วันนี้ (15 ธ.ค.2567) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ภายหลังจากที่สมัชชาแห่งชาติเกาหลีใต้ มีมติ 204 เสียง ยื่นถอดถอน หรือ Impeachment "ยุน ซอก-ยอล" ออกจากตำแหน่งประธานาธิบดี มีผลให้ต้องยุติการทำหน้าที่ผู
กฤษฎีกาถกนัดแรก13ก.ย.ตีความประเด็น กสทช. เอกชนหวั่นว่าหาก กสทช.เกิดขึ้นได้ช้า ก็จะเกิดความไม่มั่นใจกับนักลงทุน ขณะที่เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกายืนยันจะใช้เวลาตีความเรื่อง กสทช.ให้แล้วเสร็จภายในสัปดาห์หน้า และยืนยันว่าการตีความเรื่องการทูลเกล้าได้หรือไม่ ยังไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน กฤษฎีกาถกนัดแรก13ก.ย.ตีความประเด็น กสทช. นายอัชพร จารุจินดา เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกาเปิดเผยกับไทยพีบีเอสว่า สำนักงานเลขาธิการนายกรัฐมนตรีได้ส่งหนังสือขอให้ช่วยตีความเรื่อง กสทช.ตั้งแต่เมื่อวานนี้ ซึ่งคณะกรรมการกฤษฎีกาจะเริ่มประชุมนัดแรกกันได้ในวันที่ 13 กันยายนนี้ เนื่องจากต้องรอรายชื่อจากกสทช.ทั้ง 11 คน และย้ำว่าการตีความในประเด็นข้อสังสัยเรื่องการนำบัญชีรายชื่อขึ้นทูลเกล้า ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน "..ได้รับหนังสือจากสำนักงานเลขาธิการนายกรัฐมนตรีส่งเรื่องมาให้เมื่อวานเย็น โดยให้ตอบคำถามว่ากรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ รับคดีเรื่องการสรรหากสทช.ไว้ จะมีผลกระทบต่อการดำเนินงานของนายกฯ เพียงใด มีประเด็นนี้ประเด็นเดียว ซึ่งหากได้รับเรื่องจากวุฒิสภามาแล้ว จะสามารถนำขึ้นทูลเกล้าฯได้หรือไม่ตามกฎหมาย ขณะนี้ได้ให้เจ้าหน้าที่ไปดูว่าประเด็นหลักว่าเป็นอย่างไร ให้ดูข้อเท็จจริง และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เช่น กม.พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ และกำกับการประกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และโทรคมนาคม, กม.หรือพ.ร.บ.ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ ว่ามีอำนาจหน้าที่อย่างไร และระเบียบเกี่ยวกับขั้นตอนการนำขึ้นทhyper strike slotูลเกล้าฯ สำหรับกรณีเรื่องขอให้ยื่นตีความเกี่ยวกับขั้นตอนก่อนนำขึ้นทูลเกล้าฯนั้น ที่ผ่านมาไม่เคยมีส่งมาเป็นทางการ ซึ่งคดีนี้ก็คงเหมือนข้อปัญหากฎหมายอื่นๆ ต้องดูว่าเป้าประสงค์ของกฎหมายเป็นอย่างไร สำนักงานตั้งเป้าหมายไว้คือต้องการสรุปเรื่องให้เสร็จภายในสัปดาห์หน้า ตอนนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของระดับเจ้าหน้าที่ เมื่อได้รวบรวมข้อมูลเสร็จแล้ว คณะกรรมการกฤษฎีกาจะนัดประชุมกัน โดยเป็นบุคคลที่มีคุณวุฒิ หรือมีประสบการณ์ตรงกับเรื่องนี้ให้พิจารณา ตั้งเป้าว่าจะพิจารณาเพียง 1-2 ครั้งเท่านั้น ก็คาดว่าจะเสร็จเรียบร้อย ทั้งนี้ จะเริ่มประชุมกันในวันอังคาร (13ก.ย.) และเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงรายละเอียด้วย สำหรับคณะกรรมการกฤษฏีกาที่จะพิจารณาเรื่องนี้มีอยู่ 9 คน ก็จะนั่งถกความเห็น และทำคำวินิจฉัยเป็นความลายลักษณ์อักษรส่งไปให้นายกฯ โดยจะสรุปว่ามีเนื้อหาข้อกฎหมายเป็นอย่างไร ส่วนข้อเสนอแนะว่าจะต้องทูลเกล้าฯหรือไม่ จะอยู่ที่มติของคณะกรรมการกฤษฎีกาแต่ละคน ที่ผ่านมาเท่าที่ทราบ ยังไม่เคยมีการหารือมาที่กฤษฎีกาลักษณะนี้ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นการหารือภายในกันคณะรัฐมนตรี และเลขาฯ นายกฯ แต่เรื่องนี้คิดว่าคงพูดกันหลากหลาย และเพื่อให้เกิดความมั่นใจขึ้น นายกฯ จึงส่งตีความ ไม่คิดว่ากฤษฏีกาจะกดดันว่าถูกมองเป็นเกมส์การเมืองช่วยรัฐบาลดึงเรื่อง เพราะดูว่าแนวทางว่ากันมาอย่างไร ก็ดูกันไปอย่างนั้น ทึ่ผ่านมามันอาจจะไม่เคยมีข้อสงสัยกันถึงขนาดนี้หรือเปล่า เพราะขณะนี้มีการพูดจากันว่ามันมีการดำเนินคดีในเรื่องที่ไม่ชอบ แล้วจะนำเรื่องนี้นำขึ้นทูลเกล้าฯ ได้เลยหรือไม่ ซึ่งจำเป็นต้องวิเคราะห์กัน แต่สุดท้ายกฤษฏีกาจะตีความอย่างไร หรือมีความเห็นอย่างไร ก็เป็นเพียงการประกอบการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรี สุดท้ายก็ขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรีตัดสินใจ ปัญหาการดำเนินการตามกฎหมายมันมีได้เสมอ ในเรื่องที่ไม่ชัดเจน จึงต้องหาองค์กรที่ชัดเจนมาวินิจฉัยและทำให้ถูกต้องก็เท่านั้น ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องซีเรียสทุกอย่างมันเกิดขึ้นสงสัยได้เสมอ สำหรับประเด็นที่นายกฯ ให้ตีความคือ กรณีมีคนร้องเรียนไปยังดีเอสไอ และดีเอสไอมีมติรับคดีนี้ไว้พิจารณาว่าการสรรหาเป็นไปโดยมิชอบ จะมีผลกระทบต่อการดำเนินการนำรายชื่อกสทช.ขึ้นทูลเกล้าฯ หรือไม่ หมายความว่าสามารถทูลเกล้าได้หรือไม่ หรือต้องรอจนคดีจบ นี่คือประเด็นหลัก.." สมาชิกวุฒิสภากรุงเทพมหานครแนะนำให้นายกรัฐมนตรีทำตามขั้นตอน เพราะกฎหมายระบุชัดเจนว่านายกรัฐมนตรีมีหน้าที่รับไม้ต่อจากวุฒิสภา เพื่อนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อม ขณะที่ภาคเอกชนแสดงความกังวล หากกระบวนการเสนอรายชื่อกสทช.ทูลเกล้าฯยืดเยื้อออกไป จะสร้างความไม่มั่นใจให้นักลงทุน นายวิชัย เบญจรงคกุล นายกสมาคมโทรคมนาคมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า หาก กสทช.เดินหน้าทำงานได้เต็มที่ จะทำให้อุตสาหกรรมโทรคมนาคมเติบโต 3 เท่าตัว จากปัจจุบันที่ผู้ประกอบการแต่ละรายจำกัดการลงทุน เนื่องจากไม่มั่นใจถึงความชัดเจน ในการเกิดขึ้นของ กสทช. ซึ่งส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคที่ได้รับประโยชน์จากกิจการวิทยุ โทรทัศน์ และโทรคมนาคมไม่เต็มที่ และยังส่งผลต่อการแข่งขันในภาคของประเทศ นายอัชพร จารุจินดา เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกาเปิดเผยกับไทยพีบีเอสว่า สำนักงานเลขาธิการนายกรัฐมนตรีได้ส่งหนังสือขอให้ช่วยตีความเรื่อง กสทช.ตั้งแต่เมื่อวานนี้ ซึ่งคณะกรรมการกฤษฎีกาจะเริ่มประชุมนัดแรกกันได้ในวันที่ 13 กันยายนนี้ เนื่องจากต้องรอรายชื่อจากกสทช.ทั้ง 11 คน และย้ำว่าการตีความในประเด็นข้อสังสัยเรื่องการนำบัญชีรายชื่อขึ้นทูลเกล้า ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน "..ได้รับหนังสือจากสำนักงานเลขาธิการนายกรัฐมนตรีส่งเรื่องมาให้เมื่อวานเย็น โดยให้ตอบคำถามว่ากรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ รับคดีเรื่องการสรรหากสทช.ไว้ จะมีผลกระทบต่อการดำเนินงานของนายกฯ เพียงใด มีประเด็นนี้ประเด็นเดียว ซึ่งหากได้รับเรื่องจากวุฒิสภามาแล้ว จะสามารถนำขึ้นทูลเกล้าฯได้หรือไม่ตามกฎหมาย ขณะนี้ได้ให้เจ้าหน้าที่ไปดูว่าประเด็นหลักว่าเป็นอย่างไร ให้ดูข้อเท็จจริง และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เช่น กม.พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ และกำกับการประกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และโทรคมนาคม, กม.หรือพ.ร.บ.ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ ว่ามีอำนาจหน้าที่อย่างไร และระเบียบเกี่ยวกับขั้นตอนการนำขึ้นทูลเกล้าฯ สำหรับกรณีเรื่องขอให้ยื่นตีความเกี่ยวกับขั้นตอนก่อนนำขึ้นทูลเกล้าฯนั้น ที่ผ่านมาไม่เคยมีส่งมาเป็นทางการ ซึ่งคดีนี้ก็คงเหมือนข้อปัญหากฎหมายอื่นๆ ต้องดูว่าเป้าประสงค์ของกฎหมายเป็นอย่างไร สำนักงานตั้งเป้าหมายไว้คือต้องการสรุปเรื่องให้เสร็จภายในสัปดาห์หน้า ตอนนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของระดับเจ้าหน้าที่ เมื่อได้รวบรวมข้อมูลเสร็จแล้ว คณะกรรมการกฤษฎีกาจะนัดประชุมกัน โดยเป็นบุคคลที่มีคุณวุฒิ หรือมีประสบการณ์ตรงกับเรื่องนี้ให้พิจารณา ตั้งเป้าว่าจะพิจารณาเพียง 1-2 ครั้งเท่านั้น ก็คาดว่าจะเสร็จเรียบร้อย ทั้งนี้ จะเริ่มประชุมกันในวันอังคาร (13ก.ย.) และเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงรายละเอียด้วย สำหรับคณะกรรมการกฤษฏีกาที่จะพิจารณาเรื่องนี้มีอยู่ 9 คน ก็จะนั่งถกความเห็น และทำคำวินิจฉัยเป็นความลายลักษณ์อักษรส่งไปให้นายกฯ โดยจะสรุปว่ามีเนื้อหาข้อกฎหมายเป็นอย่างไร ส่วนข้อเสนอแนะว่าจะต้องทูลเกล้าฯหรือไม่ จะอยู่ที่มติของคณะกรรมการกฤษฎีกาแต่ละคน ที่ผ่านมาเท่าที่ทราบ ยังไม่เคยมีการหารือมาที่กฤษฎีกาลักษณะนี้ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นการหารือภายในกันคณะรัฐมนตรี และเลขาฯ นายกฯ แต่เรื่องนี้คิดว่าคงพูดกันหลากหลาย และเพื่อให้เกิดความมั่นใจขึ้น นายกฯ จึงส่งตีความ ไม่คิดว่ากฤษฏีกาจะกดดันว่าถูกมองเป็นเกมส์การเมืองช่วยรัฐบาลดึงเรื่อง เพราะดูว่าแนวทางว่ากันมาอย่างไร ก็ดูกันไปอย่างนั้น ทึ่ผ่านมามันอาจจะไม่เคยมีข้อสงสัยกันถึงขนาดนี้หรือเปล่า เพราะขณะนี้มีการพูดจากันว่ามันมีการดำเนินคดีในเรื่องที่ไม่ชอบ แล้วจะนำเรื่องนี้นำขึ้นทูลเกล้าฯ ได้เลยหรือไม่ ซึ่งจำเป็นต้องวิเคราะห์กัน แต่สุดท้ายกฤษฏีกาจะตีความอย่างไร หรือมีความเห็นอย่างไร ก็เป็นเพียงการประกอบการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรี สุดท้ายก็ขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรีตัดสินใจ ปัญหาการดำเนินการตามกฎหมายมันมีได้เสมอ ในเรื่องที่ไม่ชัดเจน จึงต้องหาองค์กรที่ชัดเจนมาวินิจฉัยและทำให้ถูกต้องก็เท่านั้น ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องซีเรียสทุกอย่างมันเกิดขึ้นสงสัยได้เสมอ สำหรับประเด็นที่นายกฯ ให้ตีความคือ กรณีมีคนร้องเรียนไปยังดีเอสไอ และดีเอสไอมีมติรับคดีนี้ไว้พิจารณาว่าการสรรหาเป็นไปโดยมิชอบ จะมีผลกระทบต่อการดำเนินการนำรายชื่อกสทช.ขึ้นทูลเกล้าฯ หรือไม่ หมายความว่าสามารถทูลเกล้าได้หรือไม่ หรือต้องรอจนคดีจบ นี่คือประเด็นหลัก.." สมาชิกวุฒิสภากรุงเทพมหานครแนะนำให้นายกรัฐมนตรีทำตามขั้นตอน เพราะกฎหมายระบุชัดเจนว่านายกรัฐมนตรีมีหน้าที่รับไม้ต่อจากวุฒิสภา เพื่อนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อม ขณะที่ภาคเอกชนแสดงความกังวล หากกระบวนการเสนอรายชื่อกสทช.ทูลเกล้าฯยืดเยื้อออกไป จะสร้างความไม่มั่นใจให้นักลงทุน นายวิชัย เบญจรงคกุล นายกสมาคมโทรคมนาคมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า หาก กสทช.เดินหน้าทำงานได้เต็มที่ จะทำให้อุตสาหกรรมโทรคมนาคมเติบโต 3 เท่าตัว จากปัจจุบันที่ผู้ประกอบการแต่ละรายจำกัดการลงทุน เนื่องจากไม่มั่นใจถึงความชัดเจน ในการเกิดขึ้นของ กสทช. ซึ่งส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคที่ได้รับประโยชน์จากกิจการวิทยุ โทรทัศน์ และโทรคมนาคมไม่เต็มที่ และยังส่งผลต่อการแข่งขันในภาคของประเทศ
วันนี้ (18 มิ.ย.2566 ) ผู้สื่อข่าวรายงานว่ามีชาวบ้านกว่า 50 คน ซึ่งเป็นสมาชิกสหกรณ์บริการเคหสถานชุมชน ร่วมใจพัฒนาตลาดเก่า จำกัด ในโครงการบ้านมั่นคงของสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) (พอช.) ต.บาง
วันนี้ (2 ธ.ค.2565) ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง อากาศแปรปรวนบริเวณประเทศไทยตอนบน และฝนตกหนักถึงหนั
- hyper strike slot
- ดาวน โหลดล ง 918kiss ใหม http tm.918kiss.com
- ufa356 ฝาก
- live สด แมน ยู
- happy live22
- รางวัล ที่ 5 มี กี่ รางวัล
นิยายชีวิต โดย : Agus raharjo
เรื่องและภาพโดย : Agus raharjo
[[คลิก]] อ่านเรื่องราว “นิยายชีวิต” ได้ที่นี่..