วันนี้ (20 ก.ค.2566) กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.

ค่าลดหย่อนและยกเว้นเป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบในการคำนวณภาษีที่กฎหมายกำหนดให้นำไปหักออกจากเงินได้ ได้อีกหลังจากหักค่าใช้จ่ายแล้ว โดยมีการหักลดหย่อนกรณีต่าง ๆ แตกต่างกันออกไป สรุปได้ดังนี้ หักค่าลดหย่อนได้ค
วันนี้ (17 มิ.ย.2564) คลัสเตอร์โรงงานรอยัลฟูดส์ ในเขตอุตสาหกรรม จ.ปัตตานี พบผู้ติดเชื้อ COVID-19 เพิ่มอีก 58 คน ทำให้ยอดติดเชื้อสะสม 195 คน และคลัสเตอร์ของแพปลาที่ติดเชื้อเพิ่มอีก 4 คน ทำให้ยอดติดเชื้
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หลังพ้นปม 8 ปี บนเก้าอี้นายkhuyến mãi betกรัฐมนตรี ตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ ปี 60 จะเดินหน้าต่อไปอย่างไร คือคำภามที่เชื่อว่า มีคนจำนวนไม่น้อยอยากจะทราบ เบื้องต้นที่เดินหน้าต่อแน่ ๆ ในฐานะผู้นำรัฐบาลที่มีอำนาจเต็มดังเดิม คือการจัดประชุมกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก หรือ เอเปค วันที่ 18-19 พฤศจิกายน 2565 ที่จะได้จับมือกระทบไหล่ผู้นำจากนานาประเทศอย่างที่ พล.อ.ประยุทธ์ ตั้งความหวังไว้ จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ จะเข้าสู่ช่วงเวลาสำคัญว่า จะตัดสินใจเรื่องยุบสภาหรือไม่ อย่างไร จะเริ่มตั้งแต่ปลายปี 2565 หรือต้นปีหน้า หรือจะยื้อจนใกล้จะครบวาระของรัฐบาลวันที่ 23 มีนาคม 2566 ทั้งนี้เชื่อว่า จะขึ้นอยู่กับสถานการณ์ภายในประเทศ และปัจจัยต่าง ๆ ในเชิงทางการเมืองว่าจะเป็นอย่างไร แม้จะมีข้อจำกัดอยู่บนเก้าอี้นายกฯ ได้อีกเพียงประมาณ 2 ปี แต่ในอีกมุมหนึ่ง สามารถนำไปเป็นจุดขาย หรือเป็นประเด็นเดินหน้า สำหรับการไปต่อ คือทำงานได้อย่างต่อเนื่องสมบูรณ์ สานต่องานได้ทันที โดยไม่ต้องเสียเวลาไปศึกษาเรียนรู้อะไร เพราะพรรคพลังประชารัฐ โดยนายวีระกร คำประกอบ ส.ส.8 สมัย จ.นครสวรรค์ และอดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ได้ออกโรงหนุน “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เป็นแคนดิเดทนายกรัฐมนตรีในบัญชีรายชื่อของพรรคด้วย แทนที่จะส่งเฉพาะ พล.อ.ประยุทธ์ เพียงคนเดียว มิหนำซ้ำเสนอให้ลดสถานะไปเป็นรองนายกฯหรือรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมหรือมหาดไทย และหากสังเกตให้ลึกลงไป จะพบว่าเป็นแกนนำที่อยู่คนละกลุ่มกับ ร.อ.ธรรมมนัส พรหมเผ่า เมื่อครั้งยังเป็นเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ และเป็นกลุ่มเดียวกับที่ออกโรง “ตีกัน”ในข่าวที่ว่า กลุ่ม ร.อ.ธรรมมนัส จะย้ายกลับเข้าสังกัดพรรคพลังประชารัฐเหมือนเดิม เพราะส่วนหนึ่ง ไม่เห็นด้วยที่พรรคจะเสนอเฉพาะชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นแคนดิเดทนายกฯ คนเดียว ขณะที่พล.อ.ประวิตร เป็นหัวหน้าพรรคแท้ๆ และเป็นที่ดูแลส.ส.ในพรรคมาแต่ไหนแต่ไร กลับไม่ได้เสนอชื่อเป็นแคนดิเดทนายกฯเหมือนกับพรรคการเมืองอื่น ๆ ทั้ง ๆ ที่ได้แสดงฝีมือให้เห็นแล้วในช่วงรักษาการนายกฯ 38 วัน ในช่วงที่ พล.อ.ประยุทธ์ต้องพักการทำหน้าที่นายกฯ ปรากฏว่า สถานการณ์ทั่วไปไม่มีปัญหาอะไร แถมยังมีเสียงชื่นชม “บิ๊กป้อม” ทั้งในการลงพื้นที่เยี่ยมเยียนชาวบ้านที่เดือดร้อน และได้ประสานการทำงานแก้ปัญหาน้ำท่วมกับส่วนอื่น โดยเฉพาะกับนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. เท่ากับสอบผ่านการทดลองงานบนตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ยังไม่นับในสนามเลือกตั้ง ไม่มีมิตรแท้และศัตรูถาวร พรรคร่วมรัฐบาลทั้งพรรคภูมิใจไทยและประชาธิปัตย์ ประกาศชูหัวหน้าพรรคเป็นจุดขายและเป็นแคนดิเดทนายกรัฐมนตรีแล้วก่อนหน้านี้ ทางเดินหน้าไปต่อของ พล.อ.ประยุทธ์ จึงยังเป็นคำถามปริศนา ที่จะไม่มีใครให้คำตอบได้ดีที่สุด เท่ากับ พล.อ.ประยุทธ์ เอง ประจักษ์ มะวงศ์สา รายงาน
วันนี้ (4 ก.พ.2565) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ เป็นประธานเปิดงาน เทศ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หลังพ้นปม 8 ปี บนเก้าอี้นายkhuyến mãi betกรัฐมนตรี ตามบทบัญญัติรัฐ
วันนี้ (12 มี.ค.64) ที่ประชุมร่วมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และ กรรมการบริหาร พรรคประชาธิปัตย์ มีมติเสียงข
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หลังพ้นปม 8 ปี บนเก้าอี้นายkhuyến mãi betกรัฐมนตรี ตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ ปี 60 จะเดินหน้าต่อไปอย่างไร คือคำภามที่เชื่อว่า มีคนจำนวนไม่น้อยอยากจะทราบ เบื้องต้นที่เดินหน้าต่อแน่ ๆ ในฐานะผู้นำรัฐบาลที่มีอำนาจเต็มดังเดิม คือการจัดประชุมกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก หรือ เอเปค วันที่ 18-19 พฤศจิกายน 2565 ที่จะได้จับมือกระทบไหล่ผู้นำจากนานาประเทศอย่างที่ พล.อ.ประยุทธ์ ตั้งความหวังไว้ จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ จะเข้าสู่ช่วงเวลาสำคัญว่า จะตัดสินใจเรื่องยุบสภาหรือไม่ อย่างไร จะเริ่มตั้งแต่ปลายปี 2565 หรือต้นปีหน้า หรือจะยื้อจนใกล้จะครบวาระของรัฐบาลวันที่ 23 มีนาคม 2566 ทั้งนี้เชื่อว่า จะขึ้นอยู่กับสถานการณ์ภายในประเทศ และปัจจัยต่าง ๆ ในเชิงทางการเมืองว่าจะเป็นอย่างไร แม้จะมีข้อจำกัดอยู่บนเก้าอี้นายกฯ ได้อีกเพียงประมาณ 2 ปี แต่ในอีกมุมหนึ่ง สามารถนำไปเป็นจุดขาย หรือเป็นประเด็นเดินหน้า สำหรับการไปต่อ คือทำงานได้อย่างต่อเนื่องสมบูรณ์ สานต่องานได้ทันที โดยไม่ต้องเสียเวลาไปศึกษาเรียนรู้อะไร เพราะพรรคพลังประชารัฐ โดยนายวีระกร คำประกอบ ส.ส.8 สมัย จ.นครสวรรค์ และอดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ได้ออกโรงหนุน “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เป็นแคนดิเดทนายกรัฐมนตรีในบัญชีรายชื่อของพรรคด้วย แทนที่จะส่งเฉพาะ พล.อ.ประยุทธ์ เพียงคนเดียว มิหนำซ้ำเสนอให้ลดสถานะไปเป็นรองนายกฯหรือรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมหรือมหาดไทย และหากสังเกตให้ลึกลงไป จะพบว่าเป็นแกนนำที่อยู่คนละกลุ่มกับ ร.อ.ธรรมมนัส พรหมเผ่า เมื่อครั้งยังเป็นเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ และเป็นกลุ่มเดียวกับที่ออกโรง “ตีกัน”ในข่าวที่ว่า กลุ่ม ร.อ.ธรรมมนัส จะย้ายกลับเข้าสังกัดพรรคพลังประชารัฐเหมือนเดิม เพราะส่วนหนึ่ง ไม่เห็นด้วยที่พรรคจะเสนอเฉพาะชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นแคนดิเดทนายกฯ คนเดียว ขณะที่พล.อ.ประวิตร เป็นหัวหน้าพรรคแท้ๆ และเป็นที่ดูแลส.ส.ในพรรคมาแต่ไหนแต่ไร กลับไม่ได้เสนอชื่อเป็นแคนดิเดทนายกฯเหมือนกับพรรคการเมืองอื่น ๆ ทั้ง ๆ ที่ได้แสดงฝีมือให้เห็นแล้วในช่วงรักษาการนายกฯ 38 วัน ในช่วงที่ พล.อ.ประยุทธ์ต้องพักการทำหน้าที่นายกฯ ปรากฏว่า สถานการณ์ทั่วไปไม่มีปัญหาอะไร แถมยังมีเสียงชื่นชม “บิ๊กป้อม” ทั้งในการลงพื้นที่เยี่ยมเยียนชาวบ้านที่เดือดร้อน และได้ประสานการทำงานแก้ปัญหาน้ำท่วมกับส่วนอื่น โดยเฉพาะกับนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. เท่ากับสอบผ่านการทดลองงานบนตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ยังไม่นับในสนามเลือกตั้ง ไม่มีมิตรแท้และศัตรูถาวร พรรคร่วมรัฐบาลทั้งพรรคภูมิใจไทยและประชาธิปัตย์ ประกาศชูหัวหน้าพรรคเป็นจุดขายและเป็นแคนดิเดทนายกรัฐมนตรีแล้วก่อนหน้านี้ ทางเดินหน้าไปต่อของ พล.อ.ประยุทธ์ จึงยังเป็นคำถามปริศนา ที่จะไม่มีใครให้คำตอบได้ดีที่สุด เท่ากับ พล.อ.ประยุทธ์ เอง ประจักษ์ มะวงศ์สา รายงาน
วันนี้ (8 ม.ค.2568) พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับก