องดูแลอย่างใกล้ชิด และยังต้องขอความร่วมมือเกษตรกรที่อาศัยอยู่ตอนบนของคลองระพีพัฒน์ จะให้ความร่วมมือมากน้อยแค่ไหนในการที่จะไม่สูบน้ำ และปิดทางกั้นทางน้ำไหล ส่วนความเคลื่อนไหวในพื้นที่อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ที่กรมชลประทานเริ่มระบายน้ำให้การประปาผลิตน้ำประปานั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านส่วนใหญ่ในบริเวณ คลอง 13 ให้ความร่วมมือตามคำร้องของของการประปาส่วนภูมิภาค สาขาธัญบุรี ที่ขอความร่วมมือชาวบ้านเหนือสถานีผลิตนำประปา งดสูบน้ำเพื่อให้มีน้ำไหลมาถึงสถานีสูบน้ำ แต่ยังพบว่า มีชาวบ้านบางส่วนที่ยังเดินเครื่องสูบน้ำอยู่ ขณะที่ต้นคลอง 13 มีการติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ สูบน้ำเข้าช่วยเหลือคลอง 14 จำนวน 1 เครื่อง และส่วนฝั่งคลองระพีพัฒน์ตอนล่าง ได้หยุดเดินเครื่องสูบน้ำไป 3 เครื่อง แต่ยังคงเดินเครื่องเพียง 1 เครื่อง เพื่อกระจายน้ำช่วยเหลือชาวบ้าน คลอง 12 ไล่ลงมาถึง คลอง 10 โดยระบายน้ำเข้าคลอง 13 วันละ 600,000-700,000 ลูกบาศก์เมตร ส่วนสถานีผลิตน้ำประปา สามารถสูบน้ำดิบไปใช้ได้วันละประมาณ 50,000-60,000 ลูกบาศก์เมตร ซึ่งขณะนี้ถือว่าสามารถนำน้ำดิบไปใช้ผลิตน้ำประปาได้แล้ว แต่ก็ต้องเฝ้าระวังตรวจสอบสถานการณ์น้ำตลอดเวลา และระดับน้ำที่แห้งขอดจนไม่สามารถพยุงถนนไว้ได้ ทำให้ถนนเลียบคลอง 13 ฝั่งตะวันตก ต.นพรัตน์ อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี ทรุดตัว ไหลลงไปในคลอง จนทำให้แนวปูนป้องกันตลิ่งเสียหายด้วย