ฝาก 10 รับ 110-ผบ.ตร.สั่งตั้งคณะทำงานยกเครื่อง ปรับปรุงแก้ไขกฎระเบียบรับ ตร.สัญญาบัตร

วันนี้ (30 ส.ค.2566) ที่ห้องพิจารณา 907 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีเผารถยนต์ตำรวจ หมาฝาก 10 รับ 110

วันที่ 21 ก.ค.2566 ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากงานห้องผ่าตัดโรงพยาบาลบึงกาฬ ว่า ทีมแพทย์ได้ผ่าตัดถุงน้ำในรังไข่ขนาดประมาณ 24x34 เซนติเมตร น้ำหนัก 9 กิโลกรัม ให้กับผู้ป่วยหญิงรายหนึ่งได้สำเร็จ หลังผู

วันนี้ (30 ส.ค.2566) ที่ห้องพิจารณา 907 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีเผารถยนต์ตำรวจ หมายเลขดำ อ.1847/2565 ที่พนักงานอัยการคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ฟ้องวัยรุ่นชาย 4 คน เป็นจำเลยที่ 1-4 ในความผิดฐานร่วมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป มั่วสุมชุมนุมก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง, ร่วมกันวางเพลิงเผาทรัพย์ผู้อื่นให้ได้รับความเสียหาย, ฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ อัยการโจทก์ฟ้องระบุความผิดจำเลยสรุปว่า เมื่อวันที่ 11 มิ.ย.2565 ต่อเนื่องกัน ถึงเวลากลางคืน จำเลยกับฝาก 10 รับ 110พวกประมาณ 50-80 คน ซึ่งรวมเยาวชนชายอีก 2 คน ซึ่งถูกแยกตัวดำเนินคดีได้ร่วมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปมั่วสุมชุมนุมก่อความวุ่นวาย ทำกิจกรรมทางการเมืองโดยไม่ได้รับอนุญาต บริเวณใต้ทางด่วนดินแดง ถนนวิภาวดี ใช้กำลังประทุษร้ายขู่เข็ญกำลังตำรวจที่มารักษาความปลอดภัย นอกจากนี้ พวกจำเลยยังร่วมกันวางเพลิงเผาทรัพย์รถยนต์ตราโล่หมายเลขทะเบียน 07444 และรถยนต์หมายเลขทะเบียน 6 กจ 5593 กทม. ของตำรวจที่ใช้ปฏิบัติหน้าที่จนได้รับความเสียหายเป็นเงิน 91,692 บาท ในวันนี้ จำเลยทั้ง 4 พร้อมทนายความเดินทางมาฟังคำพิพากษาตามนัด ศาลพิเคราะห์คำเบิกความและพยานหลักฐานโจทก์จำเลยทั้งสองฝ่ายแล้ว เห็นว่า ฝ่ายโจทก์มีตำรวจ 4 นาย ที่อยู่ในเหตุการณ์เบิกความในข้อเท็จจริงมีรายละเอียดสอดคล้องกันว่า ในวันเกิดเหตุ มีการชุมนุมปราศรัยที่บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิเสร็จแล้ว เวลาประมาณ 18.00 น. ต่อมาหลังจากตรวจสอบภาพวงจรปิดและภาพจากสื่อออนไลน์พบว่า มีผู้ชุมนุมประมาณ 50-80 คนขี่รถจักรยานยนต์ มาร่วมกันมั่วสุมชุมนุมก่อความวุ่นวายที่บริเวณใต้ทางด่วนดินแดง โดยไม่ได้รับอนุญาต และไม่มีมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 โดยมีการขวางปาสิ่งของ ยิงลูกแก้วหนังสติ๊ก ปะทัดใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงไม่ใช่การชุมนุมทางการเมืองโดยสงบปราศจากอาวุธ เป็นการมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ก่อความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง ที่จำเลยที่ 1, 3 และ 4 อ้างว่าแค่ขี่รถจักรยานยนต์ผ่านเจ้าหน้าที่ตำรวจเท่านั้น ไม่ได้เผาทำลายรถยนต์ 2 คัน ของเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นฟังไม่ขึ้น เห็นว่าจำเลยทั้ง 3 กระทำผิดตามฟ้องจริง ศาลพิพากษาว่า จำเลยที่ 1, 3 และ 4 กระทำผิดกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษจำคุก ฐานร่วมกันวางเพลิงเผาทรัพย์ให้ได้รับความเสียหาย ซึ่งเป็นบทหนักสุด ขณะเกิดเหตุจำเลยที่ 1, 3 และ 4 มีอายุ 18-19 ปีเศษ ย่อมรู้ผิดชอบชั่วดีแล้ว เห็นควรให้จำคุกจำเลยที่ 1, 3 และ 4 คนละ 4 ปี คำเบิกความของจำเลยทั้ง 3 เป็นประโยชน์แก่การพิจารณาคดีอยู่บ้าง ลดโทษให้คนละ 1 ใน 4 คงจำคุกจำเลยที่ 1, 3 และ 4 คนละ 3 ปี ไม่รอลงอาญา ส่วนจำเลยที่ 2 พยานหลักฐานโจทก์ฟังได้เพียงว่า กระทำผิดฐานขัดขืนคำสั่งของเจ้าพนักงานตำรวจที่บอกให้หยุดแต่ไม่ยอมหยุดเท่านั้น ไม่ปรากฏภาพว่า จำเลยที่ 2 ร่วมวางเพลิงเผาทรัพย์รถยนต์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย ให้จำคุก 2 ปี ลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกจำเลยที่ 2 ไว้ 1 ปี 4 เดือน ไม่รอลงอาญา หลังรับฟังศาลตัดสินคดีแล้วเสร็จ ทนายความของจำเลยทั้ง 4 ได้ยื่นประกันตัวชั่วคราวในระหว่างอุทธรณ์สู้คดี ต่อมาทนายความจำเลยทั้ง 4 ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ขอปล่อยชั่วคราว โดยศาลพิจารณาแล้วเห็นควรส่งคำร้องของจำเลยทั้ง 4 ให้ศาลอุทธรณ์ พิจารณาเพื่อมีคำสั่ง ซึ่งอาจจะใช้เวลาพิจารณา 1-2 วัน เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ จึงนำตัวจำเลยทั้ง 4 ไปคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ในระหว่างรอคำสั่งของศาลอุทธรณ์

วันนี้ (20 ก.ค.2565) นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เปิดเผยข้อเท็จจริงถึงกรณีประเ

คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 95
วันนี้ (4 ต.ค.2566) นายอนันต์ชัย ไชยเดช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า “Super Big Surprise พรุ่งนี้ (5 ต.ค.) เวลา 10.00 น.ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สนามบินน้ำ โดยระบุว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่