ครม.ไฟเขียว โรงเลื่อยรับแปรรูป "ไม้ผล" จากชาวสวน

วันนี้ (2 มี.ค.2567) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) ได้ทำหนังสือถึงกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง แจ้งคำวินิจฉัยชี้ขาดของคณะกรรมก

วันนี้ (1 ธ.ค.66) หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเปิดรับลงทะเบียนแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ เช่นที่ จังหวัดหนองบั

วันนี้ (24 ต.ค.2567) โลกออนไลน์พากันแชร์ข้อมูลกรณีพบพะยูนตายในพื้นที่ทะเลอันดามัน โดยล่าสุดมีรายงานพบตายรวมกัน 7 ตัวในรอบ 6 วัน คือในพื้นที่ จ.ภูเก็ต 2 ตัว ตรัง 2 ตัว สตูล 3 ตัว นายปิ่นสักก์ สุรัสวดี

วันนี้ (24 ต.ค.2567) โลกออนไลน์พากันแชร์ข้อมูลกรณีพบพะยูนตายในพื้นที่ทะเลอันดามัน โดยล่าสุดมีรายงานพบตายรวมกัน 7 ตัวในรอบ 6 วัน คือในพื้นที่ จ.ภูเก็ต 2 ตัว ตรัง 2 ตัว สตูล 3 ตัว นายปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) ให้สัม ภาษณ์ไทยพีบีเอสออนไลน์ว่า ระบุว่า สถานการณ์พะยูนในพื้นที่ชายฝั่งทะเลอันดามัน ช่วงเดือน ต.ค.นี้ พบว่าตั้งแต่วันที่ 1–24 ต.ค.นี้ มีพะยูนเกยตื้น  8 ตัว จึงถือว่าสถานการณ์น่าเป็นห่วง อธิบดีทช.กทอง 0.6 กรัม เท่ากับ กี่ สลึงล่าวว่า ในจำนวนนี้พบว่าเป็นการเกยตื้นมีชีวิต 1 ตัว ในพื้นที่จ.ตรัง และตายในวันต่อมา นอกจากนั้นเป็นซากเกยตื้น 7 ตัว เป็นซากสด  1 ตัว และซากเน่า 6 ตัวโดยจังหวัดที่พบการเกยตื้นนั้น คือภูเก็ต  2 ตัว กระบี่ 1 ตัว ตรัง 2 ตัว และสตูลพบ 3 ตัว เมื่อจำแนกพบว่าเป็นพะยูนตัวผู้ 4 ตัว และตัวเมีย 4 ตัว ส่วนใหญ่เป็นพะยูนที่อยู่ในช่วงวัยรุ่น 5 ตัว และตัวโตเต็มวัย 3 ตัว นอกจากนี้ซากที่เกยตื้นอยู่ในสภาพซากที่เน่ามาก ขณะที่ตัวเลขของปีนี้พบตายสะสม 30 ตัวแล้ว ถือเป็นตัวเลขที่กระโดดหลังปี 2562 ที่เคยมีสถิติ 13-15 ตัว ทำให้ประชากรพะยูนที่มีตัวเลข 270-280 ตัวลดลงอย่างรวดเร็ว อธิบดี ทช.กล่าวอีกว่า จากการชันสูตรพะยูนตายมี 2 ลักษณะคือ สภาพร่างกายซูบผอม ขาดอาหาร สุขภาพไม่ดี ป่วย ส่วนอีก 1 เคสมีร่องร่องรอยพันรัดจากเชือก อธิบดีทช.กล่าวอีกว่า ส่วนตัวที่อพยพออกไป 12 พื้นที่จุดเสี่ยง กระจายไปถึงอ่าวพังงา หาดราไวย์ ป่าคลอก จ.ภูเก็ต และไปไกลสุดถึง จ.สตูล ใกล้กับมาเลเซีย สถิติพะยูนตาย 6 วันรวม 8 ตัวภาพรวมปี 2567 ตายแล้ว 30 ตัว สถิติพะยูนตาย 6 วันรวม 8 ตัวภาพรวมปี 2567 ตายแล้ว 30 ตัว ส่วนการแก้ปัญหาขณะนี้ส่งทีมสัตวแพทย์ด้านสัตว์ทะเล ลงไปประเมินสุขภาพทะเลในจุดที่พบพะยูนอพยพ และหาทางตรวจสุขภาพ รวมทั้งวางแผนถึงขั้นจะเสริมอาหารให้พะยูน เพราะจากการตรวจกระเพาะพะยูนไม่ได้กินแค่หญ้าทะเล แต่ยังกินสาหร่ายพวงองุ่น และเสริมหญ้าบางจุด รวมทั้งการทดลองปลูกสาหร่ายและผักชนิดอื่นๆเป็นแหล่งอาหารให้พะยูน สอดคล้องกับนายธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ อาจารย์ภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล คณะประมง ม.เกษตรศาสตร์ โพสต์ข้อมูลผ่านเฟซบุ๊ก Thon Thamrongnawasawat ระบุว่า Global Warming kills them all หญ้าทะเลหายไปเป็นหมื่นๆ ไร่ พะยูนล้มตายดุจใบไม้ร่วง แค่ 22 เดือนตายไปแล้ว 70 ตัว ข้อมูลที่เพื่อนธรณ์ เห็นคือสถิติพะยูนตาย รวบรวมโดยกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชเป็นกราฟที่ดูง่ายมาก แบ่งเป็น 2 ช่วง ภาวะปกติ (2548-2561) พะยูนตายเฉลี่ย 13 ตัวต่อปี จำนวนพะยูนเพิ่มขึ้นช้าๆ จากนั้นคือภาวะโลกเดือด เกิดวิกฤตหญ้าทะเลตาย แบ่งเป็น 2 ย่อยปี 2562-2565 หญ้าใน จ.ตรังเริ่มลดลง พะยูนเริ่มตายมากกว่าค่าเฉลี่ย (20.25 ตัว) หญ้าทะเลตาย หญ้าทะเลตาย ผู้เชี่ยวชาญเริ่มเป็นกังวล เพราะจำนวนตายมากกว่าอัตราเกิด หากไม่อยากให้จำนวนพะยูนลดลง ขีดจำกัดคือห้ามตายเกิน 17 ตัว แม้ที่ผ่านมาทำหลายอย่างลุล่วง เช่น แผนพะยูนแห่งชาติ ประกาศเขตอนุรักษ์ทางทะเลทั้งจังหวัดเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ยกระดับการสำรวจวิจัยช่วยชีวิต ทั้งหมดมีส่วนช่วยประคับประคอง แต่โลกเดือดไม่หยุด รุนแรงหนักขึ้น หญ้าทะเลตายเป็นพื้นที่กว้าง ทั้งจังหวัดตรัง กระบี่ และสตูล ความตายยังเริ่มลามไปตามพื้นที่ใกล้เคียง อ่านข่าว 5 วัน "พะยูน" ตาย 4 ตัว ตั้งวอร์รูมคุมเข้ม 11 จุด 3 จังหวัดอันดามัน พะยูนกินหญ้าเป็นอาหารหลัก แม้กินอย่างอื่นได้บ้าง เช่น สาหร่าย แต่พะยูนไม่ได้ปรับตัวง่ายขนาดนั้น พะยูนส่วนหนึ่งยังสู้ตายอยู่ที่เดิม อีกส่วนอพยพจากตรัง ส่วนหนึ่งขึ้นเหนือไปกระบี่-ภูเก็ต อีกส่วนลงใต้ไปสตูล แต่จะไปไหน ความตายก็ติดตามไป วิกฤตหญ้าทะเลแผ่ขยายเป็นวงกว้าง พะยูนที่ขึ้นเหนือไปสุดที่เกาะภูเก็ต อ่าวพังงา เลยไปเป็นชายฝั่งเปิดโล่งของท้ายเหมือง เขาหลัก ไม่มีหญ้าทะเลระหว่างทาง พะยูนไม่ชอบฝั่งที่มีคลื่นลมแรงแบบนั้น พะยูนลงใต้ไปสตูล สุดชายแดนคือมาเลเซีย แต่แหล่งหญ้าทะเลขาดช่วง อาจมีบ้างที่ข้ามพรมแดนไป แต่ก็คงเป็นส่วนน้อย ข้อมูลจากกรมทรัพยากรทะเลและชายฝั่ง พบว่า พะยูนผอมลงอย่างเห็นได้ชัด หลายตัวป่วย จากนั้นก็จากไปบางส่วนที่หนีไปแหล่งใหม่ ไม่คุ้นเคยอะไรเลย คนในพื้นที่ก็ไม่คุ้นกับที่จู่ๆ มีพะยูนเพิ่มขึ้นกระทันหัน ความตายจึงเกิดขึ้น เรือชน ติดเครื่องมือประมง ฯลฯ ขณะที่เราพยายามใช้มาตรการต่างๆ พูดคุย แจ้งเตือน ขอร้องแต่ทุกอย่างเร็วมากเมื่อเทียบกับความสามารถในการรับมือของเราในปัญหาใหม่ๆ ที่ไม่เคยเจอมาก่อน สิ่งที่เกิดขึ้นจึงเป็นนรก ปี 2566 พะยูนตาย 40 ตัวปี 67 พะยูนตาย 30 ตัว ถึงวันที่ 23 ต.ค. ยังเหลืออีก 2 เดือนเศษ ไม่รู้ว่าตัวเลขจะเป็นเท่าไหร่ แต่ที่แน่ๆ คือค่าเฉลี่ยตอนนี้สูงถึง 35 ตัวต่อปี มากเกิน 2 เท่าของภาวะปกติ 13 ตัวต่อปี  มากขึ้นกว่าช่วงแรกของโลกร้อนอย่างเห็นได้ชัด 20 ตัวต่อปีที่สำคัญ ตัวเลข 35 ตัวต่อปี มากกว่าขีดจำกัดพะยูนตาย 2 เท่า หรือ 17 ตัวต่อปี อ่านข่าว ไทม์ไลน์ พะยูนตายปี 62 ทะเลกระบี่-ตรัง ขณะที่ผลชันสูตรซากพะยูนตายที่ชายหาดบ้านบุโบย ต.แหลมสน อ.ละงู จ.สตูล เมื่อ 23 ต.ค.ที่ผ่านมา ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามันตอนล่าง (ศวอล.) พบเป็นพะยูนตัวเมีย ความยาวลำตัว 2.7 เมตร โตเต็มวัยความสมบูรณ์ของร่างกายอยู่ในเกณฑ์ปกติ (BCS=3/5) สภาพซากเน่ามาก ลักษณะภายนอกพบว่าผิวหนังลอกหลุด สภาพบวมอืด ส่วนของทางเดินอาหารทะลักออกมาภายนอกลำตัวบางส่วน เมื่อเปิดผ่าดูอวัยวะภายในพบว่าอวัยวะภายในส่วนใหญ่เน่าสลายไม่สามารถระบุรอยโรคได้ ส่วนของทางเดินอาหารพบอาหารจำพวกหญ้าทะเลอัดแน่นในกระเพาะอาหาร พบเส้นเอ็นความยาวประมาณ 70 ซม.ในกระเพาะอาหาร สาเหตุการตายไม่ทราบแน่ชัดเนื่องจากสภาพซากเน่ามาก ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้ทำเก็บตัวอย่างชิ้นเนื้อและอาหารในกระเพาะเพื่อส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ

หลังสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม หรือ สมอ. ส่งหนังสือให้ บริษัท ซิน เคอ หยวน สตีล จำกัด ชี้แจง ข้อเท็จจริง และข้อมูลเกี่ยวกับการจำหน่ายเหล็ก โครงการก่อสร้างอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินแห่งใหม