เสมือนรัฐบาลจะเงียบกริบ หลังเจอกระแสต่อต้านโครงการ "เอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ (Entertainment Compl

วันนี้ (10 พ.ค.2564) จากกรณีที่ผู้ใช้เฟซบุ๊ก “รุจน์ พระนคร” ได้โพสต์รูปภาพของชายคนหนึ่งที่ทาแป้งเต็มตัว พร้อมทำท่ายกมือกวักเรียกลูกค้า อยู่ข้าง ๆ แผงลอตเตอรี่ บริเวณหน้าร้านสนิมวินเทจ ซึ่งตั้งอยู่ท้าย

เสมือนรัฐบาลจะเงียบกริบ หลังเจอกระแสต่อต้านโครงการ "เอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ (Entertainment Complex)" หลังก่อนหน้านี้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ภายใต้ "รัฐบาล แพทองธาร ชินวัตร" ไฟเขียวเห็นชอบในหลักการร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร ตามที่กระทรวงการคลังเสนอแล้วก็ตาม แต่ระบุว่ายังต้องปรับเนื้อหาข้างในให้สอดคล้องเกับนโยบายที่ได้แถลงต่อรัฐสภาในการส่งเสริมการท่องเที่ยว จากนั้นก็สามารถเสนอเข้าสภาได้เลย ท่ามกลางความสับสนว่านโยบายการท่องเที่ยวและกาสิโนในประเทศจะเดินหน้าไปอย่างอย่าง ด้านหนึ่งแม้ จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง จะอ้างว่า ได้มีการทำประชาพิจารณ์ไปแล้วก็ตาม และมีประชาชนร้อยละ 80 เห็นด้วย แต่กลับมีคำถามตามมาว่า สิ่งที่รัฐบาลเคลมนั้น ไม่ต่างจากการทำโพล หรือสำรวจข้อคิดเห็นจากคนกลุ่มเดียว ไม่ใช่ฉันทามติของประชาชนทั้งประเทศ อีกทั้งยังมีการแฝงนัย หรือ "หมกเม็ด" ในข้อกฎหมายเพื่อ "เลี่ยงการรับรู้" ของประชาชน ทั้ง การดำเนินธุรกิจ "กาสิโน"  แทนที่จะมี "เอนเตอร์เทนเมนต์" อื่น ๆ ให้เข้ากับชื่อที่ตั้งมา จึงอาจกล่าวได้ว่า รัฐบาลต้องการส่งเสริม "การพนัน" ตั้งแต่ต้นหรือไม่ ? และเป็นไปได้หรือไม่ที่จะเรียกร้องให้เกิด "ประชามติ (Referendum)" ก่อนการตัดสินใจดำเนินการ ? รศ.ดร.ชิดตะวัน ชนะกุล อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐศาสตร์การเมือง ชี้ว่า ไม่ว่าจะมองมุมไหน พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบ&#x;ันเทิงครบวงจร เป็นร่างกฎหมายที่รัฐบาล "หลอกลวง" ประชาชนอย่างเห็นได้ชัด โดยมีเป้าหมายที่จะประกอบกิจการ "กาสิโน" ตั้งแต่แรก จึงได้เร่งรัดให้ ร่างฯ ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการกฤษฎีกาโดยเร็ว ทั้งยังเลือกทำประชาพิจารณ์ ที่ใช้งบประมาณและเวลาน้อยกว่าประชาw777thมติ แสดงให้เห็นว่ารัฐบาล "จำกัดวงแคบ" ให้กาสิโนเป็นจริงได้ง่ายขึ้น รศ.ดร.ชิดตะวัน กล่าวว่า ประเด็นความสำคัญของการทำประชามติกับการเปิดกาสิโน โดยรัฐบาลใช้อบายมุขมาผลักดันนโยบายเศรษฐกิจเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งประเทศจีน และฟิลิปปินส์ ก็ไม่เอากาสิโน จากเดิมก่อนหน้านี้ แม้ว่าประเทศจีน จะมีประชาชนไปเล่นการพนันในประเทศอื่น ซึ่งทำให้เม็ดเงินจากประเทศจีนหายไปเป็นจำนวนมากอย่างมหาศาล แต่สีจิ้นผิงมีนโยบายประกาศว่า กาสิโนไม่ถูกกฎหมาย เห็นได้ว่าการมีกาสิโนจะส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจอย่างรุนแรง ดังนั้นจำเป็นจะต้องมีการทำประ ชามติ ซึ่งรัฐบาลบอกเองว่าเป็นรัฐบาลประชาธิปไตย จึงจำเป็นต้องมีการทำประชามติเหมือนกับนานาอารยประเทศ นอกจากนี้ การเลือกตั้งครั้งล่าสุดปี 2566 ไม่มีพรรคการเมืองใดชูนโยบายว่าจะเอาการพนันใต้ดินให้ขึ้นมาบนดินให้ถูกกฎหมาย แต่ปัจจุบันกลับนำเอากาสิโนเข้ามาเป็นนโยบายรัฐบาล ถือว่าไม่ซื่อสัตย์ต่อประชาชนที่ลงคะแนนเสียงเลือกเข้ามา อีกทั้ง พ.ร.,,,ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 กำหนดไว้ในมาตรา 57 ว่า ทุกพรรคการเมืองไม่ได้มีการพูดถึงนโยบายเรื่องนี้ในการหาเสียง แต่กลับใช้นโยบาย นอกเหนือการรายงานไว้ ประเด็นนี้เป็นเรื่องที่กกต.ต้องพิจารณาว่าจะต้องดำเนินการอย่างไร และนโยบายกาสิโนก็เป็นนโยบายที่ผิดกฎหมาย รศ.ดร.ชิดตะวัน กล่าวอีกว่า "ฟิลิปปินส์" แม้มีทุนจีนสีเทาด้านการพนันเข้าไปตั้งฐานธุรกิจ คือ Philippine Offshore Gaming Operators (POGOs) แต่รัฐบาลของ "เฟอร์ดินันด์ มาร์กอส จูเนียร์" ไม่รับลูกง่าย ๆ ออกมาตรการกวาดล้านขนานหนักไม่แตกต่างจาก สี จิ้นผิง ส่งผลให้กาสิโนสัญชาติจีนไม่สามารถตั้งมั่นในฟิลิปปินส์ได้ ถึงแม้ว่าการกระทำนี้ จะทำให้รัฐบาลฟิลิปปินส์สูญเสียรายได้จำนวนมหาศาลก็ตาม รศ.ดร.ชิดตะวัน กล่าวว่า บางครั้งเรื่องเงิน ไม่สำคัญเท่าเรื่อง "การคัดกรองคุณภาพ" ของบุคคล โดยย้อนเหตุการณ์ "ฮาวาย" หนึ่งในมลรัฐของสหรัฐฯ ที่ "ปฏิเสธ" การสร้างกาสิโน ด้วยเหตุผลที่ว่า ไม่ต้องการให้ "บุคคลคุณภาพต่ำ" เข้ามาเป็นนักท่องเที่ยวในพื้นที่ ฮาวายเป็นดินแดนแห่งความสวยงาม ขายวัฒนธรรมและความสุนทรีย์ มากกว่าที่จะให้ผู้คนแวะพักเพื่อเล่นพนัน แม้จะมีการยกกรณีศึกษาที่เกิดขึ้นในหลาย ๆ ประเทศ เพื่อชี้ให้เห็นว่า กาสิโนบ่อนทำลายชาติ ทั้งในด้านทุนทรัพยากรมนุษย์ ที่จะติดพนันงอมแงม หรือการดึงดูดนักท่องเที่ยวคุณภาพต่ำ เข้ามาในประเทศ แต่ รศ.ดร.ชิดตะวัน ระบุว่า หากรัฐบาลยังดึงดันที่จะสร้างกาสิโนจริง ๆ ควรเอาเยี่ยงอย่าง "ประเทศพัฒนาแล้ว" คือ การทำ "ประชามติ" อย่างถ้วนหน้า เพราะสิ่งที่กำลังทำกันอยู่นั้น "เป็นของใหม่" ไม่เคยเกิดขึ้นกับประเทศไทยมาก่อน แม้จะมีความต้องการอยากทำให้สำเร็จมานานแล้วก็ตาม รศ.ดร.ชิดตะวัน ยังบอกอีกว่า การทำประชามติ แม้จะมีความสิ้นเปลืองงบประ มาณพอสมควร แต่จำเป็นต้องทำ เพราะหากเทียบกับมูลค่าความเสียหายที่จะตามมาจากประชาชนที่ติดพนันจนโงหัวไม่ขึ้นแล้ว ยังถือว่าคุ้มค่ากว่ามาก "ใครที่บอกว่า มีการเปิดร่างฯ ให้ประชาชนทั่วไปได้อ่านทำความเข้าใจเรียบร้อยแล้ว แต่ต้องยอมรับตามจริงว่า ขนาดผู้มีการศึกษาระดับสูง ยังแทบจะอ่านไม่รู้เรื่องเลยทีเดียว ดังนั้น ทางออกก็ง่าย ๆ แมน ๆ คุยกัน รัฐบาลควรพิจารณาทำประชามติอีกครั้ง" รศ.ดร.ชิดตะวัน ทิ้งท้าย ณัฐฐารินทร์ เกษมสารพิพัฒน์ หรือ เจ้เอ๋ ออกซิเจนคนจน บอกว่า ไม่เห็นด้วยและไม่ต้องการกาสิโน ตนเป็นประชาชนคนหนึ่งที่ไม่มีความรู้ แต่เมื่อมองแล้วรู้สึกว่าประเทศนี้ นักการเมืองหาเสียง แถลงนโยบายต่างๆ โดยไม่มีใครบอกว่าจะเอาการพนันถูกกฎหมายเข้ามา อยากถามว่า ได้ถามประชาชนสักคำไหมว่า การพนันสิ่งผิดกฎหมาย ประชาชนอยากได้หรือไม่ และการทำประชาพิจารณ์ คืออะไร แต่กลับมาบอกว่าไม่จำเป็นที่จะต้องทำประชามติ ถือเป็นคำพูดที่เหยียบประชาชน เพราะประเทศนี้ก็เป็นของประชาชนทุกคน เจ้เอ๋ บอกว่าไม่ต้องการ การพนันที่มอมเมา ต่อไ&#x;ปในอนาคตอะไรจะเกิดขึ้นกับเด็กๆ ประเทศไทยไม่ใช่ของนักการเมือง สิ่งที่พัฒนาในประเทศมีมากมายที่รัฐบาลทำได้ จึงควรให้ประชาชนทุกคนออกมามีส่วนร่วม ในเรื่องนี้ว่าจะเอาหรือไม่เอากาสิโน การทำประชามติ คือ ช่องทางหนึ่งเพื่อเปิดให้สังคมได้ร่วมแสดงความคิดเห็น เนื่องจาก "เอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์" เป็นเรื่องใหญ่ ที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนในอนาคต เนื่่องจากเป็นการเปิดให้มีการเล่นการพนันขนาดใหญ่และพนันอย่างเต็มรูปแบบ ธนกร คมกฤส เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน กล่าวว่า มูลนิธิฯ จะพยายามล่ารายชื่อเพื่อส่งต่อรัฐบาลในการทำประชามติ ให้ได้ 5 หมื่นรายชื่อ เพื่อเสนอรัฐบาล ให้จัดทำประชามติเสร็จทันภายใต้กรอบกำหนด คือ ต้องไม่เกิน 120 วัน หรือ 4 เดือน โดยหัวใช้หัวข้อประชามติว่า "ประชาชนเห็นด้วยหรือไม่กับการเพิ่มแหล่งพนันในสังคมโดยนโยบายรัฐบาล" ซึ่งครอบคลุมได้ทั้งกาสิโน พนันออนไลน์ หรืออื่น ๆ ธนกร ทิ้งท้ายว่า การพนันเป็นสิ่งที่พึงถูกจำกัดและควบคุมโดยนโยบายของรัฐ การจะเพิ่มแหล่งพนันโดยใช้นโยบายรัฐบาลเป็นเครื่องมือ ไม่ว่าจะโดยการบัญญัติกฎหมายฉบับใหม่ การแก้กฎหมายฉบับเดิม หรือการออกเป็นกฎหมายระดับรอง เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง และไม่มีใครเห็นด้วย หมายเหตุ : เก็บตกจากงานแถลงข่าว “ประชาชนเดินหน้าล่า 5หมื่นรายชื่อ ไม่เอากาสิโน ต้องประชามติ โดยมูลนิธิรณรงค์หยุดพนันและองค์กรภาคีเครือข่าย 200 องค์กร ร่วมกับ กลุ่มประชาชนหลากหลายอาชีพและนักศึกษา เมื่อวันที่ 29 ม.ค.2568

วันนี้ (13 ม.ค.2564) นายคำนูณ สิทธิสมาน สมาชิกวุฒิสภา ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการกิจการวุฒิสภา (วิปวุฒิ) เปิดเผยว่า จะมีการประชุมวุฒิสภาตามปกติในวันจันทร์และอังคารที่ 18-19 ม.ค.นี้ เพื่อพิจารณาระเบียบวาระ