ทันที่ที่เห็นคลิปข่าว เจ้าหน้าที่กองกำกับการปราบปร

เดือนธ.ค. 2569 จีนจะเปิดทดลองเดินเรือ ในคลองผิงลู่ เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วงทางตอนใต้ของจีน โครงการสำคัญบนระเบียงการค้าทางบก-ทางทะเล เชื่อมโยงอาเซียน-ตลาดโลก คลองดังกล่าว มีความยาว 134.2 กิโลเมตร จากอ
วันนี้ (7 ธ.ค.2566) นายชัชชาติ สิทธิพันธ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร มอบเงินรางวัล 10,000 บาทให้นายจำลอง เพิ่มพูน ลูกจ้างประจำตำแหน่งพนักงานทั่วไป (เก็บขนมูลฝอย) ฝ่ายรักษาความสะอาดและสวนสาธารณะ สำนักงา
เดือนธ.ค. 2569 จีนจะเปิดทดลองเดินเรือ ในคลองผิงลู่ เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วงทางตอนใต้ของจีน โครงการสำคัญบนระเบียงการค้าทางบก-ทางทะเล เชื่อมโยงอาเซียน-ตลาดโลก คลองดังกล่าว มีความยาว 134.2 กิโลเมตร จากอ่างเก็บน้ำซีจินในเมืองเหิงโจว ไปท่าเรือชินโจว ในอำเภอเหลียงซานของมณฑลกว่างซี โดยเรือขนส่งสินค้าสามารถเข้าถึงอ่าวเป่ยปู้ ผ่านแม่น้ำชินเจียง เป็นเส้นทางลัดสู่ทะเลของมณฑลกว่างซีและภูมิภาคอื่นๆ ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ถือเป็นศูนย์กลางเส้นทางขนส่งบกเชื่อมทะเลสายใหม่ คลองผิงลู่เส้นทางการขนส่งทางเรือที่จะช่วยร่นระยะเวลาในการขนส่งสินค้า คลองผิงลู่เส้นทางการขนส่งทางเรือที่จะช่วยร่นระยะเวลาในการขนส่งสินค้า หากเอ่ยชื่อ ยักษ์ใหญ่แห่งอาเซียน คงหนีไม่พ้น “สาธารณรัฐประชาชนจีน” ประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองของโลก รองจากสหรัฐอเมริกา มีการเติบโตทางเศรษฐกิจที่สูงมาก ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยี ระบบสาธารณูปโภค ระบบขนส่งสาธารณะ การพัฒนาระบบโลจิสติกส์ บก ทางอากาศ ทางทะเล และทางราง ครอบคลุมพื้นที่แทบทุกตารางนิ้ว ขยายไปจนถึงประเทศอาเซียนและทั่วโลก เพื่อให้การเดินทาง และการขนส่งสินค้าสะดวกรวดเร็ว ย่นระยะการทำการค้าทั้งภายในและนอกประเทศ “นครหนานหนิง” หนึ่งในมณฑลศูนย์กลางของเส้นทาง NWLSC ที่มี เส้นทางขนส่งเชื่อมทางทะเลและรถไฟ เป็นเส้นทางหลัก (ท่าเรือทะเล) และมี เส้นทางขนส่งเชื่อมทางรถไฟ+ถนน เป็นเส้นทางเสริม (ด่านชายแดน) ในการเชื่อมโยงพื้นที่ภาคตะวันตกไปยังท่าเรือรอบอ่าวเป่ยปู้ กว่างซี และด่านชายแดนสำคัญของกว่างซี(จีน)-เวียดนาม รัฐบาลกว่างซีตั้งเป้าหมายว่า ในปี 2578 โครงข่ายเส้นทาง NWLSC จะเสร็จสมบูรณ์ เส้นทางขนส่งเส้นหลักทุกเส้นจะมาบรรจบที่กว่างซี ภาคธุรกิจสามารถใช้ประโยชน์จากการขนส่งแบบต่อเนื่องหลายรูปแบบได้เต็มที่ ประสิทธิภาพการให้บริการด้านโลจิสติกส์และการผ่านพิธีการศุลกากรมีมาตรฐานชั้นนำระดับสากล และต้นทุนรวมด้านโลจิสติกส์และค่าใช้จ่ายในการขนส่งระหว่างประเทศลดลงอตาราง แข่ง บอล วัน นี้M98ราคา บอล vipย่างมาก โดยรัฐบาลเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วงได้ประกาศใช้ แผนพัฒนาธุรกิจโลจิสติกส์กว่างซีจ้วงบนเส้นทางการขนส่งเชื่อมทางบกกับทางทะเลสายใหม่แห่งภาคตะวันตก หรือ NWLSC (ระหว่างปี 2562-2568) โดยกำหนดให้ นครหนานหนิง เป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ระหว่างประเทศมุ่งสู่อาเซียน นอกจากนี้ กว่างซี มีเส้นทางรถไฟความเร็วสูงหรือไฮสปีดเทรน ซึ่งเป็นเส้นทางที่ใกล้เวียดนาม กรุยทางโครงข่ายรถไฟ เชื่อมเวียดนาม – กัมพูชา – ไทย – มาเลเซีย – สิงคโปร์ซึ่งมีจะเป็นส่วนหนึ่งของโครงข่ายทางรถไฟสายทรานซ์-เอเชีย (Trans-Asia Railway Network) เชื่อมกับประเทศเวียดนาม ผ่านกรุงฮานอย-นครโฮจิมินต์ – กัมพูชา – ประเทศไทย – มาเลเซีย – สิงคโปร์ในอนาคต นาย Chen Zhicong ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดศูนย์บริการขนส่งสินค้าของ China Railway Nanning Bureau Group .co.ltd กล่าวว่า ท่าเรือรถไฟนานาชาติหนานหนิง (Nanning International Railway Port) ซึ่งเป็นศูนย์กลางการขนส่งทางรางที่สำคัญในมณฑลกว่างซี (Guangxi) ที่เชื่อมต่อจีนกับภูมิภาคอาเซียนและเส้นทางสายไหมทางบกและทะเล (Belt and Road Initiative: BRI) มีบทบาทสำคัญในด้านการขนส่งสินค้าและการส่งเสริมความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจระหว่างจีนกับประเทศเพื่อนบ้านในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยท่าเรือหนานหนิงเชื่อมต่อกับเส้นทางรถไฟข้ามพรมแดนที่มุ่งสู่ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น เวียดนาม ลาว ไทย และกัมพูชา ทำให้สามารถขนส่งสินค้าระหว่างจีนกับประเทศเหล่านี้ได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ผลประโยชน์ที่ได้ได้รับจากการพัฒนาท่าเรือดังกล่าวของจีน คือ การขนส่งที่รวดเร็วขึ้น เนื่องจากท่าเรือรถไฟนานาชาติหนานหนิงช่วยเชื่อมต่อเส้นทางขนส่งสินค้าระหว่างไทยและจีนได้รวดเร็วและสะดวกยิ่งขึ้นไม่ต้องพึ่งพาการขนส่งทางเรือเพียงอย่างเดียว ทำให้ช่วยลดระยะเวลาในการขนส่งสินค้า นอกจากนี้ยังเป็นการเพิ่มโอกาสให้กับสินค้าสินค้าเกษตรและผลไม้ไทย เพราะท่าเรือรถไฟนานาชาติหนานหนิงเป็นจุดเชื่อมสำคัญสำหรับการส่งออกผลไม้สดจากไทย เช่น ทุเรียน มังคุด ลำไย ไปยังตลาดจีน ซึ่งช่วยเพิ่มยอดการส่งออกและขยายตลาดของสินค้าไทย สำหรับผู้ประกอบการไทย ท่าเรือหนานหนิง เป็นโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยได้ขยายธุรกิจไปยังตลาดจีนและอาเซียนมากขึ้นมีความสะดวกในการเข้าถึงทั้งด้านการขนส่งและโลจิสติกส์ สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน ซึ่งสามารถส่งเสริมให้เกิดการลงทุนในภูมิภาคและความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างไทยและจีน ซึ่งจะช่วยสร้างการเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งระหว่างจีนกับอาเซียน ซึ่งไทยได้รับประโยชน์ในด้านการขยายการค้าระหว่างประเทศและการลงทุน นาย Chen กล่าวอีกว่า ท่าเรือนี้เป็นจุดเชื่อมต่อหลักสำหรับเส้นทางรถไฟจีน-ยุโรป (China-Europe Railway Express) และเส้นทางรถไฟข้ามพรมแดนที่มุ่งสู่ประเทศอาเซียน ผ่านทางเขตเศรษฐกิจพิเศษจีน-อาเซียน ทำให้การขนส่งสินค้าเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนาเส้นทางรถไฟเชื่อมต่อไปยังเมืองใหญ่อื่น ๆ ในจีน เช่น ฉงชิ่ง เฉิงตู และกวางโจว ซึ่งช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจระหว่างภูมิภาค โดยท่าเรือรถไฟนานาชาติหนานหนิงเป็นตัวกระตุ้นสำคัญในการส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งช่วยเพิ่มการแลกเปลี่ยนสินค้าระหว่างจีนกับประเทศอาเซียน เช่น ผลไม้สดจากไทย วัตถุดิบจากเวียดนาม และสินค้าอุตสาหกรรมจากลาว ด้านนาย Zhao Haiyan ประธานบริษัท Guangxi Xinzhong Industrial Investment Co. LTD. กล่าวว่า ศูนย์รวมสินค้าพิเศษจีน-อาเซียน (China-ASEAN Featured Commodity Convergence Center) ตั้งอยู่ในสวนโลจิสติกส์นานาชาติหนานหนิงร่วมกับสิงคโปร์ ซึ่งเป็นโครงการสำคัญของมณฑลกว่างซีในการส่งเสริมการสร้างทางเดินบก-ทะเลใหม่ในจีนตะวันตก โดยศูนย์นี้ได้รับการลงทุนและก่อสร้างจากบริษัท Taiping Shipping ของสิงคโปร์ เป็นแพลตฟอร์มการชอปปิ้งแบบครบวงจรจีน-อาเซียนที่สร้างขึ้น ศูนย์ดังกล่าวช่วยให้พ่อค้าได้สำรวจตลาดได้ดียิ่งขึ้น และมุ่งหวังที่จะเป็นจุดเริ่มต้นแรกสำหรับพ่อค้าอาเซียนในการเข้าสู่ตลาดจีน รวมทั้งเป็นช่องทางให้พ่อค้าในจีนขยายตลาดไปยังต่างประเทศ โดยศูนย์รวมสินค้าพิเศษจีน-อาเซียน ปัจจุบันศูนย์ฯ มีสินค้าจำหน่ายประมาณ 5,000 ประเภท และมีผู้เยี่ยมชมเฉลี่ยประมาณ 4,000-5,000 คนต่อเดือน "การพัฒนาที่สวนโลจิสติกส์นี้แสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์และความมีประสิทธิภาพของกลยุทธ์ทางเดินบก-ทะเลใหม่ และยังเสริมสร้างความมั่นใจและความมุ่งมั่นในการลงทุนของเรา" นาย Zhao Haiyan กล่าว สำหรับมณฑลกว่างซี ถือว่าเป็นประตูสู่อาเซียน และหนานหนิง เป็นศูนย์กลางที่สำคัญของช่องทางการค้าใหม่ระหว่างบกและทะเลระหว่างประเทศ ส่งผลให้ มณฑลกวางสีได้กลายเป็น “new hot land” สำหรับการลงทุนจากทั่วโลก โดยเฉพาะในหนานหนิง จะไม่เพียงแต่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับพ่อค้าอาเซียนในการเข้าสู่ตลาดจีน แต่ยังช่วยให้ผู้บริโภคสามารถซื้อสินค้าพิเศษจากอาเซียนได้ตลอดเวลา ปัจจุบัน ศูนย์รวมสินค้าพิเศษจีน-อาเซียนมีความเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับอาเซียน มีการจัดกิจกรรมธุรกิจต่าง ๆ รวมถึงการโปรโมตผลิตภัณฑ์ประมาณ 200 กิจกรรม เพื่อดึงดูดให้ผู้ค้าในจีนเข้ามาทำการค้ากับอาเซียน นอกจากนี้ยังได้สร้างแพลตฟอร์มดิจิทัลออนไลน์ B2C และ B2B เพื่อช่วยผู้ประกอบการขยายฐานลูกค้า และยังเป็นแพลตฟอร์มสำคัญสำหรับกิจกรรมทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างจีนและประเทศอาเซียน โดยในปี 2566 บริษัทมีแผนแผนที่จะสร้างศูนย์การค้าผลไม้จีน-อาเซียน เรียกสั้นๆ ว่า ศูนย์การค้าผลไม้ ซึ่งจะเป็นศูนย์กระจายผลไม้ระหว่างจีนและอาเซียน และขยายขนาดการนำเข้าและส่งออกผลไม้ระหว่างสองฝ่าย นาย Zhao ระบุ จะใช้โอกาสจากการก่อสร้างทางเดินใหม่ทางทะเล-บกในอนาคตเพื่อส่งเสริมการก่อสร้างและพัฒนาพื้นที่โลจิสติกส์จีน-สิงคโปร์อย่างต่อเนื่อง โดยใช้กลยุทธ์ ดึงดูดธุรกิจ เพื่อดึงดูดแบรนด์ต่างๆ เข้ามาในพื้นที่โลจิสติกส์จีน-สิงคโปร์มากยิ่งขึ้น สิงคโปร์โลจิสติกส์พาร์ค (Singapore Nanning International Logistics Park) ตั้งอยู่ในเมืองหนานหนิง มณฑลกว่างซี ประเทศจีน เกิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่างจีนและสิงคโปร์ จากโครงการพัฒนาความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาค ซึ่งมีความสำคัญในการสนับสนุนการขนส่งสินค้าและการเชื่อมโยงทางโลจิสติกส์ระหว่างจีนกับประเทศในกลุ่มอาเซียน จุดเด่นของสิงคโปร์โลจิสติกส์พาร์ค คือ เป็นศูนย์โลจิสติกส์ที่ทันสมัย มีระบบการจัดเก็บสินค้า การขนส่ง และกระจายสินค้าไปยังประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ มีการการเชื่อมโยงกับช่องทางการขนส่งหลากหลาย ทั้งทางบก (ทางรถไฟและถนน) ทางทะเล (ท่าเรือ) และทางอากาศ ทำให้สามารถขนส่งสินค้าระหว่างจีนและอาเซียนได้อย่างรวดเร็วและมีความยืดหยุ่น และยังเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ New International Land-Sea Trade Corridor ซึ่งเป็นเส้นทางการขนส่งสินค้าที่เชื่อมจีนตะวันตกกับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผ่านมณฑลกวางสี และสามารถขนส่งไปยังภูมิภาคอื่น ๆ ของโลกได้ รวมถึงเป็นจุดสำคัญที่ช่วยให้ผลไม้ไทย เช่น ทุเรียน ลำไย และมังคุด สามารถส่งออกไปยังจีนได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งช่วยเพิ่มโอกาสการค้าและการส่งออกของไทย สิงคโปร์โลจิสติกส์พาร์คถือเป็นตัวอย่างของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านโลจิสติกส์ที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของภูมิภาคอาเซียน และมีศักยภาพในการเชื่อมโยงประเทศในภูมิภาคให้เข้ากับเศรษฐกิจโลกอย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับการก่อสร้างคลองผิงลู่ ซึ่งเป็นโครงการโลจิสติกส์ในอนาคตที่เชื่อมโยงจีนตะวันตกกับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และตลาดโลก คืบหน้าไปกว่า 50% คาดว่าจะเริ่มดำเนินการทดลองภายในปี 2569 คลองผิงลู่ ตั้งอยู่ในเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง ทางตอนใต้ของจีน เริ่มก่อสร้างปี2565 เงินลงทุนรวม 72.7 พันล้านหยวน หรือประมาณ 343 พันล้านบาท เป็นส่วนหนึ่งของแผนห้าปีที่ 14 ของจีน (พ.ศ. 2564-2568) และแผนแม่บท New Western Land and Sea Corridor (NWLSC) โดยคลองยาว 134.2 กิโลเมตร เชื่อมต่ออ.เหิงโจวในหนานหนิงกับอ่าวเป่ยปู้ มีล็อคเรือ 3 อัน เพื่อให้สามารถผ่านเรือขนาด 5,000 ตันได้ เมื่อสร้างเสร็จคลองนี้จะช่วยลดเวลาการขนส่งเหลือ 15-17 ชั่วโมง คลองผิงลู่เส้นทางการขนส่งทางเรือที่จะช่วยร่นระยะเวลาในการขนส่งสินค้า คลองผิงลู่เส้นทางการขนส่งทางเรือที่จะช่วยร่นระยะเวลาในการขนส่งสินค้า นายหยวน เป็ง รองผู้อำนวยการฝ่ายวิศวกรรม บริษัท ผิงลู่ คาแนล กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า การก่อสร้างคลองผิงลู่ แตกต่างจากคลองปานามาและคลองสุเอซในแง่ของลักษณะทางภูมิศาสตร์ การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ และการเน้นการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2569 และจะเริ่มทดลองเปิดใช้บริการในเดือน ธ.ค.2569 โดยจะมีปริมาณการขนส่งสินค้าต่อปีสูงถึง 95 ล้านตัน และเพิ่มขึ้นเป็น 150 ล้านตันภายในปี 2593 สามารถรองรับเรือบรรทุกสินค้าขนาดใหญ่ได้ถึง 5,000 ตัน ซึ่งจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการขนส่งของภูมิภาคนี้ "ที่ผ่านมาการขนส่งระหว่างจีนและต่างประเทศ ต้องอ้อมผ่านมณฑลกวางตุ้งทางตะวันออกซึ่งใช้ระยะเวลาในการเดินทางค่อนข้างนาน แต่การมีคลองปิงลู่นี้จะช่วยลดระยะทางในการขนส่งของจีนไปยังต่างประเทศได้ถึง 600 กม." นายหยวน เป็ง บอกว่า การใช้คลองผิงลู่ขนส่งสินค้า นอกจากจะช่วยร่นระยะในการเดินทางแล้ว ยังเป็นการเพิ่มโอกาสให้สินค้าเกษตรจากไทยเข้าสู่ตลาดจีนอีกด้วย เพราะสามารถขนส่งผ่านไปยังหนานหนิง จากนั้นผ่านขึ้นโดยใช้ทางรถไฟไปยังตอนกลางของประเทศจีน รวมถึงมณฑลเสฉวนและฉงชิ่ง นายหยวน เป็ง รองผู้อำนวยการฝ่ายวิศวกรรม บริษัท ผิงลู่ คาแนล กรุ๊ป จำกัด นายหยวน เป็ง รองผู้อำนวยการฝ่ายวิศวกรรม บริษัท ผิงลู่ คาแนล กรุ๊ป จำกัด สำหรับมณฑลฉงชิ่ง (Chongqing) มีบทบาทสำคัญในตลาดจีน โดยเฉพาะสินค้าไทยที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมอาหาร การเกษตร และการท่องเที่ยว ได้รับความนิยมอย่างมากจากผู้บริโภคชาวจีน เนื่องจากคุณภาพและเอกลักษณ์ของสินค้าจากไทย สำหรับสินค้าไทยที่โดดเด่นและได้รับความนิยม คือ ผลไม้ไทย โดยเฉพาะทุเรียน มีการนำเข้าทุเรียนสดและแปรรูปเข้ามาจำหน่ายในตลาดอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับมังคุด และ ลำไย มีการนำเข้าทางขนส่งทางอากาศและทางเรือ นอกจากนี้ ยังมีผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องปรุงรส ข้าวหอมมะลิไทย เครื่องปรุงรส เช่น น้ำปลา น้ำพริก น้ำจิ้มต่าง ๆ ผลิตภัณฑ์แปรรูป เช่น ผลไม้แห้ง ขนมขบเคี้ยว และน้ำผลไม้แปรรูป เป็นที่นิยมในกลุ่มผู้บริโภคชาวจีน ส่วนผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงาม เช่น สมุนไพรไทย เช่น สารสกัดจากขมิ้นและว่านหางจระเข้ รวมไปถึงสินค้าแฟชั่นและหัตถกรรม ได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคจีน โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ที่ชื่นชอบสินค้าที่มีเอกลักษณ์และผลิตด้วยมือเช่นกัน อย่างไรก็ตาม การค้าออนไลน์ เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ทำให้สินค้าไทยสามารถเข้าถึงผู้บริโภคในฉงชิ่งได้ง่ายยิ่งขึ้น โดยผ่านแพลตฟอร์ม E-commerce ยักษ์ใหญ่ของจีน เช่น Tmall, JD.com, และ Pinduoduo มณฑลฉงชิ่ง (Chongqing) เป็นหนึ่งในเมืองและเขตปกครองพิเศษของจีน ซึ่งมีความสำคัญทางเศรษฐกิจอย่างมาก โดยเฉพาะในฐานะเมืองใหญ่ในภูมิภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีน มีการพัฒนาทางเศรษฐกิจที่โดดเด่น เช่น การผลิต อุตสาหกรรมไฮเทค โลจิสติกส์ และการบริการ และเป็นศูนย์กลางการผลิตขนาดใหญ่ โดยเฉพาะการผลิตยานยนต์และอิเล็กทรอนิกส์ ที่ใหญ่ที่สุดของจีน มีโรงงานผลิตของบริษัทต่างชาติ เช่น Ford, Honda และ Changan และอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ เช่น การผลิตคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือ ซึ่งรัฐบาลท้องถิ่นได้ส่งเสริมการลงทุนในด้านเทคโนโลยี เพื่อเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจให้สอดคล้องกับนโยบายของประเทศจีนในการพัฒนานวัตกรรมและความยั่งยืน “ทำเลที่ตั้งที่เป็นศูนย์กลางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ทำให้ฉงชิ่ง เป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ที่เชื่อมโยงกับเส้นทางสายไหมใหม่ (Belt and Road Initiative) มีการพัฒนาทางรถไฟเชื่อมต่อกับยุโรป โดยเฉพาะเส้นทางรถไฟ Chongqing-Xinjiang-Europe ที่ช่วยลดเวลาในการขนส่งสินค้าไปยุโรปและอาเซียนได้มาก” อ่านข่าว: ขุมทรัพย์“เบนิน” เส้นทางผ่านส่งออก“ข้าวไทย” สู่ ทวีปแอฟริกา พิษสินค้าจีนถล่มตลาดอาเซียน กกร.ชี้ 667 โรงงาน ระส่ำปิดตัว Temu "สึนามิ"อีคอมเมิร์ซ รุกคืบกินเรียบสินค้าไทย
วันนี้ (4 เม.ย.2568) ศูนย์รับแจ้งเพื่อตรวจสอบความเสียหายของอาคารที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว (ศรต.ย
วันนี้ (19 ธ.ค.2566) นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวถึงกรณีการตร
วันนี้ (23 ส.ค.2567) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ กล่าวถึงชื่อรัฐมนตรีใหม่นั้
เดือนธ.ค. 2569 จีนจะเปิดทดลองเดินเรือ ในคลองผิงลู่ เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วงทางตอนใต้ของจีน โครงการสำคัญบนระเบียงการค้าทางบก-ทางทะเล เชื่อมโยงอาเซียน-ตลาดโลก คลองดังกล่าว มีความยาว 134.2 กิโลเมตร จากอ่างเก็บน้ำซีจินในเมืองเหิงโจว ไปท่าเรือชินโจว ในอำเภอเหลียงซานของมณฑลกว่างซี โดยเรือขนส่งสินค้าสามารถเข้าถึงอ่าวเป่ยปู้ ผ่านแม่น้ำชินเจียง เป็นเส้นทางลัดสู่ทะเลของมณฑลกว่างซีและภูมิภาคอื่นๆ ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ถือเป็นศูนย์กลางเส้นทางขนส่งบกเชื่อมทะเลสายใหม่ คลองผิงลู่เส้นทางการขนส่งทางเรือที่จะช่วยร่นระยะเวลาในการขนส่งสินค้า คลองผิงลู่เส้นทางการขนส่งทางเรือที่จะช่วยร่นระยะเวลาในการขนส่งสินค้า หากเอ่ยชื่อ ยักษ์ใหญ่แห่งอาเซียน คงหนีไม่พ้น “สาธารณรัฐประชาชนจีน” ประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองของโลก รองจากสหรัฐอเมริกา มีการเติบโตทางเศรษฐกิจที่สูงมาก ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยี ระบบสาธารณูปโภค ระบบขนส่งสาธารณะ การพัฒนาระบบโลจิสติกส์ บก ทางอากาศ ทางทะเล และทางราง ครอบคลุมพื้นที่แทบทุกตารางนิ้ว ขยายไปจนถึงประเทศอาเซียนและทั่วโลก เพื่อให้การเดินทาง และการขนส่งสินค้าสะดวกรวดเร็ว ย่นระยะการทำการค้าทั้งภายในและนอกประเทศ “นครหนานหนิง” หนึ่งในมณฑลศูนย์กลางของเส้นทาง NWLSC ที่มี เส้นทางขนส่งเชื่อมทางทะเลและรถไฟ เป็นเส้นทางหลัก (ท่าเรือทะเล) และมี เส้นทางขนส่งเชื่อมทางรถไฟ+ถนน เป็นเส้นทางเสริม (ด่านชายแดน) ในการเชื่อมโยงพื้นที่ภาคตะวันตกไปยังท่าเรือรอบอ่าวเป่ยปู้ กว่างซี และด่านชายแดนสำคัญของกว่างซี(จีน)-เวียดนาม รัฐบาลกว่างซีตั้งเป้าหมายว่า ในปี 2578 โครงข่ายเส้นทาง NWLSC จะเสร็จสมบูรณ์ เส้นทางขนส่งเส้นหลักทุกเส้นจะมาบรรจบที่กว่างซี ภาคธุรกิจสามารถใช้ประโยชน์จากการขนส่งแบบต่อเนื่องหลายรูปแบบได้เต็มที่ ประสิทธิภาพการให้บริการด้านโลจิสติกส์และการผ่านพิธีการศุลกากรมีมาตรฐานชั้นนำระดับสากล และต้นทุนรวมด้านโลจิสติกส์และค่าใช้จ่ายในการขนส่งระหว่างประเทศลดลงอตาราง แข่ง บอล วัน นี้M98ราคา บอล vipย่างมาก โดยรัฐบาลเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วงได้ประกาศใช้ แผนพัฒนาธุรกิจโลจิสติกส์กว่างซีจ้วงบนเส้นทางการขนส่งเชื่อมทางบกกับทางทะเลสายใหม่แห่งภาคตะวันตก หรือ NWLSC (ระหว่างปี 2562-2568) โดยกำหนดให้ นครหนานหนิง เป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ระหว่างประเทศมุ่งสู่อาเซียน นอกจากนี้ กว่างซี มีเส้นทางรถไฟความเร็วสูงหรือไฮสปีดเทรน ซึ่งเป็นเส้นทางที่ใกล้เวียดนาม กรุยทางโครงข่ายรถไฟ เชื่อมเวียดนาม – กัมพูชา – ไทย – มาเลเซีย – สิงคโปร์ซึ่งมีจะเป็นส่วนหนึ่งของโครงข่ายทางรถไฟสายทรานซ์-เอเชีย (Trans-Asia Railway Network) เชื่อมกับประเทศเวียดนาม ผ่านกรุงฮานอย-นครโฮจิมินต์ – กัมพูชา – ประเทศไทย – มาเลเซีย – สิงคโปร์ในอนาคต นาย Chen Zhicong ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดศูนย์บริการขนส่งสินค้าของ China Railway Nanning Bureau Group .co.ltd กล่าวว่า ท่าเรือรถไฟนานาชาติหนานหนิง (Nanning International Railway Port) ซึ่งเป็นศูนย์กลางการขนส่งทางรางที่สำคัญในมณฑลกว่างซี (Guangxi) ที่เชื่อมต่อจีนกับภูมิภาคอาเซียนและเส้นทางสายไหมทางบกและทะเล (Belt and Road Initiative: BRI) มีบทบาทสำคัญในด้านการขนส่งสินค้าและการส่งเสริมความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจระหว่างจีนกับประเทศเพื่อนบ้านในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยท่าเรือหนานหนิงเชื่อมต่อกับเส้นทางรถไฟข้ามพรมแดนที่มุ่งสู่ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น เวียดนาม ลาว ไทย และกัมพูชา ทำให้สามารถขนส่งสินค้าระหว่างจีนกับประเทศเหล่านี้ได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ผลประโยชน์ที่ได้ได้รับจากการพัฒนาท่าเรือดังกล่าวของจีน คือ การขนส่งที่รวดเร็วขึ้น เนื่องจากท่าเรือรถไฟนานาชาติหนานหนิงช่วยเชื่อมต่อเส้นทางขนส่งสินค้าระหว่างไทยและจีนได้รวดเร็วและสะดวกยิ่งขึ้นไม่ต้องพึ่งพาการขนส่งทางเรือเพียงอย่างเดียว ทำให้ช่วยลดระยะเวลาในการขนส่งสินค้า นอกจากนี้ยังเป็นการเพิ่มโอกาสให้กับสินค้าสินค้าเกษตรและผลไม้ไทย เพราะท่าเรือรถไฟนานาชาติหนานหนิงเป็นจุดเชื่อมสำคัญสำหรับการส่งออกผลไม้สดจากไทย เช่น ทุเรียน มังคุด ลำไย ไปยังตลาดจีน ซึ่งช่วยเพิ่มยอดการส่งออกและขยายตลาดของสินค้าไทย สำหรับผู้ประกอบการไทย ท่าเรือหนานหนิง เป็นโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยได้ขยายธุรกิจไปยังตลาดจีนและอาเซียนมากขึ้นมีความสะดวกในการเข้าถึงทั้งด้านการขนส่งและโลจิสติกส์ สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน ซึ่งสามารถส่งเสริมให้เกิดการลงทุนในภูมิภาคและความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างไทยและจีน ซึ่งจะช่วยสร้างการเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งระหว่างจีนกับอาเซียน ซึ่งไทยได้รับประโยชน์ในด้านการขยายการค้าระหว่างประเทศและการลงทุน นาย Chen กล่าวอีกว่า ท่าเรือนี้เป็นจุดเชื่อมต่อหลักสำหรับเส้นทางรถไฟจีน-ยุโรป (China-Europe Railway Express) และเส้นทางรถไฟข้ามพรมแดนที่มุ่งสู่ประเทศอาเซียน ผ่านทางเขตเศรษฐกิจพิเศษจีน-อาเซียน ทำให้การขนส่งสินค้าเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนาเส้นทางรถไฟเชื่อมต่อไปยังเมืองใหญ่อื่น ๆ ในจีน เช่น ฉงชิ่ง เฉิงตู และกวางโจว ซึ่งช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจระหว่างภูมิภาค โดยท่าเรือรถไฟนานาชาติหนานหนิงเป็นตัวกระตุ้นสำคัญในการส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งช่วยเพิ่มการแลกเปลี่ยนสินค้าระหว่างจีนกับประเทศอาเซียน เช่น ผลไม้สดจากไทย วัตถุดิบจากเวียดนาม และสินค้าอุตสาหกรรมจากลาว ด้านนาย Zhao Haiyan ประธานบริษัท Guangxi Xinzhong Industrial Investment Co. LTD. กล่าวว่า ศูนย์รวมสินค้าพิเศษจีน-อาเซียน (China-ASEAN Featured Commodity Convergence Center) ตั้งอยู่ในสวนโลจิสติกส์นานาชาติหนานหนิงร่วมกับสิงคโปร์ ซึ่งเป็นโครงการสำคัญของมณฑลกว่างซีในการส่งเสริมการสร้างทางเดินบก-ทะเลใหม่ในจีนตะวันตก โดยศูนย์นี้ได้รับการลงทุนและก่อสร้างจากบริษัท Taiping Shipping ของสิงคโปร์ เป็นแพลตฟอร์มการชอปปิ้งแบบครบวงจรจีน-อาเซียนที่สร้างขึ้น ศูนย์ดังกล่าวช่วยให้พ่อค้าได้สำรวจตลาดได้ดียิ่งขึ้น และมุ่งหวังที่จะเป็นจุดเริ่มต้นแรกสำหรับพ่อค้าอาเซียนในการเข้าสู่ตลาดจีน รวมทั้งเป็นช่องทางให้พ่อค้าในจีนขยายตลาดไปยังต่างประเทศ โดยศูนย์รวมสินค้าพิเศษจีน-อาเซียน ปัจจุบันศูนย์ฯ มีสินค้าจำหน่ายประมาณ 5,000 ประเภท และมีผู้เยี่ยมชมเฉลี่ยประมาณ 4,000-5,000 คนต่อเดือน "การพัฒนาที่สวนโลจิสติกส์นี้แสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์และความมีประสิทธิภาพของกลยุทธ์ทางเดินบก-ทะเลใหม่ และยังเสริมสร้างความมั่นใจและความมุ่งมั่นในการลงทุนของเรา" นาย Zhao Haiyan กล่าว สำหรับมณฑลกว่างซี ถือว่าเป็นประตูสู่อาเซียน และหนานหนิง เป็นศูนย์กลางที่สำคัญของช่องทางการค้าใหม่ระหว่างบกและทะเลระหว่างประเทศ ส่งผลให้ มณฑลกวางสีได้กลายเป็น “new hot land” สำหรับการลงทุนจากทั่วโลก โดยเฉพาะในหนานหนิง จะไม่เพียงแต่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับพ่อค้าอาเซียนในการเข้าสู่ตลาดจีน แต่ยังช่วยให้ผู้บริโภคสามารถซื้อสินค้าพิเศษจากอาเซียนได้ตลอดเวลา ปัจจุบัน ศูนย์รวมสินค้าพิเศษจีน-อาเซียนมีความเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับอาเซียน มีการจัดกิจกรรมธุรกิจต่าง ๆ รวมถึงการโปรโมตผลิตภัณฑ์ประมาณ 200 กิจกรรม เพื่อดึงดูดให้ผู้ค้าในจีนเข้ามาทำการค้ากับอาเซียน นอกจากนี้ยังได้สร้างแพลตฟอร์มดิจิทัลออนไลน์ B2C และ B2B เพื่อช่วยผู้ประกอบการขยายฐานลูกค้า และยังเป็นแพลตฟอร์มสำคัญสำหรับกิจกรรมทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างจีนและประเทศอาเซียน โดยในปี 2566 บริษัทมีแผนแผนที่จะสร้างศูนย์การค้าผลไม้จีน-อาเซียน เรียกสั้นๆ ว่า ศูนย์การค้าผลไม้ ซึ่งจะเป็นศูนย์กระจายผลไม้ระหว่างจีนและอาเซียน และขยายขนาดการนำเข้าและส่งออกผลไม้ระหว่างสองฝ่าย นาย Zhao ระบุ จะใช้โอกาสจากการก่อสร้างทางเดินใหม่ทางทะเล-บกในอนาคตเพื่อส่งเสริมการก่อสร้างและพัฒนาพื้นที่โลจิสติกส์จีน-สิงคโปร์อย่างต่อเนื่อง โดยใช้กลยุทธ์ ดึงดูดธุรกิจ เพื่อดึงดูดแบรนด์ต่างๆ เข้ามาในพื้นที่โลจิสติกส์จีน-สิงคโปร์มากยิ่งขึ้น สิงคโปร์โลจิสติกส์พาร์ค (Singapore Nanning International Logistics Park) ตั้งอยู่ในเมืองหนานหนิง มณฑลกว่างซี ประเทศจีน เกิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่างจีนและสิงคโปร์ จากโครงการพัฒนาความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาค ซึ่งมีความสำคัญในการสนับสนุนการขนส่งสินค้าและการเชื่อมโยงทางโลจิสติกส์ระหว่างจีนกับประเทศในกลุ่มอาเซียน จุดเด่นของสิงคโปร์โลจิสติกส์พาร์ค คือ เป็นศูนย์โลจิสติกส์ที่ทันสมัย มีระบบการจัดเก็บสินค้า การขนส่ง และกระจายสินค้าไปยังประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ มีการการเชื่อมโยงกับช่องทางการขนส่งหลากหลาย ทั้งทางบก (ทางรถไฟและถนน) ทางทะเล (ท่าเรือ) และทางอากาศ ทำให้สามารถขนส่งสินค้าระหว่างจีนและอาเซียนได้อย่างรวดเร็วและมีความยืดหยุ่น และยังเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ New International Land-Sea Trade Corridor ซึ่งเป็นเส้นทางการขนส่งสินค้าที่เชื่อมจีนตะวันตกกับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผ่านมณฑลกวางสี และสามารถขนส่งไปยังภูมิภาคอื่น ๆ ของโลกได้ รวมถึงเป็นจุดสำคัญที่ช่วยให้ผลไม้ไทย เช่น ทุเรียน ลำไย และมังคุด สามารถส่งออกไปยังจีนได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งช่วยเพิ่มโอกาสการค้าและการส่งออกของไทย สิงคโปร์โลจิสติกส์พาร์คถือเป็นตัวอย่างของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านโลจิสติกส์ที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของภูมิภาคอาเซียน และมีศักยภาพในการเชื่อมโยงประเทศในภูมิภาคให้เข้ากับเศรษฐกิจโลกอย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับการก่อสร้างคลองผิงลู่ ซึ่งเป็นโครงการโลจิสติกส์ในอนาคตที่เชื่อมโยงจีนตะวันตกกับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และตลาดโลก คืบหน้าไปกว่า 50% คาดว่าจะเริ่มดำเนินการทดลองภายในปี 2569 คลองผิงลู่ ตั้งอยู่ในเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง ทางตอนใต้ของจีน เริ่มก่อสร้างปี2565 เงินลงทุนรวม 72.7 พันล้านหยวน หรือประมาณ 343 พันล้านบาท เป็นส่วนหนึ่งของแผนห้าปีที่ 14 ของจีน (พ.ศ. 2564-2568) และแผนแม่บท New Western Land and Sea Corridor (NWLSC) โดยคลองยาว 134.2 กิโลเมตร เชื่อมต่ออ.เหิงโจวในหนานหนิงกับอ่าวเป่ยปู้ มีล็อคเรือ 3 อัน เพื่อให้สามารถผ่านเรือขนาด 5,000 ตันได้ เมื่อสร้างเสร็จคลองนี้จะช่วยลดเวลาการขนส่งเหลือ 15-17 ชั่วโมง คลองผิงลู่เส้นทางการขนส่งทางเรือที่จะช่วยร่นระยะเวลาในการขนส่งสินค้า คลองผิงลู่เส้นทางการขนส่งทางเรือที่จะช่วยร่นระยะเวลาในการขนส่งสินค้า นายหยวน เป็ง รองผู้อำนวยการฝ่ายวิศวกรรม บริษัท ผิงลู่ คาแนล กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า การก่อสร้างคลองผิงลู่ แตกต่างจากคลองปานามาและคลองสุเอซในแง่ของลักษณะทางภูมิศาสตร์ การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ และการเน้นการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2569 และจะเริ่มทดลองเปิดใช้บริการในเดือน ธ.ค.2569 โดยจะมีปริมาณการขนส่งสินค้าต่อปีสูงถึง 95 ล้านตัน และเพิ่มขึ้นเป็น 150 ล้านตันภายในปี 2593 สามารถรองรับเรือบรรทุกสินค้าขนาดใหญ่ได้ถึง 5,000 ตัน ซึ่งจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการขนส่งของภูมิภาคนี้ "ที่ผ่านมาการขนส่งระหว่างจีนและต่างประเทศ ต้องอ้อมผ่านมณฑลกวางตุ้งทางตะวันออกซึ่งใช้ระยะเวลาในการเดินทางค่อนข้างนาน แต่การมีคลองปิงลู่นี้จะช่วยลดระยะทางในการขนส่งของจีนไปยังต่างประเทศได้ถึง 600 กม." นายหยวน เป็ง บอกว่า การใช้คลองผิงลู่ขนส่งสินค้า นอกจากจะช่วยร่นระยะในการเดินทางแล้ว ยังเป็นการเพิ่มโอกาสให้สินค้าเกษตรจากไทยเข้าสู่ตลาดจีนอีกด้วย เพราะสามารถขนส่งผ่านไปยังหนานหนิง จากนั้นผ่านขึ้นโดยใช้ทางรถไฟไปยังตอนกลางของประเทศจีน รวมถึงมณฑลเสฉวนและฉงชิ่ง นายหยวน เป็ง รองผู้อำนวยการฝ่ายวิศวกรรม บริษัท ผิงลู่ คาแนล กรุ๊ป จำกัด นายหยวน เป็ง รองผู้อำนวยการฝ่ายวิศวกรรม บริษัท ผิงลู่ คาแนล กรุ๊ป จำกัด สำหรับมณฑลฉงชิ่ง (Chongqing) มีบทบาทสำคัญในตลาดจีน โดยเฉพาะสินค้าไทยที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมอาหาร การเกษตร และการท่องเที่ยว ได้รับความนิยมอย่างมากจากผู้บริโภคชาวจีน เนื่องจากคุณภาพและเอกลักษณ์ของสินค้าจากไทย สำหรับสินค้าไทยที่โดดเด่นและได้รับความนิยม คือ ผลไม้ไทย โดยเฉพาะทุเรียน มีการนำเข้าทุเรียนสดและแปรรูปเข้ามาจำหน่ายในตลาดอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับมังคุด และ ลำไย มีการนำเข้าทางขนส่งทางอากาศและทางเรือ นอกจากนี้ ยังมีผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องปรุงรส ข้าวหอมมะลิไทย เครื่องปรุงรส เช่น น้ำปลา น้ำพริก น้ำจิ้มต่าง ๆ ผลิตภัณฑ์แปรรูป เช่น ผลไม้แห้ง ขนมขบเคี้ยว และน้ำผลไม้แปรรูป เป็นที่นิยมในกลุ่มผู้บริโภคชาวจีน ส่วนผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงาม เช่น สมุนไพรไทย เช่น สารสกัดจากขมิ้นและว่านหางจระเข้ รวมไปถึงสินค้าแฟชั่นและหัตถกรรม ได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคจีน โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ที่ชื่นชอบสินค้าที่มีเอกลักษณ์และผลิตด้วยมือเช่นกัน อย่างไรก็ตาม การค้าออนไลน์ เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ทำให้สินค้าไทยสามารถเข้าถึงผู้บริโภคในฉงชิ่งได้ง่ายยิ่งขึ้น โดยผ่านแพลตฟอร์ม E-commerce ยักษ์ใหญ่ของจีน เช่น Tmall, JD.com, และ Pinduoduo มณฑลฉงชิ่ง (Chongqing) เป็นหนึ่งในเมืองและเขตปกครองพิเศษของจีน ซึ่งมีความสำคัญทางเศรษฐกิจอย่างมาก โดยเฉพาะในฐานะเมืองใหญ่ในภูมิภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีน มีการพัฒนาทางเศรษฐกิจที่โดดเด่น เช่น การผลิต อุตสาหกรรมไฮเทค โลจิสติกส์ และการบริการ และเป็นศูนย์กลางการผลิตขนาดใหญ่ โดยเฉพาะการผลิตยานยนต์และอิเล็กทรอนิกส์ ที่ใหญ่ที่สุดของจีน มีโรงงานผลิตของบริษัทต่างชาติ เช่น Ford, Honda และ Changan และอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ เช่น การผลิตคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือ ซึ่งรัฐบาลท้องถิ่นได้ส่งเสริมการลงทุนในด้านเทคโนโลยี เพื่อเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจให้สอดคล้องกับนโยบายของประเทศจีนในการพัฒนานวัตกรรมและความยั่งยืน “ทำเลที่ตั้งที่เป็นศูนย์กลางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ทำให้ฉงชิ่ง เป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ที่เชื่อมโยงกับเส้นทางสายไหมใหม่ (Belt and Road Initiative) มีการพัฒนาทางรถไฟเชื่อมต่อกับยุโรป โดยเฉพาะเส้นทางรถไฟ Chongqing-Xinjiang-Europe ที่ช่วยลดเวลาในการขนส่งสินค้าไปยุโรปและอาเซียนได้มาก” อ่านข่าว: ขุมทรัพย์“เบนิน” เส้นทางผ่านส่งออก“ข้าวไทย” สู่ ทวีปแอฟริกา พิษสินค้าจีนถล่มตลาดอาเซียน กกร.ชี้ 667 โรงงาน ระส่ำปิดตัว Temu "สึนามิ"อีคอมเมิร์ซ รุกคืบกินเรียบสินค้าไทย
จากกรณีเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ เข้าตรวจสอบกรณีเจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์อุทย