วิกฤตโควิด-19 ที่เริ่มต้นมาประมาณปลายปี 2562 ไล่ยาวจนปี 2563 ทั้งปี และยังต่อเนื่องมาจนเดือน ส.ค.256
วันนี้ (10 พ.ย.2564) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย ส.ส.พรรคเพื่อไทย ยื่นหนังสือถึงนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เสนอญัตติด่วนต่อสภา เรื่องขอให้สภาผู้แทนราษฎร ตั้งคณะกรรมาธิการว
วิกฤตโควิด-19 ที่เริ่มต้นมาประมาณปลายปี 2562 ไล่ยาวจนปี 2563 ทั้งปี และยังต่อเนื่องมาจนเดือน ส.ค.2564 หากย้อนไปคงไม่มีใครคาดคิดว่าไวรัสชนิดนี้ จะส่งผลกระทบไปทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยได้ยาวนานขนาดนี้เกิดการกลายพันธุ์ จนเริ่มจดจำชื่อแทบไม่ได้แล้ว ว่ากันว่าวิกฤตโควิด-19 ในครั้งนี้ มีความรุนแรงมากกว่าวิกฤตต้มยำกุ้งเสียอีก เนื่องจากส่งผลกระทบทั้งธุรกิจและประชาชนทั่วไป แตกต่างจากวิกฤตต้มยำกุ้งที่หนี้กระจุกตัวในบางกลุ่มธุรกิจ ซึ่งยังคาดเดาได้ยากว่าวิกฤตนี้จะไปสิ้นสุดที่ตรงไหน จากข้อมูล worldsbesthospitals.net จัดให้โรงพยาบาลสมิติเวชของไทย เป็น 1 ใน 5 สถานพยาบาลดีที่สุดในโลกในปี 2562 สำหรับการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ นอกจากนี้ นิตยสาร CEOWORLD จัดให้ไทยเป็นประเทศที่มีระบบการรักษาพยาบาลดีที่สุดอันดับ 6 ของโลก รองจากไต้หวัน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น รัสเซีย และเดนมาร์ก ขณะที่ Numbeo ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่มีฐานข้อมูลค่าครองชีพและระบบสาธารณสุขใหญ่ที่สุดในโลก จัดให้ไทยอยู่อันดับ 8 สำหรับประเทศที่มีระบบสาธารณสุขดีที่สุดในโลก จากข้อมูล ณ เดือน มิ.ย.2563 ในปี 2563 ธุรกิจโรงพยาบาลเอกชน หากมองอย่างผิวเผินแล้ว ไม่น่าจะส่งผลกระทบมากนัก และน่าจะได้รับผลดีจากการแพร่ระบาดจากโควิด-19 มากกว่า แต่กลับกลายเป็นว่าเป็นธุรกิจที่ได้รับผลกระทบแทบไม่แตกต่างจากธุรกิจอื่นๆ โดยเฉพาะโรงพยาบาลเอกชนที่พึ่งพารายได้จากคนไข้ต่างชาติในสัดส่วนที่สูงอย่างโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ส่วนกลุ่มโรงพยาบาลกรุงเทพ กลับได้รับผลกระทบน้อยกว่า เพราะรายได้จากส่วนนี้น้อยกว่า ขณะที่โรงพยาบาลที่ได้รับอานิสงส์และได้รับผลกระทบค่อนข้างน้อย เช่น โรงพยาบาลเอกชนที่เจาะกลุ่มลูกค้าประกันสุขภาพของภาครัฐ เช่น กลุ่มประกันสังคม ข้าราชการ หรือมีสัดส่วนของลูกค้าประกันสุขภาพในสัดส่วนที่สูง ได้แก่ โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ และโรงพยาบาลจุฬารัตน์ ที่รายได้จากส่วนนี้ค่อนข้างสูง และราคาหุ้นขึ้นไปอย่างโดดเด่นในปีนี้ ทั้งนี้ จากข้อมูลของวิจัยกรุงศรี ที่จำแนกสัดส่วนโครงสร้างรายได้ของโรงพยาบาลเอกชน ส่วนใหญ่มาจากค่ายา ซึ่งมีสัดส่วนสูงที่สุดอยู่ที่ 35.2% ของรายได้ทั้งหมด รองลงมา ได้แก่ รายได้จากบริการทางการแพทย์ 20.0% การวิเคราะห์ผลจากห้องปฏิบัติการและห้องเอ็กซเรย์ 13.7% ห้องพักผู้ป่วย 8.5% และอื่นๆ 22.6% ในปีที่ยากลำบาก โรงพยาบาลหลายแห่งมีการปรับลดค่าใช้จ่าย เพื่อประคับประคองธุรกิจให้รอด มีการจัดโปรแกรมค่ารักษาพยาบาลในราคาพิเศษ เพื่อให้คนไข้สามารถเข้าถึงได้ ท่ามกลางกำลังซื้อที่ยังไม่ฟื้นตัว การชูจุดขายความเฉพาะทางของโรคในแต่ละกลุ่มลูกค้า หรือแม้แต่การผ่อนชำระค่ารักษาพยาบาลที่ยาวนานขึ้น จากการรายงานรายได้และกำไรสุทธิของธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ประจำปี 2563 พบว่าโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ มีรายได้รวม 12,567.83 ล้านบาท กำไรสุทธิ 1,204.14 ล้านบาท จากปี 2562 ที่มีรายได้รวม 18,718.27 ล้านบาท กำไรสุทธิ 3,747.73 ล้านบาท ขณะที่สิ้นสุดไตรมาส 2 ของปี 2564 พบว่ามีรายได้รวม 5,732.26 ล้านบาท กำไรสุทธิ 307.60 ล้านบาท ขณะที่โรงพยาบาลกรุงเทพ ในปี 2563 มีรายได้รวม 69,101.64 ล้านบาท กำไรสุทธิ 7,214.24 ล้านบาท จากปี 2562 ที่มีรายได้รวม 83,893.22 ล้านบาท กำไรสุทธิ 15,517.17 ล้านบาท ขณะที่สิ้นสุดไตรมาส 2 ของปี 2564 พบว่ามีรายได้รวม 33,728.85 ล้านบาท กำไรสุทธิ 2,790.83 ล้านบาท บริษัท บางกอก เชน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน) หรือกลุ่มโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ในปี 2563 มีรายได้รวม 9,021.36 ล้านบาท กำไรสุทธิ 1,229.40 ล้านบาท จากปี 2562 ที่มีรายได้รวม 8,996.28 ล้านบาท กำไรสุทธิ 1,134.91 ล้านบาท ขณะที่สิ้นสุดไตรมาส 2 ของปี 2564 พบว่ามีรายได้รวม 6,715.58 ล้านบาท กำไรสุทธิ 1,469.49 ล้านบาท โรงพยาบาลจุฬารัตน์ ในปี 2563 มีรายได้รวม 5,464.48 ล้านบาท กำไรสุทธิ 876.62 ล้านบาท จากปี 2562 ที่มีรายได้รวม 5,190.87 ล้านบาท กำไรสุทธิ 705.24 ล้านบาท ขณะที่สิ้นสุดไตรมาส 2 ของปี 2564 พบว่ามีรายได้รวม 3,607.78 ล้านบาท กำไรสุทธิ 827.87 ล้านบาท โรงพยาบาลอินเตอร์เมดิคัล แคร์ แอนด์ แล็บ ในปี 2563 มีรายได้รวม 242.55 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 16.61 ล้านบาท จากปี 2562 ที่มีรายได้รวม 336.11 ล้านบาท กำไรสุทธิ 10.50 ล้านบาท ขณะที่สิ้นสุดไตรมาส 2 ของปี 2564 พบว่ามีรายได้รวม 256.99 ล้านบาท กำไรสุทธิ 76.93 ล้านบาท ภายหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอก 3 ตั้งแต่เดือน เม.ย.2564 จนถึงเดือน ส.ค.2564 มีการเร่งการตรวจหาเชื้อเชิงรุกมากขึ้น ตามชุมชนและคลัสเตอร์ต่างๆ ด้วยชุดตรวจโควิด Antigen Test Kit (ATK) และระดมฉีดวัคซีนให้ได้มากที่สุด เพื่อเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ แต่ว่ามีข้อจำกัดจากจำนวนวัคซีนที่มีเข้ามาค่อนข้างน้อยไม่ตรงกับเป้าหมายที่วางไว้ ขณะที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนต้องมีการประกาศล็อกดาวน์รอบล่าสุด รวม 29 จังหวัดสีแดงเข้ม แต่ตัวเลขยังคงเพิ่มขึ้นจนไปแตะที่ระดับวันละกว่า 20,000 คน ก่อนจะลดลงมา ล่าสุด วันนี้ (30 ส.ค.) มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 15,972 คน เสียชีวิต 256 คน ข้อจำกัดที่การตรวจหาเชื้อโควิด-19 แบบ RT-PCR ที่ต้องใช้เวลา 1-2 วัน จึงจะทราบผลตรวจ ทำให้โรงพยาบาลที่มีห้องแล็บ และเน้นตรวจโรคประจำปี อย่างโรงพยาบาลอินเตอร์เมดิคัล แคร์ แอนด์ แล็บ ได้รับอานิสงส์นี้ไป เนื่องจากในช่วงแรก ยังไม่มีชุด ATK ขายตามร้านขายยา ขณะที่โรงพยาบาลหลายแห่ง เช่น โรงพยาบาลวิภาวดี มีการตรวจหาเชื้อแบบ Drive Thru จากจำนวนผู้ติดเชื้อที่เร่งตัวขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ทำให้เตียงในโรงพยาบาลมีไม่เพียงพอ จนต้องมีการตั้งโรงพยาบาลสนาม และ Hospitel ที่เป็นการปรับโรงแรมรองรับผู้ป่วยโควิสล็อต ฟรี เงินด-19 ซึ่งโรงพยาบาลที่ได้รับอานิสงส์ตรงนี้อย่างกลุ่มโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ และโรงพยาบาลอินเตอร์เมดิคัล แคร์ แอนด์ แล็บ ส่วนโรงพยาบาลกรุงเทพมีการตั้งโรงพยาบาลสนามร่วมกับกองทัพอากาศเช่นกัน ในช่วงที่วัคซีนโควิด-19 มีเข้ามาน้อย โรงพยาบาลหลายแห่งมีความพยายามจัดหาวัคซีนโควิด-19 ทางเลือก อย่างวัคซีนโมเดอร์นา ไฟเซอร์ เป็นต้น แต่ติดข้อจำกัดหลายประการ จนกระทั่งต้องยกเลิกการจองฉีดวัคซีนไปในที่สุด แต่ข่าวดีล่าสุด สำนักงานอาหารและยาสหรัฐฯ (FDA) อนุมัติให้ใช้วัคซีนไฟเซอร์เต็มรูปแบบในวันที่ 23 ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งหลังจากนี้ หากไฟเซอร์ขออนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และได้รับอนุญาต จะทำให้โรงพยาบาลเอกชนสามารถจัดหาวัคซีนได้โดยตรง ศูนย์ข้อมูล COVID-19 เปิดเผยข้อมูลจำนวนการได้รับวัคซีนสะสม ตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ. - 28 ส.ค.2564 รวม 30,679,289 โดส ใน 77 จังหวัด เป็นการฉีดเข็มแรก 22,807,078 คน จำนวนผู้ได้รับวัคซีนเข็มที่ 2 ซึ่งเป็นผู้ฉีดวัคซีนครบตามเกณฑ์อยู่ที่ 7,287,885 คน นอกจากนี้ ยังมีผู้ที่ได้รับเข็มกระตุ้นเป็นเข็มที่ 3 ในกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้าเป็นหลักทั้งสิ้น 584,326 คน ส่วนการเปิดประเทศภายใน 120 วัน ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ตั้งเป้าหมายไว้นั้น จากสถานการณ์ล่าสุดที่ผู้ติดเชื้อเริ่มมีน้อยลง และมีผู้ป่วยหายมากขึ้น ทำให้โอกาสกลับมาเปิดประเทศยังมีความเป็นไปได้อยู่เช่นกัน หลังจากมีการนำร่อง ด้วยการเปิดโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ที่เปิดให้ชาวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวได้ และเตรียมขยายพื้นที่ไปยังพื้นที่เกาะต่างๆ ในอนาคต ก่อนหน้านี้ ในช่วงปลายปี 2563 ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่าในปี 2564 คนไข้ชาวต่างชาติที่เข้ารับการรักษาพยาบาลในไทยอาจมีประมาณ 1.57-77 ล้านคน (ครั้ง) เพิ่มขึ้นจากปี 2563 ที่มีจำนวน 1.45 ล้านคน (ครั้ง) ซึ่งตัวเลขดังกล่าวยังไม่กลับเข้าสู่ภาวะปกติที่มีจำนวนคนไข้ต่างชาติเข้ามารับการรักษาพยาบาลอยู่ที่ราว 3.75 ล้านครั้งในปี 2562
กระแส "แม่หญิงลี" หรือ “บุหงาวลัย คงขวัญ” หรือที่ใครหลายคนเรียกว่า "พระมหาเทวีเจ้า" กลายเป็นประเด็นที่สื่อสังคมออนไลน์จับตาและติดตามอย่างต่อเนื่อง หลังเน็ตไอดอลคนดัง ได้รับความนิยมจากการทำคลิปบนเฟซบุ๊