นับเป็นครั้งแรกของโลกที่นักวิทยาศาสตร์สามารถสกัด DNA ของมนุษย์ที่อยู่ในวัตถุอายุกว่า 20,000 ปี ได้สำ

“แม้คนดี จะตายไปแล้ว แต่คุณความดี ที่ครูตชด. 2 พ่อลูก ได้ทำไว้ตลอด 20 กว่าปีที่ผ่านมา ไม่มีวันตาย และยังถูกจดจำอยู่ในใจของผู้ที่อยู่ข้างหลังเสมอ ...อยากให้กำลังใจ ครูตชด.ทุกคนที่ยังอยู่ ขออย่าท้อ เสีย

นับเป็นครั้งแรกของโลกที่นักวิทยาศาสตร์สามารถสกัด DNA ของมนุษย์ที่อยู่ในวัตถุอายุกว่า 20,000 ปี ได้สำเร็จ โดยวัตถุชิ้นนslot 999 พา รวยtbsbet สมัคร w88 สล็อตี้เป็นฟันของกวางขนาดใหญ่ที่มนุษย์ถ้ำยุคโบราณนำมาเจาะรูเพื่อสวมเป็นสร้อยคอ โดย DNA ที่นักวิทยาศาสตร์ได้มานั้น มีต้นกำเนิดมาจากเหงื่อไคลของผู้สวมใส่สร้อยที่ทำจากฟันกวางชิ้นนี้ ซึ่งได้ฝังอยู่ภายในถ้ำมาเป็นเวลากว่า 20,000 ปี ผลตรวจ DNA เผยว่าเจ้าของสร้อยนั้นเป็นมนุษย์สายพันธุ์โฮโมเซเปียนส์ (Homo Sapiens) จากกลุ่มคนยุคโบราณทางตอนเหนือของทวีปเอเชียและยุโรป (Ancient North Eurasian) ที่ได้อาศัยอยู่ในถ้ำเดนิโซวา (Denisova) เมื่อประมาณ 20,000 ปีที่แล้ว ซึ่งตรงกับยุคหินเก่า สมัยที่มนุษย์ยังคงล่าสัตว์หาของป่าและโยกย้ายถิ่นฐานไปเรื่อย ๆ กลุ่มจากนักวิจัยจากสถาบัน Max Planck ผู้ค้นพบ DNA โบราณนี้กล่าวว่า ปกติแล้วนักวิทยาศาสตร์สามารถสกัด DNA จากวัตถุที่มนุษย์สัมผัสได้อยู่แล้ว แต่ไม่เคยมีครั้งไหนที่ตรวจสอบ DNA ของมนุษย์เก่าแก่ถึงได้มากขนาดนี้มาก่อน เนื่องจากถ้ำเดนิโซวานั้นตั้งอยู่ในแถบไซบีเรีย ทางตะวันออกของประเทศรัสเซีย ซึ่งค่อนข้างมีสภาพอากาศหนาวเย็นเกือบทั้งปี ทำให้การย่อยสลายของสิ่งของภายในถ้ำนั้นเกิดขึ้นได้ยาก โดยกลุ่มนักวิจัยนี้ได้เปิดเผยผลงานครั้งสำคัญชิ้นนี้ในวารสาร Nature ฉบับเดือนพฤษภาคม 2023 ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นการพัฒนาเทคนิคการตรวจ DNA จากวัตถุโบราณโดยที่ไม่ต้องทำลายวัตถุชิ้นนั้นได้สำเร็จเป็นครั้งแรกอีกด้วย ที่มาข้อมูล: Max Planck Institute ที่มาภาพ: Max Planck Institute “รอบรู้ ดูกระแส ก้าวทันโลก” ไปกับ Thai PBS Sci & Tech

วันนี้ (28 มี.ค.2568) กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา อัปเดตการเกิดอาฟเตอร์ช็อก หลังเหตุการณ์แผ่นดินไหว เมื่อเวลา 13.20 น.ศูนย์กลางบริเวณเมืองมัณฑะเลย์ ประเทศเมียนมา รวมตั้งแต่เวลา 13.20-18.30