วันนี้ (7 พ.ย.2565) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้าน
นอกจากนั้น ทางการจีนยังให้ความสำคัญกับการฉีดวัคซีนโควิด-19 อีกครั้ง หลังจากเกิดกระแสวิจารณ์ว่าอัตราการฉีดวัคซีนที่ไม่มากพอ เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ต้องยึดติดกับมาตรการโควิดเป็นศูนย์ แต่ขณะเดียวกันยังพบ
วันนี้ (3 เม.ย.2567) นายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า ธ.ก.ส. เปิดตัว สลากออมทรัพย์ ธ.ก.ส. ชุดขวัญถุง หน่วยละ 20 บาท จำนวน 100 ล้านหน่วย แบ่งเป็น 10 หมว
เมื่อวันที่ 13 พ.ย.2565 สำนักข่าวต่างประเทศ CNN รายงานว่า Mehran Karimi Nasseri ผู้ลี้ภัยชาวอิหร่านที่ใช้ชีวิตภายในสนามบินฝรั่งเศสยาวนาน 18 ปี ได้เสียชีวิตลงแล้วเมื่อวันเสาร์ที่ 12 พ.ย.ที่ผ่านมา Mehran Karimi Nasseri เป็นลูกครึ่งอิหร่าน-อังกฤษ เกิดในปี ค.ศ.1945 (พ.ศ.2488) เขาใช้ชีวิตอยู่ในประเทศอิหร่าน และย้ายไปอังกฤษในปี 1974 เพื่อเรียนหนังสือที่นั่น จากนั้นในปี 1977 Nasseri ก็กลับไปอิหร่านและเข้าร่วมการประท้วงครั้งใหญ่ในประเทศ ครั้งนี้เขาอ้างว่า เขาถูกขับไล่ออกจากอิหร่านและเพิกถอนสัญชาติ จากนั้นเขาจึงยื่นเอกสารขอลี้ภัยทางการเมืองในหลายประเทศแถบยุโรป ซึ่งถูกปฏิเสธแทบทั้งสิ้น เพราะทางการอิหร่านแจ้งว่า Nasseri ไม่เคยถูกขับไล่ออกจากประเทศเลย มีเพียงประเทศเบลเยียมเท่านั้นที่ให้การยอมรับเข้าประเทศNasseri ย้ายไปอยู่เบลเยียมและทำงานอยู่ที่นั่นเรื่อยมา จนกระทั่งวันหนึ่ง Nasseri ตัดสินใจไปอังกฤษอีกครั้ง เพราะต้องการตามหาแม่ที่เป็นคนสัญชาติอังกฤษ เริ่มต้นขึ้นในปี 1988 หรือ พ.ศ.2531 Nasseri เดินทางโดยรถไฟจากเบลเยียมมาฝรั่งเศส เพื่อนั่งเครื่องบินเส้นทาง ฝรั่งเศส-อังกฤษ เมื่อถึงฝรั่งเศส Nasseri พบว่ากระเป๋าเอกสารของเขาหายไป บางแหล่งข่าวบอกว่า ตัวเขาเองเป็นคนส่งเอกสารการเดินทางของเขากลับไปเบลเยียมบ้าง บางแหล่งข่าวบอกว่ากระเป๋าของเขาถูกขโมยที่สถานีรถไฟในฝรั่งเศส แต่สิ่งนี้ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคในการเดินทางของ Nasseri เลย เขาพยายามขึ้นเครื่องไปอังกฤษจนได้ แต่เมื่อถึงอังกฤษแล้ว เขาไม่ได้รับการอนุญาตให้เข้าประเทศเพราะไม่มีเอกสารการเดินทางใดๆ และถูกส่งตัวกลับมายังประเทศต้นทาง นั่นคือ ฝรั่งเศส และที่นี่กลายเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ Nasseri ต้องใช้ชีวิตยาวนานถึง 18 ปีในสนามบินชาร์ล เดอ โกล สำนักข่าว Aljazeera เล่ารายละเอียดชีวิต 18 ปีในสนามบินของ Nasseri เพิ่มเตkickoff บา คา ร่าิมว่า Nasseri หรือ Sir Alfred Mehran ชื่อใหม่ที่เพื่อนๆ พนักงานในสนามบินตั้งให้ ใช้ชีวิตในสนามบิน ชาร์ล เดอ โกล ตั้งแต่ปี 1988-2006 เขาจะใช้ชีวิตส่วนใหญ่บนม้านั่งสีแดงที่โถงผู้โดยสารขาเข้า ชั้น 1 ของสนามบิน เวลาส่วนใหญ่จะถูกใช้ไปกับการอ่านหนังสือพิมพ์ นิตยสาร ที่ผู้โดยสารทั่วไปทิ้งเอาไว้ หรือ ยื่นให้กับเขาเอง บางครั้ง Nasseri ก็ได้รับหนังสือจากพนักงานในสนามบินที่นำมาให้ นอกจากการอ่านหนังสือทั่วไปแล้ว เขายังใช้เวลาไปกับการเรียนวิชาเศรษฐศาสตร์ และจดบันทึกเรื่องราวประจำวันของเขาไว้อีกด้วย ที่มา : Wikipedia ที่มา : Wikipedia หลังจากทางการฝรั่งเศสทราบเรื่องการแจ้งเอกสารหายแล้ว เบื้องต้นฝรั่งเศสเองก็ไม่สามารถที่จะส่งตัว Nasseri ไปยังอังกฤษได้ แต่ก็ไม่สามารถให้เดินทางออกจากสนามบินได้เช่นกัน เพราะตัวเขาในขณะนั้นคือคนที่ไม่มีเอกสารใดๆ ติดตัวเลย ระหว่างระยะเวลาที่ Nasseri อยู่ในสนามบิน เจ้าหน้าที่สนามบินและ Nasseri ได้พยายามยื่นเรื่องขอลี้ภัย เพื่อให้ได้เอกสารใหม่และสามารถเดินทางต่อไปได้ แต่เมื่อวันที่เขารอคอยมาถึง เขากลับปฏิเสธที่จะเดินทางต่อด้วยตัวเอง โดยอ้างว่า สถานที่ใหม่นั้นอาจเป็นอันตรายต่อชีวิตเขาและนี่อาจจะเป็นเอกสารปลอมก็ได้ จนกระทั่งในปี 2006 เป็นเวลา 18 ปีที่ไม่ได้เห็นโลกภายนอก Nasseri ถูกส่งตัวไปโรงพยาบาลเพื่อรักษาอาการป่วย จากนั้นทางการฝรั่งเศสได้ส่งตัวเขาไปอยู่สถานพักพิงแห่งหนึ่งในกรุงปารีส และ Nasseri ก็ได้ใช้ชีวิตนอกสนามบินอีกครั้ง แต่สิ่งนั้นกลับสร้างความกังวลใจให้เจ้าหน้าที่และพนักงานสนามบินหลายคน รวมถึงแพทย์เจ้าของไข้ โดยแพทย์ระบุว่า การใช้ชีวิตร่วม 20 ปีในที่เดิมๆ จนทำให้คนไข้คุ้นชินกับชีวิตแบบนั้นแล้ว หากแต่การพาเขาออกไปจากพื้นที่ที่เขารู้สึกว่าเป็นที่ปลอดภัยของเขา นั่นต่างหากคือการจองจำเขาไว้ในที่ที่เขาไม่คุ้นเคย หรือ คุก ในความคิดของเขานั่นเอง ที่มา : Wikipedia ที่มา : Wikipedia ไม่กี่สัปดาห์ก่อนการจากไปของ “มินิเซเลบริตีสนามบิน ชาร์ล เดอ โกล” หรือ “สัญลักษณ์แห่งชาร์ล เดอ โกล” Nasseri กลับมาใช้ชีวิตแบบเดิมๆ ในสนามบินแห่งนี้อีกครั้ง จนกระทั่งช่วงเที่ยงวันเสาร์ที่ 12 พ.ย. ทีมแพทย์สนามบินได้รับแจ้งว่า มีชายชราป่วย มีอาการคล้ายโรคหัวใจ อยู่บริเวณชั้น 2 ของสนามบิน จากนั้นทีมแพทย์ได้พยายามให้ความช่วยเหลือเต็มที่ แต่สุดท้ายเขาก็จากไปด้วยอายุ 76 ปี โฆษกของสนามบินชาร์ล เดอ โกล กล่าวไว้อาลัยถึงการจากไปของ Nasseri ชายผู้เป็นแรงบันดาลใจให้กับ Steven Spielberg ในการสร้างภาพยนตร์ The Terminal The Terminal ถูกสร้างในปี 2004 เล่าถึง Viktor Navorski นำแสดงโดย Tom Hank ที่ต้องติดอยู่ในพื้นที่รอเปลี่ยนเที่ยวบินในสนามบิน JFK ในกรุงนิวยอร์ก เนื่องจากสถานการณ์ทางการเมืองของประเทศต้นทาง ทำให้หนังสือเดินทางของ Navorski ถูกระงับสิทธิทันที และการเริ่มต้นใช้ชีวิตในสนามบินที่อ้างอิงจากชีวิตจริงของ Mehran Karimi Nasseri หรือ Sir Alfred Mehran ก็ถูกเผยแพร่ผ่านสายตาของคนทั่วโลก Steven Spielberg ได้บอกไว้ว่า เขาต้องการทำภาพยนตร์สักเรื่องที่ทำให้คนดูรู้สึกทั้งหัวเราะ ร้องไห้ และรู้สึกดีเกี่ยวกับโลกใบนี้ และเมื่อเขาได้รู้เรื่องการใช้ชีวิตที่ต้องรอคอยนานกว่า 18 ปีในที่ที่ไม่มีใครคิดว่าต้องรอนานขนาดนั้น เรื่องราวของเพื่อนมนุษย์ที่ช่วยเหลือกันจนกลายเป็นมิตรภาพที่ดีต่อกันโดยไม่มีการแบ่งเชื้อชาติ หรือความแตกต่างในด้านใดๆ เขาจึงเลือกเอาชีวิตของ Mehran Karimi Nasseri มาสร้างเป็นภาพยนตร์ และหวังว่า "that could make us laugh and cry and feel good about the world" ที่มา : Aljazeera, BBC, CNN, Wikipedia
เมื่อวันที่ 13 พ.ย.2565 สำนักข่าวต่างประเทศ CNN รายงานว่า Mehran Karimi Nasseri ผู้ลี้ภัยชาวอิหร่านท
วันนี้ (4 ก.ย.2565) สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า เจ้าหน้าที่ทางการท้องถิ่น เปิดเผยว่า คอรี เวย์น แพ
การผลิตแคดเมียมมีมานานแล้ว เป็นโลหะหนัก มีสัญลักษณ์คือ Cd พบปนอยู่กับแร่ธาตุอื่นๆ เช่น แร่สังกะสี แร
เมื่อวันที่ 13 พ.ย.2565 สำนักข่าวต่างประเทศ CNN รายงานว่า Mehran Karimi Nasseri ผู้ลี้ภัยชาวอิหร่านที่ใช้ชีวิตภายในสนามบินฝรั่งเศสยาวนาน 18 ปี ได้เสียชีวิตลงแล้วเมื่อวันเสาร์ที่ 12 พ.ย.ที่ผ่านมา Mehran Karimi Nasseri เป็นลูกครึ่งอิหร่าน-อังกฤษ เกิดในปี ค.ศ.1945 (พ.ศ.2488) เขาใช้ชีวิตอยู่ในประเทศอิหร่าน และย้ายไปอังกฤษในปี 1974 เพื่อเรียนหนังสือที่นั่น จากนั้นในปี 1977 Nasseri ก็กลับไปอิหร่านและเข้าร่วมการประท้วงครั้งใหญ่ในประเทศ ครั้งนี้เขาอ้างว่า เขาถูกขับไล่ออกจากอิหร่านและเพิกถอนสัญชาติ จากนั้นเขาจึงยื่นเอกสารขอลี้ภัยทางการเมืองในหลายประเทศแถบยุโรป ซึ่งถูกปฏิเสธแทบทั้งสิ้น เพราะทางการอิหร่านแจ้งว่า Nasseri ไม่เคยถูกขับไล่ออกจากประเทศเลย มีเพียงประเทศเบลเยียมเท่านั้นที่ให้การยอมรับเข้าประเทศNasseri ย้ายไปอยู่เบลเยียมและทำงานอยู่ที่นั่นเรื่อยมา จนกระทั่งวันหนึ่ง Nasseri ตัดสินใจไปอังกฤษอีกครั้ง เพราะต้องการตามหาแม่ที่เป็นคนสัญชาติอังกฤษ เริ่มต้นขึ้นในปี 1988 หรือ พ.ศ.2531 Nasseri เดินทางโดยรถไฟจากเบลเยียมมาฝรั่งเศส เพื่อนั่งเครื่องบินเส้นทาง ฝรั่งเศส-อังกฤษ เมื่อถึงฝรั่งเศส Nasseri พบว่ากระเป๋าเอกสารของเขาหายไป บางแหล่งข่าวบอกว่า ตัวเขาเองเป็นคนส่งเอกสารการเดินทางของเขากลับไปเบลเยียมบ้าง บางแหล่งข่าวบอกว่ากระเป๋าของเขาถูกขโมยที่สถานีรถไฟในฝรั่งเศส แต่สิ่งนี้ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคในการเดินทางของ Nasseri เลย เขาพยายามขึ้นเครื่องไปอังกฤษจนได้ แต่เมื่อถึงอังกฤษแล้ว เขาไม่ได้รับการอนุญาตให้เข้าประเทศเพราะไม่มีเอกสารการเดินทางใดๆ และถูกส่งตัวกลับมายังประเทศต้นทาง นั่นคือ ฝรั่งเศส และที่นี่กลายเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ Nasseri ต้องใช้ชีวิตยาวนานถึง 18 ปีในสนามบินชาร์ล เดอ โกล สำนักข่าว Aljazeera เล่ารายละเอียดชีวิต 18 ปีในสนามบินของ Nasseri เพิ่มเตkickoff บา คา ร่าิมว่า Nasseri หรือ Sir Alfred Mehran ชื่อใหม่ที่เพื่อนๆ พนักงานในสนามบินตั้งให้ ใช้ชีวิตในสนามบิน ชาร์ล เดอ โกล ตั้งแต่ปี 1988-2006 เขาจะใช้ชีวิตส่วนใหญ่บนม้านั่งสีแดงที่โถงผู้โดยสารขาเข้า ชั้น 1 ของสนามบิน เวลาส่วนใหญ่จะถูกใช้ไปกับการอ่านหนังสือพิมพ์ นิตยสาร ที่ผู้โดยสารทั่วไปทิ้งเอาไว้ หรือ ยื่นให้กับเขาเอง บางครั้ง Nasseri ก็ได้รับหนังสือจากพนักงานในสนามบินที่นำมาให้ นอกจากการอ่านหนังสือทั่วไปแล้ว เขายังใช้เวลาไปกับการเรียนวิชาเศรษฐศาสตร์ และจดบันทึกเรื่องราวประจำวันของเขาไว้อีกด้วย ที่มา : Wikipedia ที่มา : Wikipedia หลังจากทางการฝรั่งเศสทราบเรื่องการแจ้งเอกสารหายแล้ว เบื้องต้นฝรั่งเศสเองก็ไม่สามารถที่จะส่งตัว Nasseri ไปยังอังกฤษได้ แต่ก็ไม่สามารถให้เดินทางออกจากสนามบินได้เช่นกัน เพราะตัวเขาในขณะนั้นคือคนที่ไม่มีเอกสารใดๆ ติดตัวเลย ระหว่างระยะเวลาที่ Nasseri อยู่ในสนามบิน เจ้าหน้าที่สนามบินและ Nasseri ได้พยายามยื่นเรื่องขอลี้ภัย เพื่อให้ได้เอกสารใหม่และสามารถเดินทางต่อไปได้ แต่เมื่อวันที่เขารอคอยมาถึง เขากลับปฏิเสธที่จะเดินทางต่อด้วยตัวเอง โดยอ้างว่า สถานที่ใหม่นั้นอาจเป็นอันตรายต่อชีวิตเขาและนี่อาจจะเป็นเอกสารปลอมก็ได้ จนกระทั่งในปี 2006 เป็นเวลา 18 ปีที่ไม่ได้เห็นโลกภายนอก Nasseri ถูกส่งตัวไปโรงพยาบาลเพื่อรักษาอาการป่วย จากนั้นทางการฝรั่งเศสได้ส่งตัวเขาไปอยู่สถานพักพิงแห่งหนึ่งในกรุงปารีส และ Nasseri ก็ได้ใช้ชีวิตนอกสนามบินอีกครั้ง แต่สิ่งนั้นกลับสร้างความกังวลใจให้เจ้าหน้าที่และพนักงานสนามบินหลายคน รวมถึงแพทย์เจ้าของไข้ โดยแพทย์ระบุว่า การใช้ชีวิตร่วม 20 ปีในที่เดิมๆ จนทำให้คนไข้คุ้นชินกับชีวิตแบบนั้นแล้ว หากแต่การพาเขาออกไปจากพื้นที่ที่เขารู้สึกว่าเป็นที่ปลอดภัยของเขา นั่นต่างหากคือการจองจำเขาไว้ในที่ที่เขาไม่คุ้นเคย หรือ คุก ในความคิดของเขานั่นเอง ที่มา : Wikipedia ที่มา : Wikipedia ไม่กี่สัปดาห์ก่อนการจากไปของ “มินิเซเลบริตีสนามบิน ชาร์ล เดอ โกล” หรือ “สัญลักษณ์แห่งชาร์ล เดอ โกล” Nasseri กลับมาใช้ชีวิตแบบเดิมๆ ในสนามบินแห่งนี้อีกครั้ง จนกระทั่งช่วงเที่ยงวันเสาร์ที่ 12 พ.ย. ทีมแพทย์สนามบินได้รับแจ้งว่า มีชายชราป่วย มีอาการคล้ายโรคหัวใจ อยู่บริเวณชั้น 2 ของสนามบิน จากนั้นทีมแพทย์ได้พยายามให้ความช่วยเหลือเต็มที่ แต่สุดท้ายเขาก็จากไปด้วยอายุ 76 ปี โฆษกของสนามบินชาร์ล เดอ โกล กล่าวไว้อาลัยถึงการจากไปของ Nasseri ชายผู้เป็นแรงบันดาลใจให้กับ Steven Spielberg ในการสร้างภาพยนตร์ The Terminal The Terminal ถูกสร้างในปี 2004 เล่าถึง Viktor Navorski นำแสดงโดย Tom Hank ที่ต้องติดอยู่ในพื้นที่รอเปลี่ยนเที่ยวบินในสนามบิน JFK ในกรุงนิวยอร์ก เนื่องจากสถานการณ์ทางการเมืองของประเทศต้นทาง ทำให้หนังสือเดินทางของ Navorski ถูกระงับสิทธิทันที และการเริ่มต้นใช้ชีวิตในสนามบินที่อ้างอิงจากชีวิตจริงของ Mehran Karimi Nasseri หรือ Sir Alfred Mehran ก็ถูกเผยแพร่ผ่านสายตาของคนทั่วโลก Steven Spielberg ได้บอกไว้ว่า เขาต้องการทำภาพยนตร์สักเรื่องที่ทำให้คนดูรู้สึกทั้งหัวเราะ ร้องไห้ และรู้สึกดีเกี่ยวกับโลกใบนี้ และเมื่อเขาได้รู้เรื่องการใช้ชีวิตที่ต้องรอคอยนานกว่า 18 ปีในที่ที่ไม่มีใครคิดว่าต้องรอนานขนาดนั้น เรื่องราวของเพื่อนมนุษย์ที่ช่วยเหลือกันจนกลายเป็นมิตรภาพที่ดีต่อกันโดยไม่มีการแบ่งเชื้อชาติ หรือความแตกต่างในด้านใดๆ เขาจึงเลือกเอาชีวิตของ Mehran Karimi Nasseri มาสร้างเป็นภาพยนตร์ และหวังว่า "that could make us laugh and cry and feel good about the world" ที่มา : Aljazeera, BBC, CNN, Wikipedia
วันที่ 14 ธ.ค.2565 พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ส่งทีม ศปอส.ตร. (PCT) ชุดที่ 5 ทลายเว็บพนั