เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.2567 พระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายมณเฑียร เจริญผล เป็นผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ต่อจากนายประจักษ์ บุญยัง ที่ครบวาระในเดือน ก.พ.2567 การเข้ามารับตำแหน่งของนายมณเฑียรเก

เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.2567 พระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายมณเฑียร เจริญผล เป็นผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ต่อจากนายประจักษ์ บุญยัง ที่ครบวาระในเดือน ก.พ.2567 การเข้ามารับตำแหน่งของนายมณเฑียรเกิดขึ้นท่ามกลางความคาดหวังสูง ด้วยวิสัยทัศน์ที่มุ่งนำเทคโนโลยีดิจิทัล โดยเฉพาะปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาใช้ในการตรวจสอบเงินแผ่นดิน ซึ่งเป็นภารกิจหลักของ สตง. ในการพิทักษ์งบประมาณของชาติให้เกิดประโยชน์สูงสุด นายมณเฑียร แถลงเมื่อเข้ารับตำแหน่งว่า ตลอดวาระ 6 ปี เขาจะมุ่งเน้นสร้างคนเก่งคนดี มีความรู้เทคโนโลยีดิจิทัล ยึดมั่นจิตสาธารณะ เพื่อเปลี่ยนผ่าน สตง. จากองค์กรตรวจสอบแบบดั้งเดิมสู่การเป็นหน่วยงานที่ทันสมัย มีประสิทธิภาพ และได้รับการยอมรับทั้งจากหน่วยรับตรวจ สาธารณชน และชุมชนตรวจเงินแผ่นดินระดับสากล การก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งนี้เริ่มจากกระบวนการคัดเลือกของคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) เมื่อวันที่ 7 ก.พ.2567 ซึ่งเชิญผู้สมัครที่มีคุณสมบัติตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ.2561 จำนวน 7 คน มาสัมภาษณ์และแสดงวิสัยทัศน์ นายมณเฑียร ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่งรองผู้ว่าการ สตง. ได้รับคะแนนเสียงเกิน 2 ใน 3 จาก คตง. ด้วยวิสัยทัศน์ที่เน้นการพัฒนาองค์กรใน 3 แกนหลัก นายมณเฑียร เน้นย้ำถึงความสำคัญของ "เงินแผ่นดิน" โดยอ้างถึงพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ว่า "เงินแผ่นดินคือเงินของประชาชนทั้งชาติ" ซึ่งเป็นหลักการที่ สตง. และคนตรวจเงินแผ่นดินทุกคนยึดถือ เขามั่นใจว่า การพัฒนาบุคลากรและเทคโนโลยีจะสร้างอัตลักษณ์ของ สตง. ที่ยึดมั่นจิตสาธารณะ และยกระดับให้เป็นองค์กรที่มีแบรนด์แข็งแกร่งในสายตาสาธารณชน นายมณเฑียร เจริญผล เป็น "ลูกหม้อ" ของ สตง.อย่างแท้จริง ด้วยประสบการณ์การทำงานในองค์กรนี้มากว่า 20 ปี เริ่มต้นจากตำแหน่งนักวิชาการตรวจเงินแผ่นดิน ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาได้เรียนรู้กระบวนการตรวจสอบเงินแผ่นดินอย่างละเอียด ก่อนจะไต่เต้าขึ้นสู่ตำแหน่งที่มีความรับผิดชอบสูงขึ้นเรื่อย ๆ ได้แก่ นอกเหนือจากงานใน สตง. นายมณเฑียรยังมีประสบการณ์ในวงการราชการและการตรวจสอบที่กว้างขวาง เช่น ด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริต เป็นอนุกรรมการในคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (อนุ คตช.), ป.ป.ช., และ ปปง. ด้านการจัดซื้อจัดจ้าง เป็นกรรมการว่าด้วยการพัสดุ (กวพ.) ในกระทรวงการคลัง, สำนักงานอัยการสูงสุด และรัฐสภา ด้านการเงินการคลัง เป็นกรรมการความรับผิดทางแพ่งของกระทรวงการคลัง และกรรมการพิจารณารางวัลองค์กรที่มีความเป็นเลิศของกรมบัญชีกลาง ด้านนิติบัญญัติและปฏิรูป เป็นกรรมาธิการและผู้ช่วยเลขานุการคณะกรรมาธิการวุฒิสภาที่ร่าง พ.ร.ป. ว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ.2561, อนุกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญในสภาปฏิรูปแห่งชาติ และที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการสภาผู้แทนราษฎร ด้านการศึกษา เป็นกรรมการสภาการศึกษาโรงเรียนนายร้อยตำรวจ และกรรมการประจำหลักสูตรของสถาบันพระปกเกล้า นายมณเฑียรจบปริญญาตรีและโทด้านบริหารธุรกิจและนิต918kissฟรีเครดิต100ิศาสตร์ รวมถึงรัฐประศาสนศาสตร์ และประกาศนียบัตรบัณฑิตทางกฎหมายมหาชน เขายังผ่านหลักสูตรอบรมชั้นนำ เช่น หลักสูตรวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ. รุ่น 58), หลักสูตรผู้บริหารระดับสูงด้านการยุติธรรม (บยส. รุ่น 18), และหลักสูตรผู้บริหารการตรวจเงินแผ่นดิน (พตส. รุ่น 3) เกียรติประวัติที่โดดเด่นคือการได้รับรางวัลข้าราชการพลเรือนดีเด่นของ สตง. ในปี 2544 และรางวัลจากสถาบันพระปกเกล้าและกรมบัญชีกลาง ในฐานะ CIO และรองผู้ว่าฯ สตง. นายมณเฑียรได้วางรากฐานสำคัญให้ สตง. ไว้อย่างมากมาย เพียงไม่กี่เดือนหลังเข้ารับตำแหน่ง นายมณเฑียรต้องเผชิญบททดสอบครั้งใหญ่ เมื่อวันที่ 28 มี.ค.2568 เกิดแผ่นดินไหวรุนแรง 8.2 จากรอยเลื่อนสะกายในเมียนมา ส่งผลให้อาคารสำนักงาน สตง. แห่งใหม่บริเวณ ถ.กำแพงเพชร ซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้าง ถล่มลงมา โครงการนี้เริ่มต้นในสมัยนายประจักษ์ บุญยัง อดีตผู้ว่าฯ สตง. โดยลงนามสัญญาว่าจ้างเมื่อวันที่ 23 พ.ย.2563 กับกิจการร่วมค้า ไอทีดี-ซีอาร์อีซี (บริษัทอิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ และไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10) มูลค่า 2,136 ล้านบาท และสัญญาควบคุมงานกับกิจการร่วมค้า PKW มูลค่า 74.653 ล้านบาท โครงการนี้มีกำหนดแล้วเสร็จในวันที่ 31 ธ.ค.2566 แต่ล่าช้ามาหลายครั้ง และคืบหน้าเพียงร้อยละ 30 ก่อนเกิดเหตุ เหตุการณ์นี้ส่งผลให้มีคนงานก่อสร้างกว่า 80 คนติดอยู่ใต้ซากอาคาร สร้างความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน รวมถึงจุดคำถามถึงคุณภาพการก่อสร้าง การออกแบบ และการบริหารจัดการงบประมาณ ซึ่งขณะนี้หน่วยงานต่าง ๆ เช่น กรมโยธาธิการและผังเมือง และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กำลังตรวจสอบว่า มีปัจจัยอื่นนอกเหนือจากแผ่นดินไหว เช่น การใช้เหล็กเส้นไม่ได้มาตรฐาน หรือการออกแบบที่ไม่เหมาะสมหรือไม่ 28 มี.ค.2568 นายสุทธิพงษ์ บุญนิธิ รองผู้ว่าฯ และโฆษก สตง. ออกมาแถลงว่า การก่อสร้างมีความโปร่งใสทุกขั้นตอน และช่วยประหยัดงบประมาณแผ่นดินได้ 386 ล้านบาทจากราคากลาง 2,522.15 ล้านบาท ต่อมาในวันที่ 29 มี.ค. สตง. ออกแถลงการณ์ผ่านแฟนเพจอย่างเป็นทางการ แสดงความเสียใจต่อความสูญเสียจากเหตุแผ่นดินไหว และระบุว่าได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยและตรวจสอบสาเหตุ แต่คำชี้แจงเหล่านี้ไม่เพียงพอต่อการคลายข้อสงสัยของสาธารณชนที่ต้องการคำตอบที่ชัดเจนกว่านี้ สถานการณ์ยิ่งตึงเครียดเมื่อมีจดหมายเวียนภายในของ สตง. ลงนามโดย "ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน" ซึ่งคาดว่านายมณเฑียรเป็นผู้เขียน หลุดออกสู่สาธารณะ เนื้อหาของจดหมายระบุถึงการปลุกขวัญทีมงานว่า "สูดลมหายใจเยอะ ๆ กุมมือกันให้แน่น และก้าวไปพร้อม ๆ กัน" พร้อมมีข้อความตัดพ้อว่า "เราไม่ได้รับความเป็นธรรม" และเน้นย้ำถึงความฝันในการมี "บ้านใหม่" หรือสำนักงานใหม่ที่ถาวรของ สตง. จดหมายนี้ถูกเผยแพร่สู่สาธารณะในช่วงที่สังคมกำลังโศกเศร้าและลุ้นการช่วยชีวิตคนงาน โดยเจ้าหน้าที่กู้ภัยยังคงทำงานแข่งกับเวลา ทำให้เกิดกระแสตีกลับอย่างรุนแรง นางอังคณา นีละไพจิตร สมาชิกวุฒิสภากลุ่มประชาสังคม และอดีตกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ วิจารณ์ว่า "การพูดถึงความฝันของการมีบ้านหลังใหม่ของ สตง. เทียบไม่ได้เลยกับแรงบีบคั้นในหัวใจของครอบครัวผู้สูญเสีย ซึ่งเป็นความเจ็บปวดที่ไม่อาจประเมินค่าได้" ขณะที่ ผศ. ปริญญา เทวานฤมิตรกุล อดีตรองอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า "ผู้ว่าฯ สตง. ต้องการให้กำลังใจคนในองค์กร แต่กลับลืมพูดถึงความสูญเสียของชีวิตจากอาคารที่ถล่ม และยังมี 70 ชีวิตที่ติดอยู่ใต้ซาก ซึ่งควรเป็นสิ่งที่ต้องเร่งช่วยเหลือ แทนที่จะได้กำลังใจ กลับกลายเป็นถูกวิจารณ์หนัก" เหตุการณ์ตึกถล่มจากแผ่นดินไหวเมียนมา บททดสอบแรกที่ท้าทายความสามารถในการบริหารวิกฤตและการสื่อสาร ในสภาวการณ์ที่ สตง. เปลี่ยนจากบทบาทผู้ตรวจสอบการใช้เงินแผ่นดินของผู้อื่น กลายเป็นผู้ถูกตรวจสอบจากสังคม ในประเด็นความโปร่งใสและความรับผิดชอบของโครงการก่อสร้างมูลค่ากว่า 2,136 ล้านบาท และจดหมายเวียนที่สะท้อนถึงความพยายามของนายมณเฑียรในการปลุกขวัญและกำลังใจให้บุคลากรในองค์กรที่อาจรู้สึกท้อแท้จากเหตุการณ์ แต่การขาดการกล่าวถึงความสูญเสียของชีวิตและการมุ่งเน้นที่ "ความฝัน" ขององค์กรมากกว่าความเดือดร้อนของผู้ประสบภัย แม้จดหมายนี้จะเป็นเอกสารภายในและถูกยกเลิกในภายหลัง แต่ภาพลักษณ์ของ สตง. และนายมณเฑียรได้ถูกสังคมตั้งคำถามถึงความเหมาะสมและความรับผิดชอบของผู้นำองค์กรที่ควรแสดงความเห็นอกเห็นใจต่อผู้ได้รับผลกระทบมากกว่านี้ อ่านข่าวเพิ่ม : สตง.ต้องปกป้องงบแผ่นดิน ทัวร์ลงหนักจดหมายเวียนผู้ว่าฯ “ซิน เคอ หยวน” สตีล บริษัทผลิตเหล็กก่อสร้าง “ทุนจีน-หุ้นไทย” หวังพบผู้รอด! “ชัชชาติ” ระดม จนท.กู้ภัย ขุดโพรงจุดพบสัญญาณชีพ

ประท้วงชลประทานเปิดประตูระบายน้ำพระงาม จ.สิงห์บุรี ปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาในพื้นที่ภาคกลางเพิ่มสูงขึ้น และเข้าท่วมหลายจังหวัด โดยในจังหวัดสิงห์บุรี ชาวบ้าน 3 อำเภอ รวมตัวประท้วงเจ้าหน้าที่ชลประทานไ

กรณีกิดอุบัติเหตุรถบัสทัศนศึกษา นำนักเรียนจากวัดเขาพระยาสังฆาราม จ.อุทัยธานี เกิดไฟไหม้บริเวณถนนวิภา

นิยายชีวิต โดย : Budi Raharjo
เรื่องและภาพโดย : Budi Raharjo
[[คลิก]] อ่านเรื่องราว “นิยายชีวิต” ได้ที่นี่..