แม้ “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.ที

เมื่อวันที่ 20 ต.ค.2564 เว็บไซต์ ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ ประกาศพระราชทานยศข้าราชการในพระองค์ฝ่ายทหารชั้นสัญญาบัตร ความว่า พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มี
วันนี้ (5 พ.ค.2566) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย เซอร์ไพรส์ ปรากฏตัวผ่านระบบวิดีโอคอล มายังเวทีปราศรัย “เพื่อเศรษฐกิจ เพื่อคุณภาพชีวิต เพื่อสิทธิเสรีภาพ เพื่อไทย” ณ ลานพาร์คพารากอน
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะแคนดิเดตนายกฯ ในบัญชีพรรครวมไทยสร้างชาติ ไม่ได้ลงสมัคร ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ โดยอาจถนัดงานด้านบริหารเป็นสำคัญ แต่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นทั้งแคนดิเดตนายกฯ พรรคพลังประชารัฐ และลงสมัคร ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ อันดับ 1 ของพรรค เท่ากับพร้อมทำงานด้านนิติบัญญัติด้วย แม้โดยบุคลิกอาจไม่ถนัดงานในสภาฯ ด้วยเป็นคนพูดน้อย นายวิรัช รัตนเศรษฐ บ้านใหญ่นครราชสีมา รวมถึงพิม อัศวเหม ลูกสาวนายพูนผล (พี่ชายนายชนม์สวัสดิ์) กับนางประภาพร อัศวเหม ทายาทบ้านใหญ่อัศวเหม จ.สมุทรปราการ นอกจากนี้ ยังมี “ตัวแทนบ้านใหญ่” ในอีกหลายจังหวัด สะท้อนแนวยุทธศาสตร์การเมืองแบบดั้งเดิมไม่เปลี่ยนแปลง เพราะถึงอย่างไรก็เชื่อว่า “บ้านใหญ่” เหล่านี้ จะปักธง ส.ส.ให้กับพรรคได้อย่างแน่นอน ไม่ต้องนั่งลุ้นเหมือนยุทธศาสตร์การเมืองแนวอื่น ขณะที่พรรครวมไทยสร้างชาติ พยายามรวบรวม “บ้านใหญ่” เช่นเดียวกัน แต่ระดับและจำนวนจะน้อยกว่า อาทิ นายสุชาติ ชมกลิ่น ยังมีสถานภาพเป็นเพียง “บ้านใหม่” ชลบุรี ต้องออกแรงวัดศักยภาพกับ “บ้านใหญ่” คุณปลื้ม หรือนายชัยวัฒน์ เป้าเปี่ยมทรัพย์ บ้านใหม่ฉะเชิงเทรา ที่ต้องลุ้นเอาชนะ “บ้านใหญ่” อย่างฉายแสง และตันเจริญ ที่เป็นกระดูกเบอร์ใหญ่กว่า มิหนำซ้ำ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มดาวเคราะห์ ไม่ใช่ดาวฤกษ์ที่มีแสงในตัวเอง หรือมี ส.ส.ในสังกัดเป็นกลุ่มเป็นก้อน กลุ่มนี้จะมุ่งหวังอาศัย พล.อ.ประยุทธ์เป็นจุดขาย มากกว่าจะช่วยเติมเต็มจำนวน ส.ส.ให้พรรค ขณะที่พลังประชารัฐ ยังเตรียมมือกฎหมายอย่างนายไพบูลย์ นิติตะวัน ไว้พร้อม สำหรับปฏิบัติการ “ยึดสภา” อันเป็นจุดเริ่มต้นของการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีจากสมาชิกรัฐสภา พรรคพลังประชารัฐ ยังแอบหวังลึกๆ ว่า “บ้านใหญ่” จะช่วยเติมคะแนนเสียงปาร์ตี้ลิสต์ เพื่อให้รายชื่อ 10 อันดับแรกเป็นพื้นที่ “เซฟโซน” ขณะที่พรรครวมไทยสร้างชาติ ต้องแอบหวังผลคะแนนจากโพลให้เปลี่ยนเป็นคะแนนจริงในทางปฏิบัติ เพื่อให้รายชื่อ 15 อันดับแรกเป็นพื้นที่ “เซฟโซน” โดยอันดับ 15 คือนายเสกสกล อัตถาวงษ์ ตลาด ลูก หนัง ฟรีแกนนำสำคัญของพรรคในพื้นที่ภาคอีสาน ที่อาจต้องลุ้นแบบ “ลูกผีลูกคน” ปาร์ตี้ลิสต์ของ “บิ๊กป้อม” ยังมีโอกาสได้ไปต่อ แม้จะไม่ชนะอันดับ 1 ในบรรดาพรรคการเมืองทั้งหมด จากการวิเคราะห์ของกูรูการเมืองว่า จะสามารถจับมือตั้งรัฐบาลได้กับทั้ง 2 ขั้วการเมือง ขณะที่พรรครวมไทยสร้างชาติ จะมีโอกาสเพียงร่วมมือกับพรรคขั้วรัฐบาลด้วยกันเท่านั้น นี่จึงเป็นความเหมือนและความแตกต่างของทั้ง 2 พรรค ที่มาจาก “น้ำแยกสาย ไผ่แยกกอ” วิเคราะห์ : ประจักษ์ มะวงศ์สา
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะแคนดิเดตนายกฯ ในบัญชีพรรครวมไทยสร้างชาติ ไม่ได้ลงสมัคร ส.ส.ปาร์ตี้ลิส
วันนี้ ( 5 ก.พ.2565) เครื่องบินส่วนตัวของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และ นายศ
วันนี้ (19 ต.ค.2565) พล.ต.ต.นพเก้า โสมนัส ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น แถลงข่าวการจับกุมผู้ต้
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะแคนดิเดตนายกฯ ในบัญชีพรรครวมไทยสร้างชาติ ไม่ได้ลงสมัคร ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ โดยอาจถนัดงานด้านบริหารเป็นสำคัญ แต่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นทั้งแคนดิเดตนายกฯ พรรคพลังประชารัฐ และลงสมัคร ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ อันดับ 1 ของพรรค เท่ากับพร้อมทำงานด้านนิติบัญญัติด้วย แม้โดยบุคลิกอาจไม่ถนัดงานในสภาฯ ด้วยเป็นคนพูดน้อย นายวิรัช รัตนเศรษฐ บ้านใหญ่นครราชสีมา รวมถึงพิม อัศวเหม ลูกสาวนายพูนผล (พี่ชายนายชนม์สวัสดิ์) กับนางประภาพร อัศวเหม ทายาทบ้านใหญ่อัศวเหม จ.สมุทรปราการ นอกจากนี้ ยังมี “ตัวแทนบ้านใหญ่” ในอีกหลายจังหวัด สะท้อนแนวยุทธศาสตร์การเมืองแบบดั้งเดิมไม่เปลี่ยนแปลง เพราะถึงอย่างไรก็เชื่อว่า “บ้านใหญ่” เหล่านี้ จะปักธง ส.ส.ให้กับพรรคได้อย่างแน่นอน ไม่ต้องนั่งลุ้นเหมือนยุทธศาสตร์การเมืองแนวอื่น ขณะที่พรรครวมไทยสร้างชาติ พยายามรวบรวม “บ้านใหญ่” เช่นเดียวกัน แต่ระดับและจำนวนจะน้อยกว่า อาทิ นายสุชาติ ชมกลิ่น ยังมีสถานภาพเป็นเพียง “บ้านใหม่” ชลบุรี ต้องออกแรงวัดศักยภาพกับ “บ้านใหญ่” คุณปลื้ม หรือนายชัยวัฒน์ เป้าเปี่ยมทรัพย์ บ้านใหม่ฉะเชิงเทรา ที่ต้องลุ้นเอาชนะ “บ้านใหญ่” อย่างฉายแสง และตันเจริญ ที่เป็นกระดูกเบอร์ใหญ่กว่า มิหนำซ้ำ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มดาวเคราะห์ ไม่ใช่ดาวฤกษ์ที่มีแสงในตัวเอง หรือมี ส.ส.ในสังกัดเป็นกลุ่มเป็นก้อน กลุ่มนี้จะมุ่งหวังอาศัย พล.อ.ประยุทธ์เป็นจุดขาย มากกว่าจะช่วยเติมเต็มจำนวน ส.ส.ให้พรรค ขณะที่พลังประชารัฐ ยังเตรียมมือกฎหมายอย่างนายไพบูลย์ นิติตะวัน ไว้พร้อม สำหรับปฏิบัติการ “ยึดสภา” อันเป็นจุดเริ่มต้นของการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีจากสมาชิกรัฐสภา พรรคพลังประชารัฐ ยังแอบหวังลึกๆ ว่า “บ้านใหญ่” จะช่วยเติมคะแนนเสียงปาร์ตี้ลิสต์ เพื่อให้รายชื่อ 10 อันดับแรกเป็นพื้นที่ “เซฟโซน” ขณะที่พรรครวมไทยสร้างชาติ ต้องแอบหวังผลคะแนนจากโพลให้เปลี่ยนเป็นคะแนนจริงในทางปฏิบัติ เพื่อให้รายชื่อ 15 อันดับแรกเป็นพื้นที่ “เซฟโซน” โดยอันดับ 15 คือนายเสกสกล อัตถาวงษ์ ตลาด ลูก หนัง ฟรีแกนนำสำคัญของพรรคในพื้นที่ภาคอีสาน ที่อาจต้องลุ้นแบบ “ลูกผีลูกคน” ปาร์ตี้ลิสต์ของ “บิ๊กป้อม” ยังมีโอกาสได้ไปต่อ แม้จะไม่ชนะอันดับ 1 ในบรรดาพรรคการเมืองทั้งหมด จากการวิเคราะห์ของกูรูการเมืองว่า จะสามารถจับมือตั้งรัฐบาลได้กับทั้ง 2 ขั้วการเมือง ขณะที่พรรครวมไทยสร้างชาติ จะมีโอกาสเพียงร่วมมือกับพรรคขั้วรัฐบาลด้วยกันเท่านั้น นี่จึงเป็นความเหมือนและความแตกต่างของทั้ง 2 พรรค ที่มาจาก “น้ำแยกสาย ไผ่แยกกอ” วิเคราะห์ : ประจักษ์ มะวงศ์สา
วันนี้ (27 ก.พ.2568) นายธนพัต ยิ้มสู้ นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในฐานะเจ้าของเพจ พ่อบ้านบ้าคอนโด เปิดเผ