"บอย-เจี๊ยบ" ส่งรถพุ่มพวงยังชีพแจกกับข้าวฟรีตามชุมชน

ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ในฐานะทนายความของ "อากู๋" และหลาน แถลงข่าว จากการเสียชีวิตของ 1 ใน 5 ผู้ต้องหาคดีบุกรุกครอบครองปรปักษ์บ้านพักในพื้นที่รามอินทรา ได้เสียชีวิต ภายในบ้าน ถ.เลียบวงแหวนกาญจนา ระบุ

วันที่ 11 ต.ค.2567 พล.ต.อ.ณรงค์ มหานนท์ อดีตอธิบดีกรมตำรวจ (อ.ตร.) เสียชีวิตลงด้วยโรคชรา สิริอายุ 98

วันนี้ (5 มิ.ย.2564) นพ.นเรศฤทธิ์ ขัดธะสีมา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร เปิดเผยว่า จากการสอบสวนโรคพบเป็นการเริ่มต้นมาจากการติดในครอบครัวและเข้าสู่โรงงาน จ.สมุทรสาคร มีแผนงานสุ่มตรวจหาเชื้อ COVID

ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ในฐานะทนายความของ "อากู๋" และหลาน แถลงข่าว จากการเสียชีวิตของ 1 ใน 5 ผู้ต้องหาคดีบุกรุกครอบครองปรปักษ์บ้านพักในพื้นที่รามอินทรา ได้เสียชีวิต ภายในบ้าน ถ.เลียบวงแหวนกาญจนา ระบุว่ามีความรู้สึกเสียใจต่อการเสียชีวิตของ 1 ในคู่กรณี ทางอากู๋แจ้งว่า ขออโหสิกรรมให้กับผู้ตาย แต่มีประเด็นที่ทางทนายความของผู้ต้องหาให้สัมภาษณ์สื่อในเชิงใส่ร้ายอากู๋ ใส่ร้ายทนายเดชา ใส่ร้ายสื่อมวลชน ว่าอากู๋และทีมงานทนายเดชา สื่อ ร่วมมือกันใช้สื่อไปกดดันจนผู้ตายต้องจบชีวิตตัวเอง ซึ่งเรื่องนี้ไม่เป็นความจริง วันนี้ (26 ก.พ.2567) ที่สำนักงานทนายเดชา ทางหลานชายอากู๋ระบุว่า ก่อนอื่นของแสดงความเสียใจกับผู้เสียชีวิตและญาติ เรื่องแบบนี้ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น ทางเราพร้อมที่จะรอเจรจาที่ชั้นศาล แต่ไม่คิดว่าจะเปิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นก่อน ทิศทางทนายฝั่งนั้นกล่าวโทษฝั่งเรา ว่าเราพยายามใช้อำนาจสื่อกดดัน ทำให้รู้สึกไม่โอเค สำหรับตัวผู้เสียชีวิตเคยติดต่อไปทางหลานอากู๋ และได้ส่งข้อความขอโทษ แสดงความจริงใจ เสียใจในการกระทำ ได้บอกกับหลานอากู๋ว่า ถือว่าทำบุญให้คนป่วย ก่อนเกิดเหตุ ทางครอบครัวอากู๋ได้พูดคุยกันถึงว่า ฝ่ายผู้ต้องหาแจ้งว่าจะดำเนินการไกล่เกลี่ยและถอนฟ้อง แต่เมื่อเช็กก็ยังไม่มีการถอนฟ้อง รู้ว่าทางกลุ่มผู้ต้องหาพยายามติดต่อหลายครั้ง แต่ทางครอบครัวยังติดใจอยู่ เพราะถูกบุกรุกซ้ำซ้อนหลายครั้ง ยอมรับว่ายังโกรธอยู่ แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ ก็จะพูดคุยในครอบครัวกันอีกครั้ง สำหรับพิธีณาปนกิจผู้เสียชีวิต หลานอากู๋ระบุว่า ส่วนตัวคงไม่ไปร่วมงานศพผู้เสียชีวิต เพราะไม่อยากให้รู้สึกแย่ไปกันใหญ่ อ่านข่าว : ผู้ต้องหาคดีครอบครองปรปักษ์บ้าน "อากู๋" ผูกคอเสียชีวิต ความคืบหน้าของคดีขณะนี้ ทนายเดชากล่าวว่า ตอนนี้อัยการนัดผู้ต้องหา 5 คน ไปพบในวันที่ 6 มี.ค.นี้ เวลา 09.00 น. เมื่อผู้ต้องหาเสียชีวิตไป 1 ท่าน สิทธิในการดำเนินคดีอาญากับผู้ตายก็หมดไป หลังจากนี้พนักงานอัยการอาจจะมีคำสั่งออกมา 3 แบบ ทางแรกอาจจะสั่งฟ้องทั้งหมด สองคือสอบเพิ่มเติม และสามสั่งไม่ฟ้อง ที่ผ่านมา สามีของหนึ่งในผู้ต้องหา และ สามีผู้เสียชีวิต ทั้ง 2 คนเป็นตัวแทนทั้ง 5 คน เข้ามาพูดคุยกับทางทนายเดชาเกี่ยสูตร บา คา ร่า ออนไลน์วกับเรื่อง มีความสำนึกผิดในการบุกรุกบ้านอากู๋ ต้องการแสดงความรับผิดชอบค่าเสียหายทั้งหมด แล้วก็ติดต่อไปยังอากู๋ ต้องการไปกราบขอโทษอากู๋ แต่ทางอากู๋ยังมีความขุ่นเคืองอยู่บ้าง ตอนนี้ก็อยู่ในกระบวนการไกล่เกลี่ยทั้งหมด ทนายเดชามองว่าสื่อมวลชนเหมือนกระบอกเสียงของประชาชน เพราะคดีความทุกวันนี้ ประชาชนไปแจ้งความแล้วไม่มีความคืบหน้า พร้อมยกตัวอย่างถ้าคดีนี้ถ้าไม่มีนักข่าว เขาคงไม่ได้บ้านคืน ส่วนที่นักข่าวไปกดดันจนเขาฆ่าตัวตาย คงไม่ใช่ แต่อยู่ที่ทนายความของเขา มีส่วนเกี่ยวข้องมากกว่าไหมที่ไปยุยงให้เขาสู้คดี ทั้งๆ ที่หลักฐาน พยานทุกอย่างก็เห็นกันหมดแล้ว นอกจากนี้ยังย้ำว่า การนำเสนอความของสื่อมวลชนเป็นการนำเสนอข่าวที่ปกติ นักข่าวไม่ได้ไปบีบคั้นให้ผู้ก่อเหตุถึงแก่ความตาย ทนายเดชาถามกลับทนายความฝั่งคู่กรณีว่า ที่เขาต้องจบชีวิตตัวเองนั้นเป็นเพราะการยุแยงของตัวเองหรือไม่ การที่เขาบุกรุกเข้าบ้านเป็นครั้งที่ 2 เอาป้ายที่มีข้อความว่าบ้านนี้เป็นบ้านของ 1 ในผู้ต้องหามาติด แบบนี้ถือว่าเป็นทนายที่มีคุณธรรมหรือไม่ เพราะทนายความชุดแรกก็เจรจาไกล่เกลี่ยจนจะจบอยู่แล้ว ทนายคนเดิมก็ไม่ได้ให้ผู้ต้องหาบุกรุกเข้าไปแล้ว แต่วันดีคืนดีก็ไปเปลี่ยนทนายความคนใหม่ ตนเองได้คุยกับกลุ่มผู้เสียหาย เขาก็บอกว่าเขาเชื่อทนายความคนใหม่ ฝากถึงทนายความว่า คุณธรรมต้องนำกฎหมาย ส่วนสื่อมวลชนเองก็ทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียงอยู่แล้ว ไม่ใช่เครื่องมืออะไรของตนเอง การไปบุกรุกหรือแย่งบ้านคนอื่น เป็นสิ่งไม่ควรทำ เรื่องนี้เป็นประเด็นสาธารณะ ถ้าวันนี้มีทนายความที่ไม่มีคุณธรรมไปแนะนำให้ไปยึดบ้านคนอื่น ก็จะเกิดความไม่สงบในบ้านเมือง ฝากทนายความคู่กรณี เราเป็นทนายความควรประนีประนอมให้ดีที่สุด ไม่ใช่ให้ลูกความมีคดีความเพิ่ม ลูกความเสียไปแล้วท่านหนึ่ง ก็ยังจะไม่จบ เป็นทนายที่ดีหรือไม่ ควรทบทวนตัวเอง เข้าวัดเข้าวาบ้าง ข่าวที่เกี่ยวข้อง  : คุมตัว 5 ผู้ต้องหา "ครอบครองปรปักษ์" ส่งพนักงานอัยการ

ชื่อของ “ปราณประมูล” หรือ ทิพย์ธิดา ศรัทธาทิพย์ อาจปรากฏอยู่ท้ายจอ ตอนที่ละครกำลังจะจบลง แต่นอกจอ ชื่อของ “ปราณประมูล” อยู่ในแถวหน้าของมือเขียนบทละครของเมืองไทย หากนับเวลาจากบทละครเรื่องแรก ใน พ.ศ.252