เมื่อวันที่ 13 ม.ค.2564 ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน เข้าพบนายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) พร้อมด้วยนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปล

เมื่อวันที่ 29 ต.ค.2567 คณะรัฐมนตรี( ครม.) มีมติเห็นชอบในหลักการ หลักเกณฑ์เร่งรัดการแก้ไขปัญหาสัญชาติและสถานะบุคคลให้แก่บุคคลที่อพยพเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรเป็นเวลานาน และกลุ่มบุตรที่เกิดในราชอาณาจักร ตามที่สมช.เสนอ เพื่อทดแทนมติ ครม. 7 ธ.ค. 2559 และ 26 ม.ค. 2564 ให้กับบุคคล 4 กลุ่ม รวม 483,626 คน ให้ได้รับสถานะคนต่างด้าวเข้าเมืองโดยชอบด้วยกฎหมาย ใบสำคัญถิ่นที่อยู่ถาวร หรือสัญชาติไทยรวดเร็วมากขึ้น กลุ่มแรก เป็นกลุ่มคนไทยพลัดถิ่นและผู้ที่ไร้สัญชาติ ที่เคยสำรวจไว้ตั้งแต่ปี 2527-2542 มีจำนวน 120,000 คน , กลุ่มที่ 2 สำรวจเมื่อปี 2548-2554 จำนวน 215,000 คน ส่วนกลุ่มที่ 3 กลุ่ม เป็นบุตรที่เกิดในราชอาณาจักรไทย ของชนกลุ่มน้อย มีประมาณ 29,000 คน และสุดท้าย เป็นกลุ่มบุตรที่เกิดในราชอาณาจักรไทย ของบุคคลที่ไม่มีสถา นะทางทะเบียน โดยมีการสำรวจไปแล้วประมาณ 113,000 คน รวมทั้งหมด 483,000 คน ซึ่งครม.ได้พิจารณาลดขั้นตอนต่าง ๆ แล้ว เห็นว่า หากต้องพิจารณาทั้งหมดต้องใช้เวลานานถึง 44 ปี ข้อมูลจากการสำรวจตั้งแต่ปี 2548- 2554 พบคนไทยพลัดถิ่นและกลุ่มชาติ พันธุ์ที่อพยพเข้ามาอยู่ในไทยมี 19 กลุ่ม ส่วนใหญ่เป็นบุคคลบนพื้นที่สูงและชุมชนบนพื้นที่สูง ที่ตกหล่นจากการสำรวจประชากร ประมาณ 215,000 คน , เป็นกลุ่มบุตรที่เกิดในราชอาณาจักรของชนกลุ่มน้อย 29,000 คน และกลุ่มบุตรที่เกิดในราชอาณาจักรของบุคคลที่ไม่มีสถานะตามทะเบียนประมาณ 113,000 คน นับตั้งแต่ปี 2548 จนถึงปัจจุบัน รัฐมีนโยบายให้เด็กกลุ่มชาติพันธุ์สามารถเข้าเรียนโดยไม่ต้องมีเอกสารหลักฐาน มีการอุดหนุนค่าใช้จ่ายต่อหัวในระดับประ ถมศึกษาเท่ากับเด็กสัญชาติไทย ขณะที่ในปี 2523 และ 2558 ครม.มีมติให้กระทรวงสาธารณสุขรับผิดชอบการรักษาพยาบาล สำหรับกลุ่มคนที่มีสถานะ เฉพาะ คือ มีเลขประจำตัว 13 หลักเท่านั้น แม้จะการให้สัญชาติจะถือเป็นสิทธิตามกฎหมายกับคนไทยพลัดถิ่น (ผู้มีเชื้อสายไทยที่ต้องกลายเป็นคนในบังคับของประเทศอื่น โดยเหตุอันเกิดจากการเปลี่ยนแปลงอาณาเขตของราชอาณาจักรไทยในอดีต ซึ่งปัจจุบันผู้นั้นมิได้ถือสัญชาติ ของประเทศอื่น และได้อพยพเข้ามาอยู่อาศัยไทยเป็นระยะเวลาหนึ่งและมีวิถีชีวิตเป็นคนไทย โดยได้รับ การสำรวจจัดทำทะเบียนตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียนราษฎร์ ภายใต้หลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่ครม.กำหนด หรือเป็นผู้มีลักษณะอื่นทำนองเดียวกันตามที่กำหนดในกฎกระทรวง) และกลุ่มชาติพันธุ์ ที่อพยพและอาศัยอยู่บนผืนแผ่นดินไทยมานานก็จริง แต่ประเด็นดังกล่าว ได้มีการตั้งคำถามถึงมาตรการในการตรวจสอบ และขั้นตอนการอนุมัติจากสมช.และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ว่า รัดกุมและเข้มข้นพอที่จะไม่ให้มีการสอดใส้ -และป้องกันปัญหาการทุจริตในการให้สัญชาติกับบุคคลที่ไร้สถานะทางทะเบียนอย่างไร แม้ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ระบุว่า การให้สัญชาติกับกลุ่มบุคคลข้างต้น เป็นการให้สัญชาติต่อผู้ที่ยื่นขอไว้ และอยู่ในระบบของทางราชการมากว่า 30 ปี ไม่ใช่ให้สัญชาติแก่คนสีเทาๆ หรือพวกอาชญากรข้ามชาติ อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมามีผู้เฝ้ารอที่จะได้สัญชาติจนเสียชีวิตไปไม่น้อย เนื่อง จาก ต้องรอขั้นตอนทางราชการของหน่วยงานความมั่นคงทางปกครอง มานานกว่า 30 ปี และปัจจุบันยังมีผู้ตกค้างอยู่อีกราว 483,000 คน ซึ่งสมช. เห็นว่า หากยังใช้ขั้นตอนเดิมที่ต้องตรวจสอบ และจัดทำประวัติแบบแอนะล็อก ไม่รวดเร็วและทันสมัยเท่าปัจจุบัน ต้องใช้เวลาถึง 44ปี ข้อมูลจากสมช.ระบุว่า คนทั้ง 4 กลุ่ม ปัจจุบันกลุ่มแรกจำนวน 340,000 คน ได้ผ่านขั้นตอนการตรวจสอบและจัดเก็บฐานข้อมูลต่าง ๆหมดแล้ว ซึ่งคนกลุ่มนี้จะได้รับใบถิ่นที่อยู่ถาวร และต้องใช้เวลาอย่างต่ำอีก 5 ปี จึงจะสามารถขอแปลงสัญชาติเป็นไทย และเมื่อได้รับสัญชาติไทยแล้ว ก็ยังไม่สามารถใช้สิทธิทางการเมือง ไม่ว่าจะเป็นการลงสมัครรับเลือกตั้ง หรือการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งในทุกระดับ เนื่องจากจะต้องแปลงสัญชาติมาแล้ว อย่างน้อย 5 ปี จึงจะมีสิทธิ หรือต้องใช้ระยะเวลาอย่างต่ำ 10 ปี ส่วนกลุ่มที่ 2 ประมาณ 143,000 คน เป็นบุตรที่เกิดจากบุคคลกลุ่มแรกที่เกิดในประเทศไทย ที่มีเอกสารการเกิดจากสถานที่เกิดต่าง ๆ ในประเทศไทย “ในอดีตมีคนโพ้นทะเลอพยพมาในสยาม หรือประเทศไทย เรามีผู้อพยพ ยุคเวียดนามใต้ ยุคไซ่ง่อนแตก มีไทยรามัญ และหลากหลายประเทศเข้ามาอยู่อาศัย ที่ผ่านมาหลายรัฐบาลก็เข้มงวดในการให้สัญชาติ โดยประเทศไทยได้ให้สัญชาติไทยไปแล้วนับล้านคน...หากมีการแก้ไขปัญหาดังกล่าว ก็จะช่วยสร้าง ความมั่นคงในประเทศ ทำให้ผู้ตกสำรวจมีสิทธิเข้าถึงการรักษาพยาบาล การทำงาน ทำธุรกรรมทางการเงิน ถือเป็นการดำเนินการตามหลักสิทธิมนุษยชนสากล” นายจิรายุ ระบุ ขณะที่แหล่งข่าวด้านความมั่นคง ตั้งข้อสังเกตว่า ที่ผ่านมาไม่มีใครทราบขั้นตอนการตรวจสอบข้อมูลของแต่ละพื้นที่ โดยเฉพาะจังหวัดตามแนวตะเข็บชายแดนไทย ว่า เข้มงวดและถูกต้องหรือไม่ ในมุมมองของงานด้านความมั่นคง มองว่า หากรัฐบาลจะให้สัญชาติไทยโดยวิธีนี้ ต่อไปคงไม่จำเป็นต้องมีการแปลงสัญชาติอีกแล้ว “ปี 2545-2547 ข้อมูลจากสมช.ที่ร่วมกับกรมการปกครอง สำรวจตัวเลข คนไทยพลัดถิ่นและคนไร้สัญชาติ ที่ไม่ได้สัญชาติไทยที่อาศัยอยู่ตามแนวตะเข็บชายแดนไทยที่อยู่ในทะเบียนมีประมาณ 30,000-40,000 คน ต่อมาปี 2547-2549 เริ่มมีการสำรวจพบตกหล่นอยู่ประมาณ 300,000-400,000 คน และในปี 2551 มีการสำรวจอีกรอบพบผู้ตกหล่นอีก 2,000,000 คน โดยปี 2554 มีการให้สถานะสัญชาติเขาไปแล้ว คำถาม คือ ทำไมจำนวนบุคคลที่ตกสำรวจไม่ได้ลดลง ข้อมูลจึงดูแปลก ๆ ” เจ้าหน้าที่คนเดิม ระบุ แม้ปัจจุบันจะมีระบบจัดเก็บข้อมูลประวัติลายนิ้วมือทางคอมพิวเตอร์ และการ นำระบบข้อมูลอัตลักษณ์บุคคล หรือ ไบโอเมทริกซ์ (Biometric) มาใช้ในการพิสูจน์ตัวตนเพื่อลดขึ้นตอนการตรวจให้รวดเร็วขึ้น แต่กว่าจะถึงขั้นตอนนี้ ในพื้นที่ต้องการมีการรับรองตัวคนผู้ที่ขอสัญชาติ หรือได้รับสัญชาติก่อน จึงมีความเป็นไปได้ ในการสอดใส้ให้กลุ่มจีนเทา เข้ามาสวมสิทธิได้ ข้อเท็จจริงที่เคยเกิดขึ้นในพื้นที่จ.เชียงราย ทุกครั้งที่มีการสำรวจสถานะบุคคลเพื่อขอสัญชาติไทย จะมีรถสองแถว นำคนจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน เข้ามาฝั่งไทย ไปจุดที่มีการทำประชาคมหมู่บ้าน พอเขาขึ้นทะเบียนเสร็จก็กลับไป และรอให้ทางฝั่งไทยเรียกสัมภาษณ์อีกครั้งหนึ่ง ลักษณะนี้ เชื่อว่าสามารถสอดใส้ได้ จริง ๆ ในช่วงที่ต้องให้มีผู้รับรองตัวตน ในหมู่ บ้านจะให้เครือญาติ และครอบครัว รับรองไปก่อน พูดง่ายๆคือ ต่างฝ่ายต่างรับรอง จากนั้นกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน จึงรับรองตอนบันทึกปากคำ อีกครั้งว่า เป็นคนในพื้นที่จริงที่ตกสำรวจหรือไม่ “เช่น ในหมู่บ้านนี้ มีผู้ตกสำรวจ 200 คน ก็ให้ญาติ หรือครอบครัว มารับรองว่า เป็นคนในหมู่บ้านหรือไม่ แต่จำนวนนี้จะมีคนนอกเพิ่มเข้ามาด้วยอีก 20-30 คน ช่องว่างนี้ตรง เป็นปัญหามาก ซึ่งองค์กรปกครองท้องถิ่น จะต้องเข้มงวดและคุมเข้มเพิ่มขึ้นเพื่อป้องกันปัญหาดังกล่าว อย่างไรก็ตาม หากมองนโยบายนี้ ถือเป็นการแก้ปัญหาที่ดี คนไร้รัฐและไร้สัญชาติที่ตกสำรวจในพื้นที่ น่าสงสาร เขาไม่มีสิทธิอะไรเลย หากเป็นคนกลุ่มนี้จริง สมควรให้สัญญาติไทยเขา สำหรับหลักเกณฑ์ใหม่ตามนโยบายของสภาความมั่งคงแห่งชาติ (สมช.)ต้องเป็นกลุ่มบุคคลที่อพยพเข้ามาในราชอาณาจักรสล็อต เกม มิ่งเป็นเวลานาน ตามมติครม.เมื่อ 26 ม.ค.25 64 กล่าวคือ เป็นบุคคลที่ได้รับการสำรวจจัดทำทะเบียนประวัติไว้ในอดีตจนถึงปี พ.ศ. 2542 (เลขประจำตัวประเภท 6) และที่สำรวจเพิ่มเติมภายใต้ยุทธศาสตร์การจัดการปัญหาสถานะและสิทธิของบุคคลระหว่างปี พ.ศ. 2548 – พ.ศ. 2554 (เลขประจำตัวประเภท 0 กลุ่ม 89) เป็นบุคคลที่อพยพเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรภายในปี พ.ศ. 2542 เด็กและบุคคลที่กำลังเรียนหรือจบการศึกษาแล้ว คนไร้รากเหง้า และคนที่ทำคุณประโยชน์แก่ประเทศ ซึ่งเข้ามาอาศัยอยู่ในราชอาณาจักร ภายในวันที่ 18 มกราคม 2548 แต่ตกหล่นจากการสำรวจจัดทำทะเบียนประวัติตามมติคณะรัฐมนตรีในอดีตจนถึงปี พ.ศ. 2554 (เลขประจำตัวประเภท 0 กลุ่ม 00) กลุ่มย่อย ต้องเป็นกลุ่มที่อพยพเข้ามาและอาศัยอยู่มานาน (ชนกลุ่มน้อยและกลุ่มชาติพันธุ์ 19 กลุ่ม) กลุ่มเด็กและบุคคลที่ไม่ได้เกิดในราชอาณาจักรและกำลังเรียนอยู่ในสถานศึกษาหรือจบการศึกษาแล้วแต่ไม่มีสถานะที่ถูกต้องตามกฎหมาย , กลุ่มบุคคลไร้รากเหง้า, กลุ่มบุคคลที่ทำคุณประโยชน์แก่ประเทศ หลักเกณฑ์ทั่วไปสำหรับผู้ที่สามารถได้รับสัญชาติได้ มีดังนี้ มีชื่อในทะเบียนบ้านหรือทะเบียนประวัติและมีเลขประจำตัว 13 หลัก , ภูมิลำเนาและอาศัยอยู่ในราชอาณาจักรไทย ติดต่อกันต่อเนื่อง ไม่น้อยกว่า 15 ปี นับถึงวันที่ยื่นคำขอ มีสถานะเป็นคนต่างด้าวเข้าเมือง โดยชอบด้วยกฎหมาย ให้ผู้ยื่นคำขอยืนยันและรับรองคุณสมบัติของตนเองเพื่อเร่งรัดคุ้มครองสิทธิของประชาชนให้เป็นไปด้วยความรวดเร็ว โดยปรับ ให้ผู้ขอยืนยันและรับรองคุณสมบัติของตนเองแทนการสอบสวนผู้ขอและพยานบุคคลที่น่าเชื่อถือและแทนการส่งไปตรวจสอบประวัติอาชญากรรมและตรวจสอบพฤติการณ์ด้านความมั่นคงกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีความจงรักภักดีต่อประเทศไทยและเลื่อมใสการปกครองระบอบประชาธิปไตยฯ,ประพฤติดี ไม่เป็นภัยต่อสังคม, ไม่เคยได้รับโทษจำคุกตามคำพิพากษา ถึงที่สุดของศาลให้จำคุกตั้งแต่ 5 ปี ขึ้นไป หากเคยได้รับโทษดังกล่าว ต้องพ้นโทษมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี นับถึงวันที่ยื่นคำร้อง เว้นแต่โทษในคดียาเสพติดฐานเป็นผู้ค้าหรือผู้ผลิต ต้องพ้นโทษมาแล้วไม่น้อยกว่า 10 ปี ยกเว้นสำหรับเด็กที่มีอายุไม่เกิน 18 ปี บริบูรณ์ ไม่สามารถกลับประ เทศต้นทาง ไม่มีจุดเกาะเกี่ยวใด ๆ กับประเทศต้นทาง ไม่ปรากฏหลักฐานการมีและใช้สัญชาติอื่น โดยผู้ยื่นคำขอมีภูมิลำเนาในเขตกรุงเทพมหานคร (กทม.) ผอ.สำนักกิจการความมั่นคงภายใน เป็นผู้พิจารณาอนุญาตและออกหนังสือรับรองการได้รับอนุญาตให้มีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักร หากมีภูมิลำเนาจังหวัดอื่นนอกเขต กทม. นายอำเภอเป็นผู้พิจารณาอนุญาตและออกหนังสือ รับรองการได้รับอนุญาตให้มีถิ่นที่อยู่ราชอาณาจักร โดยอธิบดีกรมการปกครอง มีอำนาจดำเนินการทั่วราชอาณาจักร ทั้งนี้เพิ่มเงื่อนไขว่า หากภายหลังปรากฏว่าบุคคลที่ได้รับอนุญาตให้มีสถานะเป็นคนต่างด้าวเข้าเมืองโดยชอบด้วยกฎหมายและมีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักรไทย ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามหรือมีลักษณะไม่เป็นไปสถานะคนต่างด้าวเข้าเมืองโดยชอบด้วยกฎหมายหลักเกณฑ์ที่กำหนด อาจถูกถอนการอนุญาตให้มีสถานะคนต่างด้าวเข้าเมืองโดยชอบด้วยกฎหมายและมีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักรไทยตามมาตรา 17 แห่งพ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 ประเภทไร้สัญชาตินอกกำหนดจำนวนคนต่างด้าวโดยกระบวนการถอน การอนุญาตให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กรมการปกครองกำหนด ส่วนบุตรของชนกลุ่มน้อยหรือกลุ่มชาติพันธุ์ที่เกิดในราชอาณาจักร แต่ไม่ได้ สัญชาติไทย (เฉพาะชนกลุ่มน้อยและกลุ่มชาติพันธุ์ 19 กลุ่ม ไม่รวมชาวต่างด้าวอื่น ๆ ) ปรับ ให้เป็นบุตรของบุคคลที่ได้รับการสำรวจจัดทำทะเบียนประวัติไว้ในอดีตจนถึงปี พ.ศ. 2542 และที่สำรวจเพิ่มเติมภายใต้ยุทธศาสตร์การจัดการปัญหาสถานะและสิทธิของบุคคล ระหว่างปี พ.ศ. 2548 – พ.ศ. 2554 เพื่อให้ครอบคลุมการแก้ไขทุกกลุ่มและสอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงในปัจจุบัน โดยบิดาหรือมารดา เป็นบุคคลที่ได้รับการสำรวจ จะต้องได้รับการจัดทำทะ เบียนประวัติ มีเลขจัดทำทะเบียนประวัติไว้ในอดีตจนถึงปี พ.ศ. 2542 และที่สำรวจเพิ่มเติมระหว่างปีพ.ศ. 2548 – พ.ศ. 2554 ต้องได้รับการจัดทำทะ เบียนประวัติ มีเลขประจำตัว 13 หลักตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียนราษฎรและต้องเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรไทยเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 15 ปี นับถึงวันที่บุตรยื่นคำร้องขอมีสัญชาติไทย มีหลักฐานการเกิดในไทยและมีชื่อในทะเบียนบ้านหรือทะเบียนประวัติ พูด เข้าใจ ภาษาถิ่นในภูมิลำเนาและภาษาไทยได้ ต้องไม่ปรากฏหลักฐานการมีและใช้สัญชาติอื่น ยกเว้นเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 7 ปี คนพิการที่มีความบกพร่องทางการได้ยินทางการสื่อสารจิตใจ และทางพฤติกรรม ไม่เคยได้รับโทษจำคุกตามคำพิพากษาถึงที่สุดของศาลให้จำคุกตั้งแต่ 5 ปี ขึ้นไป ทั้งนี้ การปรับแก้หลักเกณฑ์เพื่อเร่งรัดการแก้ไขปัญหาสัญชาติและสถานะบุคคลให้แก่บุคคลที่อพยพเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรเป็นเวลานาน และกลุ่มบุตรที่เกิดในราชอาณาจักรแล้ว จะมีการกำหนดขั้นตอนและระยะเวลาใหม่เพื่อให้เร่งรัดกระบวนการดำเนินการให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น กระทรวงมหาดไทยได้จัดทำตารางเปรียบเทียบ ขั้นตอนการกำหนดสถานะ ของกลุ่มเป้าหมายในการขอมีสถานะเป็นคนต่างด้าวเข้าเมืองโดยชอบด้วยกฎหมายแก่ชนกลุ่มน้อยที่อพยพเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรเป็นเวลานาน (การมอบใบสำคัญถิ่นที่อยู่) รวมถึงการขอสัญชาติไทยสำหรับบุตรคนต่างด้าวที่เกิดในไทย และให้ยื่นคำขอพร้อมเอกสารหลักฐาน โดยผู้ขอยืนยันและรับรองคุณสมบัติของตนเอง และอำเภอหรือสำนักกิจการความมั่นคงภายใน (แล้วแต่กรณี) ในเขตกทม.และจังหวัดอื่นตามภูมิลำเนา ระยะเวลาการดำเนินการไม่เกิน 5 วัน จากเดิม 270 วัน หรือตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ในกฎหมาย อ่านข่าว “ฟอกเงิน-แชร์ลูกโซ่” ดิไอคอนกรุ๊ป เส้นทาง(ไกล)ประกันตัว 18 บอส เปิดช่อง “ครูต่างชาติ” ขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู

“ไทเกอร์ วู้ดส์” ตั้ง “โจ ลาคาว่า” เป็นแคดดี้คนใหม่ “ไทเกอร์ วู้ดส์” โปรกอล์ฟชาวอเมริกัน ประกาศแต่งตั้ง “โจ ลาคาว่า” เป็นแคดดี้คนใหม่ โดย “ไทเกอร์” จะร่วมงานกับ “ลาคาว่า” คือ การแข่งขันกอล์ฟฟรายส์ ดอท

เมื่อวันที่ 29 ต.ค.2567 คณะรัฐมนตรี( ครม.) มีมติเห็นชอบในหลักการ หลักเกณฑ์เร่งรัดการแก้ไขปัญหาสัญชาต

นิยายชีวิต โดย : Lida Puspaningtyas
เรื่องและภาพโดย : Lida Puspaningtyas
[[คลิก]] อ่านเรื่องราว “นิยายชีวิต” ได้ที่นี่..